ยังไม่จบ “มาร์ดี” ข้างตึกชาร์เตอร์
โพสเมื่อ : Tuesday, April 12th, 2016 : 6.42 pm
ยังไม่จบ! “น้องมาร์ดี บนผนังตึกอาคารซาร์เตอร์ จ.ภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต พร้อมกลุ่ม So Phuket เปิดแถลงข่าวชี้แจง กระแสหนุน-ค้าน เกิดจากความผิดพลาดในการสื่อสาร นัดหารืออีกรอบ 22 เม.ย.นี้ ว่าจะลบหรือให้อยู่ต่อไป
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (12 เม.ย.) ที่ห้องประชุมเทศบาลนครภูเก็ต นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นประธานการแถลงข่าวสารพันกับนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ครั้งที่ 4/2559 เพื่อแถลงข่าวชี้แจงกรณีภาพวาดสตรีทอาร์ต “น้องมาร์ดี” เด็กน้อยสามตาหน้าบึ้ง” สองตัว ผลงานของ Alex Face หรือ พัชรพล แตงรื่น ที่ตึกธนาคารชาร์เตอร์ หรือ พิพิธภัณฑ์บ๋าบา ภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ถนนพังงา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จัดทำโดยกลุ่ม So Phuket ภายใต้โครงการ F.A.T Phuket:Food Art Old Town เพื่อสนับสนุนที่ยูเนสโกประกาศให้ภูเก็ตเป็น City of Gastronomy หลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์ภาพดังกล่าวอย่างกว้างขวาง ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยมีนายแพทย์โกศล แตงอุทัย นายกวี ตันสุตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายวีระชัย ปรานวีระไพบูลย์ ผู้ประสานงานกลุ่ม So Phuket และสมาชิกกลุ่ม รวมไปถึงกลุ่มชุมชนเมืองเก่าภูเก็ต สมาคมเพอรานากัน กลุ่มศิลปินภูเก็ต กลุ่มคนที่สนับสนุนและกลุ่มคนที่คัดค้านภาพดังกล่าว และสื่อมวลชน เข้าร่วม
นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า อาคารพิพิธภัณฑ์เพอรานากันนั้น ทางกรมธนารักษ์ได้อนุญาตให้เทศบาลนครภูเก็ตใช้อาคารดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเทศบาลร่วมทั้งหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และททท.จัดสรรงบประมาณปรับปรุงอาคารดังกล่าวที่เป็นอาคารเก่ากว่า 100 ปี เป็นพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ทางเทศบาลต้องการดึงให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในเขตเมืองภูเก็ตมากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจในตัวเมืองดีขึ้น โดยใช้ความเป็นตัวตน วิถีชีวิต อาหาร สถาปัตยกรรม การแต่งกาย เป็นจุดขาย ด้วยการทำงานร่วมกับชุมชนเมืองเก่าภูเก็ต
ส่วนกรณีของภาพเด็กสามตาหน้าบึ้ง ที่เป็นข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้นั้น และมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ปัญหาเกิดจากความผิดพลาดในการสื่อสาร จนทำให้เกิดกระแสทั้งต้องการให้ลบภาพดังกล่าวออกไปและกระแสให้ภาพดังกล่าวอยู่ต่อไป ซึ่งเรื่องนี้จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากชาวภูเก็ต โดยจะมีการนัดหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งในวันที่ 22 เมษายน 2559 นี้ และต้องขอโทษชาวภูเก็ตที่ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นในเรื่องนี้ ซึ่งที่ผ่านมาเทศบาลจะทำอะไรสักอย่างจะให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน บางโครงการต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะดำเนินการได้ เช่น ตลาดสดถนนระนอง การนำสายไฟฟ้าลงดินย่านเมืองเก่า การที่กลุ่ม So Phuket เข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับงานศิลปะในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดความเป็นนครภูเก็ตเมืองแห่งการสร้างสรรค์และน่าอยู่อย่างยั่งยืน โดยการนำศิลปะมาเป็นจุดขาย ทำให้คนเข้ามาและเดินท่องเที่ยวในย่านเมืองเก่ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจในตัวเมืองภูเก็ต แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความผิดพลาดในการสื่อสารเท่านั้น
