“ทีเส็บ” ชูกลยุทธ์เสริมตลาดไมซ์อินเตอร์ฯ ดัน“พัทยา-หัวหิน-กรุงเทพฯ” สามเมืองสวรรค์แห่งการจัดงานเชิงธุรกิจและการพักผ่อน
โพสเมื่อ : Saturday, August 26th, 2017 : 10.50 am
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เดินหน้าตอกย้ำจุดขายประเทศไทยต่อตลาดนักเดินทางกลุ่มไมซ์ (MICE) ต่างประเทศ ชูกลยุทธ์สื่อสารการตลาดสนองตอบนโยบายเศรษฐกิจตามโมเดล ไทยแลนด์ 4.0 และ โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (The Eastern Economic Corridor) โดยเล็งการเติบโตของธุรกิจไมซ์ในพื้นที่ พัทยา หัวหิน และกรุงเทพฯ รองรับโอกาสจากการลงทุน และระบบคมนาคมความเร็วสูง เพื่อหนุนรายได้อุตสาหกรรมไมซ์ควบคู่การพัฒนาประเทศ
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ตามที่ภาครัฐ ได้ประกาศนโยบายและทิศทางในการพัฒนาเศรษฐกิจสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 โดยมีการออกมาตรการเพื่อการปฏิรูปภาคเศรษฐกิจ อาทิ การส่งเสริมสภาพแวดล้อมด้านการลงทุน การพัฒนานวัตกรรมและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยทีเส็บ เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของภาคธุรกิจและกิจกรรมที่เกี่ยวกับไมซ์ ที่จะสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นสถานที่สำหรับการประชุมสัมมนา และจะส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ภายในประเทศ
“ทีเส็บ พัฒนากลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาประเทศในภาพรวม โดยมุ่งหวังให้กิจกรรมด้านไมซ์เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันความเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ทีเส็บ เดินหน้าสร้างเครือข่ายร่วมกับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้กลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดเพื่อดึงดูดให้องค์กรต่างๆ มาจัดกิจกรรมไมซ์ในประเทศไทย ซึ่งแคมเปญล่าสุด ทีเส็บนำเสนอจุดเด่นของประเทศไทย ใน 3 ด้าน ได้แก่ โอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง ความหลากหลายของสถานที่และจุดหมายในการจัดกิจกรรมไมซ์ รวมถึงความมีเอกลักษณ์และความเป็นมืออาชีพของบุคลากรของไทย ที่สามารถรองรับการจัดงานกิจกรรมไมซ์ระดับโลก โดยองค์ประกอบเหล่านี้ เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นสวรรค์แห่งแห่งการจัดงานเชิงธุรกิจและการพักผ่อนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ทีเส็บ ยังดำเนินกิจกรรมเพื่อตอกย้ำการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยและอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดจัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศไทย International Media Familiarisation Trip (IMFT2017) ระหว่างวันที่ 15-19 สิงหาคมนี้ โดยเชิญผู้สื่อข่าวต่างประเทศ 35 สำนักข่าวจาก 16 ประเทศ มาเยี่ยมชมและสัมผัสศักยภาพของจุดหมายปลายทางด้านไมซ์ชั้นนำของไทย ได้แก่ พัทยา หัวหิน และกรุงเทพฯ ภายใต้ธีม “CONNECT Thailand: Kingdom of Bleisure, นำเสนอประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์ที่ยังเพียบพร้อมด้วยกิจกรรมพักผ่อนที่สร้างความประทับใจได้อย่างตอบโจทย์นักเดินทางกลุ่มไมซ์
