เปิดประสบการณ์กระบะพันธุ์ยักษ์ แบรนด์น้องใหม่ สวยครบจบในคันเดียว

MG แบรนด์รถยนต์เก่าแก่สัญชาติอังกฤษเดินหน้าเต็มกำลังหวังแบ่งเค้กตลาดกระบะในประเทศไทย ส่ง NEW MG EXTENDER ที่มาพร้อมนิยาม “กระบะพันธุ์ยักษ์ ที่ให้มากกว่าความแกร่ง”  อวดโฉมในเมืองไทยแล้ว

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา บริษัท เอ็ม จี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดประสบการณ์นำคณะสื่อมวลชนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต สัมผัสเทคโนโลยีและความสะดวกสบายคุ้มค่ากับยานยนต์น้องใหม่ กระบะ NEW MG EXTENDER โดยมีเส้นทางการทดสอบจากจังหวัดภูเก็ต ปลายทางที่ยอดเขาไข่นุ้ย ทะเลหมอกอันดามัน ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โดยได้รับเกียรติจากคุณกิตติ์พิพัฒน์ สุนทรสัจบูลย์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์

และ คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม จี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต้อนรับและให้รายละเอียดข้อมูลผลิตภัณฑ์ตลอดจนปล่อยขบวนรถคาราวานสื่อมวลชนในครั้งนี้

ซึ่งการสัมผัสสมรรถนะของเจ้ากระบะ NEW MG EXTENDER นั้นทาง MG ได้เตรียมรถ NEW MG EXTENDER รุ่น Double Cab 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ 6 Speed ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งเป็นตัว Top ของกระบะ ในรุ่นนี้มาให้ทดสอบ

NEW MG EXTENDER ทุกรุ่นมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่นขนาด 2.0 L เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติและแบบธรรมดา 6จังหวะ และสามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง แบบ ECO และแบบ POWER มีให้เลือกทั้งแบบ กระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และ แบบ 4 ประตู (Double Cab) รวม 9 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาทในรุ่น Giant Cab และราคาเริ่มต้นที่ 759,000 บาท สำหรับ Double Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 1,029,000 บาท สำหรับขับเคลื่อน 4 ล้อ จุดเด่นในรุ่น Giant Cab นั้นทาง MG ออกแบบให้ความยาวกระบะท้ายที่ 1,900 มิลลิเมตร ซึ่งนับว่ายาวที่สุดในกระบะระดับเดียวกันจึงช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น ส่วนในรุ่น Double Cab ทาง MG ได้ใช้แรงบันดาลใจในการออกแบบโดยมีต้นแบบมาจากรถ SUV เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมีความสะดวกสบายและให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนรถ SUV มากกว่านั่งอยู่บนรถกระบะ NEW MG EXTENDER ใช้ช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ทำงานคู่กับช่วงล่างแบบ BRIT Dynamic ลิขสิทธิ์เฉพาะ MG ซึ่งให้ความนุ่มนวลแม้ความเร็วต่ำ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่แน่นหนึบมั่นใจในย่านความเร็วสูง มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์  นอกจากนี้ยังมีกล้องมองหลังรอบคันและเซ็นเซอร์ขณะถอย รวมถึงการเลือกใช้วัสดุแบบ Soft Touch เพิ่มความหรูหราและให้สัมผัสที่นุ่ม ตลอดจนเบาะไฟฟ้าคู่หน้า ช่องแอร์หลัง ส่วนในรุ่น Double Cab 4 WD นั้น จะมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L  และที่ขาดไม่ได้เจ้า NEW MG EXTENDER มีระบบ i-SMART ระบบสั่งการอัจฉริยะอันขึ้นชื่อของ MG  ตั้งแต่รุ่น Double Cab แบบยกสูงขับเคลื่อน 2 ล้อขึ้นไป ทำให้เจ้า NEW MG EXTENDER เป็นกระบะที่ฉลาดที่สุดในปัจจุบัน

นอกจากสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้วเจ้า NEW MG EXTENDER  อัดแน่นมาพร้อมกับความปลอดภัยอย่างล้นเหลือ ด้วยโครงสร้างตัวถัง Full Space Frame แบบ Ultra High Strength Body  ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Thermoforming Steel ในบริเวณเสา A ไปจนถึงเสา B และโครงสร้างโดยรวมใช้เหล็กแบบ High Strength Steel ที่มีความแข็งแกร่งสูง พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ผ่านการทดสอบการชนของ ANCAP ในระดับ 5 ดาว นอกจากนี้ยังมีระบบเพื่อช่วยเสริมความปลอดภัยอีกเพียบ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรคฉุกเฉิน (ABS) ระบบเสริมแรงเบรค (EBA) ระบบกระจายแรงเบรค (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัว  (SCS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TPMS) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAS) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ระบบเตือนมุมอับสายตา (BSD) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ทำให้ NEW MG EXTENDER เป็นกระบะที่มีระบบเสริมความปลอดภัยมากที่สุดเมื่อเทียบกับกระบะในระดับเดียวกัน

จากการทดสอบ เจ้ากระบะ NEW MG EXTENDER ออกแบบมาให้ภายในกว้างทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง ให้สรรถนะเครื่องยนต์และให้พละกำลังที่ดี ช่วงล่างทำงานประสานกันได้อย่างดีเยี่ยม ระบบเสริมความปลอดภัยต่างๆ ช่วยอำนวยความสะดวกได้อย่างมาก การขึ้นเขาไข่นุ้ยทะเลหมอกอันดามันเป็นที่ทราบกันดีว่าเส้นทางลาดชันและค่อนข้างมีอุปสรรคหลากหลาย หลายท่านอาจมองว่าด้วยเครื่องยนต์ 2.0 L ไม่น่าจะรอด ด้วย NEW MG EXTENDER ซึ่งมีขนาดเครื่องยนต์ความจุน้อยกว่าเจ้าอื่นๆในตลาด แต่ด้วยการออกแบบเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำ (1,500 – 2,400 รอบ) จึงไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆแต่อย่างใด แถมพละกำลังยังเหลือเฟืออีกด้วย ด้านความรู้สึกภายในห้องโดยสาร ให้ความเงียบดีเลยทีเดียว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆถือว่าใช้ได้ อาทิ จอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว สามารถมองดูภาพถอยหลังหรือ ภาพรอบคันได้เต็มตา  เบาะนั่งขนาดใหญ่ โอบกระชับอย่างดีและรองรับแรงกระแทกจากการสั่นสะเทือนได้อย่างดีเยี่ยมจนแทบไม่รู้สึกว่านั่งอยู่บนรถกระบะ

นอกจากนี้ MG ยังได้พัฒนาบริการหลังการขาย Passion Service เพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น บริการ Quick Service เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องภายใน 1 ชั่วโมง การจัดส่งอะไหล่ภายใน 1 วันทำการ และบริการรถสำรองระหว่างซ่อม และสำหรับ NEW MG EXTENDER ทาง MG เคลมว่ามีค่าบำรุงรักษาในระยะ 100,000 กิโลเมตร ไม่เกิน 20,000 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร 1267 หรือ www.mgcars.com