ขณะที่นายแพทย์โกศล แตงอุทัย รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต และอดีตนายกสมาคมเพอรานากัน กล่าวว่า ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดในเรื่องของการสื่อข่าวที่มีความเข้าใจผิดกันระหว่างตนและกลุ่มศิลปิน ซึ่งขณะนี้ตนได้ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมเพอรานากัน และรองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตแล้ว เพื่อแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และต้องขอโทษทุกคนที่เกิดความผิดพลาดขึ้น ซึ่งความผิดพลาดดังกล่าวเกิดจากเรื่องของการสื่อสารที่เข้าใจไม่ตรงกัน
การลาออกในครั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ จริงๆแล้วเรื่องนี้เกิดขึ้นจากกลุ่มคนภูเก็ต ที่ต้องการจะทำอะไรเพื่อภูเก็ต เมื่อตัวแทนกลุ่มดังกล่าวเข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับการทำงานศิลปะ ก็ยินดี ซึ่งก็มีการนำเสนอรูปแบบงานมาให้รับทราบ ก่อนที่จะมีการวาดภาพ ก็มีการส่งภาพ สเก็ต มาให้ดู ก็มีการปรึกษากันในกลุ่มผู้ใหญ่ ซึ่งก็มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีการส่งภาพมาหลายๆภาพ ส่วนภาพ มาร์ดี ก็มีการส่งมาให้ดูเช่นเดียวกัน ซึ่งตนก็ส่งภาพข้อความที่สื่อถึงคำว่า OK กลับไป จากข้อความดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกิดขึ้น โดยทางกลุ่มศิลปินก็เข้าใจว่ามีการอนุญาตให้ดำเนินการ
ในวันที่เกิดเหตุ ตนก็ไปดูหนังกับลูกสาวที่โรงหนัง ก็ไม่ได้ดูอะไร ไม่ทราบว่ามีการไปวาดภาพบนฝาผนังของตึกชาร์เตอร์ ซึ่งมีคนทั้งโทรศัพท์ และส่งไลน์ข้อความเข้ามาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า มีการไปพ้นสีบนผนังตึก รวมทั้งในส่วนของผู้ประสานงานที่โทรเข้ามาว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาจับศิลปินและคนที่มาพ่นสี โดยไม่ได้รับอนุญาต ตนก็ตกใจเพราะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จึงแจ้งไปทางกลุ่มศิลปิน ว่าให้แจ้งกับทางตำรวจว่าตนเป็นคนอนุญาตให้ดำเนินการ ส่วนคนที่แจ้งความกับทางตำรวจก็คือคนในสมาคมเพอรานากัน เพราะคนในสมาคม หรือ ตนก็ไม่ทราบว่าจะมีการวาดภาพดังกล่าวขึ้นในวันดังกล่าว ซึ่งในการพูดคุยกันก็ได้คุยกันถึงเรื่องการขออนุญาต เพราะภาพที่ทำไม่ได้ทำจุดเดียว แต่ต้องทำจำนวน 12 จุด และได้มีการแจ้งไปยังกลุ่มศิลปินว่าให้มีการขออนุญาตเจ้าของตึกเจ้าของบ้านให้เรียบร้อย แต่ก็เกิดปัญหาเรื่องการสื่อสาร อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นก็มีกระแสออกมาจำนวนมาก ซึ่งก็คิดว่าต้องลบ และการสอบถามเรื่องสีและหาเบอร์สีไว้แล้ว ถ้าต้องลบก็พร้อม
ส่วนการลาออกจากตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตก็เป็นเรื่องของความรับผิดชอบ เพราะโดยความเป็นจริงแล้วตนไม่มีสิทธิ์ที่จะอนุญาตให้มีการทำอะไร และโดยส่วนตัวตนก็ชื่นชอบภาพดังกล่าว ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้ถูกลบ ซึ่งจากการที่ไปดูภาพในตอนกลางคืนก็ถือว่าเป็นภาพที่สวย ส่วนหลังจากนี้จะมีการลบภาพดังกล่าวหรือไม่ ตนก็ไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนภูเก็ตว่าจะเก็บไว้หรือลบทิ้ง