สำหรับการโปรโมทศักยภาพด้านไมซ์ของทั้งสามเมือง ทีเส็บ นำเสนอจุดแข็งในด้านต่างๆ อาทิ พัทยา เมืองแห่งธุรกิจและการพักผ่อน ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี พื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยมีการคาดการณ์เม็ดเงินลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง 1.505 ล้านล้านบาท ในช่วงระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาโครงการระดับใหญ่หลายโครงการ อาทิ การยกระดับสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือแหลมฉบัง โครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูง โครงการพัฒนาโครงข่ายด้านคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงการจูงใจนักลงทุนด้วยมาตรการทางภาษี เพื่อส่งเสริมให้ อีอีซี เป็นฐานของ 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคตตามเป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้จะส่งผลดีต่อพัทยาในการเป็นจุดหมายของนักธุรกิจและนักเดินทางกลุ่มไมซ์
ผนวกกับความพร้อมในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่พัทยามีรองรับอยู่แล้ว เช่น ศูนย์แสดงนิทรรศการ สถานที่จัดงานประชุมสัมมนาที่มีให้เลือกหลากหลาย โรงแรมห้องพักหลายระดับ แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลอันเป็นที่นิยม และแหล่งกิจกรรมผ่อนคลายสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ โดยโครงการที่เกิดขึ้นใหม่ในพัทยา อาทิ ศูนย์การจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติแห่งใหม่ที่สวนนงนุช พร้อมหอประชุมขนาดใหญ่ รองรับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เป็นจำนวนมาก คานโชว์ (KANN Show) ซึ่งเป็นการแสดงไลฟ์โชว์โดยประยุกต์เรื่องราวจากวรรคดีไทย และ เฮลท์แลนด์ สปา พัทยา (Health Land Spa Pattaya) ซึ่งเป็นหนึ่งในด้านการนวดและสปาในระดับภูมิภาค
สำหรับ หัวหิน เป็นจุดหมายที่สามารถเชื่อมโยงกับเมืองพัทยาด้วยบริการเรือเฟอรรี่ข้ามอ่าวไทยด้วยเวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง โดยเป็นเมืองชายทะเลที่มีมนต์เสน่ห์และเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระราชวงศ์ของไทย ปัจจุบัน มีโรงแรมระดับห้าดาวหลากหลายแบรนด์ และยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ตอบโจทย์ในการจัดกิจกรรมด้านไมซ์ ซึ่งเน้นความหรูหรา พิเศษและแตกต่าง ทั้งนี้ หัวหินมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไมซ์ที่ครบครัน อาทิ สนามกอล์ฟ สถานที่ให้บริการสปาระดับหรู ห้องพัก และสถานที่จัดงานระดับใหญ่ โดยนักเดินทางที่มาจัดกิจกรรมไมซ์ในหัวหิน สามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศเมืองชายทะเล ความหลากหลายของร้านอาหารทะเล และ สีสันของตลาดโต้รุ่ง ทั้งนี้ ปัจจัยบวกด้านโครงการพัฒนาด้านการคมนาคม ตามแผนเชื่อมโยงกรุงเทพฯ-หัวหินด้วยรถไฟความเร็วสูง จะส่งผลต่อการขยายตัวของกิจกรรมด้านไมซ์ในหัวหินในอนาคต ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 94,670 ล้านบาท และอยู่ในระหว่างการเปิดรับฟังเสียงภาคเอกชน
ส่วนกรุงเทพมหานคร หนึ่งในเมืองหลวงของเอเชีย สามารถตอบสนองทุกความต้องการของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ โดยกรุงเทพฯ ถือเป็นฮับแห่งอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย มีศูนย์การประชุมและนิทรรศการระดับโลก โรงแรม หลากหลายระดับ แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งท่องเที่ยวและบันเทิง สำหรับการเดินหน้าพัฒนากรุงเทพฯ มีโครงการขยายและพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการเดินทางสัญจร และการพัฒนาพลังสยาม หรือ Siam Synergy ด้วยการแท็กทีมของ 3 กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าที่ปักหมุดทำเลสยาม-ปทุมวัน คือ ศูนย์การค้าเอ็มบีเค, กลุ่มสยามพิวรรธน์และกลุ่มธุรกิจสยามสแควร์ของสำนักทรัพย์สินจุฬาฯ เพื่อตอกย้ำตัวตนของย่านสยามในฐานะศูนย์กลางธุรกิจ การค้า การช็อปปิ้ง และศิลปวัฒนธรรม-ความบันเทิงที่หลากหลายและครบทุกมิติ
“สำหรับการนำเสนอจุดเด่นด้านไมซ์จากสามจุดหมายปลายทางต่อกลุ่มสื่อมวลชนต่างประเทศในปีนี้ ทางทีเส็บต้องการสร้างประสบการณ์ตรงและมุมมองต่อประเทศไทยทั้งความมีระดับของสถานที่พัก สถานที่จัดกิจกรรม จุดเด่นทางวัฒนธรรม อาหารไทย และกิจกรรมเพื่อสังคม ที่ทำให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายการจัดงานไมซ์ ที่มีความหมายและน่าจดจำได้เป็นอย่างดี” นางศุภวรรณ กล่าว
กิจกรรม IMFT ของทีเส็บในปีนี้ จัดขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรหลักที่มีความสำคัญ อาทิ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยเป็นความร่วมมือที่มุ่งส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจและอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่เป้าหมาย
ดร. ชลจิต วรวังโส วีรกุล ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่าง EEC และ ทีเส็บ โดย EEC ได้มาร่วมให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชนต่างประเทศในอุตสาหกรรมไมซ์ เกี่ยวกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งเป็น Flagship Project ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งนี้ ทาง EEC ได้ให้ข้อมูลโดยสรุปแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลักด้วยกัน คือ (1) นำเสนอแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (2) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใน EEC เป็นการลงทุนที่พร้อมรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมรวมถึงการสร้างเมืองเชิงนิเวศ (Eco-cities) ที่น่าอยู่ พัฒนาเมืองให้มีความเชื่อมโยงให้เกิดเป็น “Smart City” ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมไมซ์ในอนาคต และ (3) การพบปะกับสื่อมวลชนในครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายระหว่าง EEC กับ ทีเส็บ ในอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยสู่นานาชาติได้มากขึ้นในอนาคต
ด้าน นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เป็นผู้นำของผู้ประกอบการธุรกิจสนามบินของประเทศไทย สายธุรกิจหลักคือการจัดการดำเนินงานและการพัฒนาสนามบิน ปัจจุบันมีสนามบินนานาชาติ 6 แห่งภายใต้ความรับผิดชอบ: ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่, แม่ฟ้าหลวงเชียงราย และสุวรรณภูมิ ซึ่งทั้งหมดนี้รองรับ ทั้งเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศ ทอท. ได้คำนึงถึงการมุ่งสร้างองค์กรสู่ความเป็นเลิศ โดยมุ่งมั่นยกระดับการพัฒนาคุณภาพบริการ การพัฒนาสมรรถนะบุคลากร การปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้มีความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวไป อย่างไม่หยุดนิ่ง รวมทั้งได้ให้ความสำคัญในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล อันจะเป็นแนวทางที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการท่าอากาศยานภายใต้คำขวัญ “ปลอดภัยคือมาตรฐาน บริการคือหัวใจ”
ส่วน นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หน่วยธุรกิจบริการการบิน และ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันการบินไทย มีเครื่องบินในฝูงบินจำนวนทั้งหมด 96 ลำ ให้บริการสู่ 76 จุดหมาย หรือ 77 สนามบิน ใน 32 ประเทศทั่วโลก โดยมีเที่ยวบินแบบไป-กลับ จำนวน 1,086 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศ และเที่ยวบินต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเส้นทางบินสู่ทวีปยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย นอกจากนี้ การบินไทยเตรียมขยายเส้นทางบินสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย ทั้งนี้ตลอดการดำเนินงาน 57 ปี การบินไทยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมด้านสินค้าและการบริการจากหน่วยงานนานาชาติเป็นจำนวนมาก และติดอันดับเป็นหนึ่งในสายการบินที่ได้รับความนิยมสูงสุด จากการสำรวจของนิตยสารการท่องเที่ยวชั้นนำ และจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้โดยสาร