ด้านนายวีระชัย ปรานวีระไพบูลย์ ผู้ประสานงานกลุ่ม So Phuket ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นอาจเป็นข้อผิดพลาดในการสื่อสาร กลุ่ม So Phuket ตั้งใจจริงที่จะเข้ามาต่อยอดหลังจากที่ภูเก็ตได้รับรางวัล Creative City of Gastronomy จากยูเนสโก เพราะกลุ่ม So Phuket ที่รวมตัวกันกว่า 10 ล้วนแต่เป็นเด็กภูเก็ตทั้งหมด ตัวผมเองก็เกิดที่ถนนดีบุก ผูกพันกับเมืองเก่าภูเก็ตมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อโตขึ้นได้ทำธุรกิจ ก็ใช้เวลาว่างในการเข้ามาช่วยเหลือเมืองภูเก็ต โดยโครงการนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ภูเก็ตได้รับรางวัล Creative City of Gastronomy ตอนแรกคิดจะทำหนังสือ แนะนำอาหารภูเก็ต 88 เมนู โดยนำเสนอผ่านอาหารของภูเก็ต 12 หมวด แต่ได้เลือกที่จะใช้ศิลปะริมถนนมาดำเนินการก่อน ภายใต้โครงการ F.A.T Phuket:Food Art Old Town ด้วยการจัดทำภาพบนผนังจำนวน 12 ภาพ บน 12 ผนัง ในเขตเมืองเก่า สะท้อน 12 วิถีคนภูเก็ตที่ผูกพันกับอาหารในเทศกาลและโอกาสต่างๆ คือ วิวาห์บาบ๋า อาหารเช้าภูเก็ต การแฟยามบ่ายภูเก็ต การคลอดลูก ขนมเด็กวัยเรียน พ้อต่อ ตรุษจีน กินผัก ไหว้เทวดา รถเข็นแผงลอย ครัวในบ้าน และปิกนิกริมเล-และงานเดินเต่า ทั้งนี้เพื่อต้องการปรับปรุงภูมิทัศน์เมืองให้สวยงามยิ่งๆขึ้นไป โดยเลือกพื้นที่ให้คนเข้าถึงได้ง่าย สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด ด้วยการทำแผนที่เพื่อให้คนไทยและต่างชาติได้เยี่ยมชมภาพและชิมอาหารได้ทั้งเขตเมืองเก่าอย่างทั่วถึง โดยภาพไฮไลน์จะอยู่ที่อาคารของ แคทเทเลคอม ซึ่งอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์บาบ๋า โดยทั้ง 12 ภาพ ตามแผนที่วางไว้จะทำให้เสร็จภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2559 นี้
“สำหรับภาพแรก ที่ผนังตึกธนาคารชาร์เตอร์นั้น เลือกศิลปิน Alex Face หรือ พัชรพล แตงรื่น ซึ่งเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสม ที่ผนัง 2 ช่อง ก่ออิฐปิดทึบ เมื่อมีการวาดภาพจะทำให้ผนังดูลึกเข้าไปอาคารจะมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นตามหลักสถาปัตยกรรม และมองว่างานชิ้นนี้จะทำให้เด็กและเยาวชนสนใจและอยากเข้าไปในพิพิธภัณฑ์มากยิ่งขึ้น และที่เป็นเด็กสามตา เกิดจากแนวคิดของศิลปินที่ต้องการนำเสนอความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมของคนภูเก็ต และจุดกำเนิดของบาบ๋าก็เริ่มต้นที่การเกิด จึงเลือกนำเสนอการคลอดลูกกับการมอเอี๋ยวปิ่ง ไข่ต้มย้อมสีแดง และขนมอังกู๊สีแดงสด ใส่เซี่ยนหนา เดินแจกจ่ายตามบ้านแสดงความขอบคุณญาติพี่น้องในวาระต้อนรับสมาชิกในบ้าน
นายวีระชัย กล่าวต่อว่า หลังจากที่มีการทำประชาพิจารณ์แล้ว หากคนภูเก็ตส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ก็พร้อมที่จะลบภาพดังกล่าวออก โดยทางศิลปินจะมาลบภาพของตัวเอง มีโค๊ดสีที่นายแพทย์โกศลส่งมาให้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมแถลงข่าวมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากความผิดพลาดในการสื่อสารและขั้นตอนการดำเนินงาน ที่ไม่ได้บอกกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนชาวภูเก็ตได้รับทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และบางคนก็ไม่เห็นด้วยที่จะจัดให้มีการทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นว่าจะเอาหรือไม่เอาภาพดังกล่าว เพราะมองว่าจะเป็นการสร้างความแตกแยกเกิดขึ้นในสังคมภูเก็ต
- อบจ.ภูเก็ต ผุด “ศูนย์ฟอกเลือดด้วยไตเทียม” ขนาด 37 เตียง รองรับผู้ป่วย ไม่ต้องรอค...
- ได้นั่งแน่ รถบัส EV ของอบจ.ภูเก็ต ทดแทน รถโพถ้อง สีชมพู...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดประติมากรรม ศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovel...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “สมุดภาพภูเก็ต”...
- อบจ.ภูเก็ต นำเครื่องจักรปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสะพานหิน (ภัตตาคารวังปลาเดิม)...
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)