อุตสาหกรรมไมซ์นับเป็นธุรกิจหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยในปี พ.ศ. 2558 อุตสาหกรรมไมซ์สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศสูงถึง 220,000 ล้านบาท และสร้างงานอีกจำนวน 164,427 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังสร้างรายได้จากทางภาษีคิดเป็นเงินกว่า 10,400 ล้านบาทด้วย
นอกจากนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย ได้รับข่าวดีจากการจัดอันดับโดยสมาคมที่ดำเนินงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ในระดับนานาชาติ อาทิ สมาคมการประชุมนานาชาติของโลก หรือ ICCA จัดอันดับไทยให้เป็นเมืองที่มีจำนวนการจัดประชุมสูงถึง 174 งาน โดยเติบโตสู่อันดับที่ 24 จากอันดับที่ 27 เมื่อปี 2558 โดย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ก็มีลำดับที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน ด้านการแสดงสินค้านานาชาติ สมาคมด้านการแสดงสินค้าระดับโลก หรือ UFI ให้ ไทยติดอันดับ 1 ของอาเซียนในด้านพื้นที่ขายสุทธิของการจัดงานแสดงสินค้าตลอด 5 ปี (พ.ศ.2554-2558)
สำหรับ ในปีงบประมาณ 2560 ทีเส็บคาดการณ์ว่า จะมีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางเข้าในประเทศไทยรวม 27.1 ล้านคน สร้างรายได้ 155,000 ล้านบาท แบ่งเป็นนักเดินทางกลุ่มไมซ์ต่างประเทศ 1,109,000 คน สามารถสร้างรายได้ประมาณ 101,000 ล้านบาท และ นักเดินทางกลุ่มโดเมสติกไมซ์ 26 ล้านคน สร้างรายได้ 54,000 ล้านบาท และยังสามารถบรรลุเป้าหมายในการขับเคลื่อนไมซ์ให้เป็นกลไกในการสร้างความเจริญ กระจายรายได้ผ่านอุตสาหกรรมไมซ์สู่ภูมิภาค สร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ในปี 2560 ประเทศไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่สำคัญระดับนานาชาติในปีนี้อีกหลายงาน อาทิ งาน 2017 PCMA Global Professional Conference – Asia Pacific วันที่ 28 – 31 สิงหาคม ที่กรุงเทพฯ งาน UIA’s Associations Roundtable Asia-Pacific 2017 วันที่ 21 – 22 กันยายน ที่ จ.เชียงใหม่ งาน IT&CM Asia & CTW Asia Pacific 2017 วันที่ 26-28 กันยายน ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานไมซ์เทรดโชว์สำคัญของภูมิภาคเอเชียที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 16 งาน SIGGRAPH Asia 2017 วันที่ 27-30 พฤศจิกายน ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานประชุมสัมมนาและนิทรรศการด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกและแอนิเมชันของกลุ่มประเทศทั่วโลก และในปี 2562 ประเทศไทยยังคว้าสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพการจัดงาน SITE Global Conference 2019 งานประชุมระดับโลกของหน่วยงานด้านธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล
- บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า ครัวเมอร์ลิน อิ่มอร่อยกันได้ ทุกเสาร์-อาทิตย์...
- อร่อยกับบุฟเฟ่ต์อาหารพื้นเมืองภูเก็ต ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ที่โรงแรมเพิร์ล ภ...
- กลุ่มโรงแรมหาดไม้ขาว ร่วมใจจัดงานสัปดาห์วันชาติออสเตรเลีย...
- เปิดประสบการณ์กระบะพันธุ์ยักษ์ แบรนด์น้องใหม่ สวยครบจบในคันเดียว...
- โรงแรมรามาดา พลาซ่า เจ้าฟ้า เปิดตัวพื้นที่แสดงผลงานศิลปะ Art @ Chaofah พร้อมจัด...
- มันส์สะใจกลางภูเก็ตพร้อมระเบิด ในงาน Amazing Thailand Presents The Iconic Phuket...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)