หนุ่มรัสเซียเมาขับรถเก๋งชนดะทำทรัพย์สินทางราชการ/ชาวบ้านเสียหาย (ชมคลิป)

โพสเมื่อ : Wednesday, May 11th, 2016 : 1.45 pm

ชาวรัสเซียกลับจากเที่ยวผับ ขับรถเก๋งชนดะจนรถพลิกหงายท้อง ตรวจเบื้องต้นพบมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 128 มิลลิกรัม ขณะที่ทรัพย์สินทางราชการ ทรัพย์สินประชาชน เสียหายยับ โชคดีคนขับไม่เป็นอะไร
5001b867-25f3-450e-aef8-7a49cf740630

เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (11พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขับรถรถยนต์เสียหลักชนท่อส่งน้ำท่อประปาแตกทำให้รถพลิกคว่ำไปชนป้ายร้านในหาน บิวตี้ เฟอแฟค ที่บริเวณก่อนถึงหนองน้ำในหาน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.หญิงชลดา โชคดีศรีจันทร์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สาย ตรวจ สภ.ฉลอง

ที่เกิดเหตุหน้าร้านดังกล่าว พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กล-2083 ภูเก็ต สภาพพลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าทั้ง 4 ล้อ ได้รับความเสียหายพังยับเกือบทั้งคัน และพบ นายยูริราชู วาเยฟ อายุ 25 ปี สัญชาติรัสเซีย เป็นผู้ขับขี่รถคนคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตรวจสอบในเบื้องต้นอยู่ในอาการมึนเมา ชาวบ้านจึงได้ควบคุมตัวไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้ไปท่องเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลราไวย์ หลังจากผับเลิก ได้ขับรถยนต์เก๋งดังกล่าวไปจอดรถย้อนศรที่ถนนข้างหนองน้ำในหานแล้วนั่งประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้ขับออกมาด้วยความเร็วสูงเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ชนกับหัวส่งน้ำท่อประปา จนทำให้ท่อแตกได้รับความเสียหาย แล้วรถพลิกคว่ำไปชนป้ายหน้าร้านในหาน บิวตี้ เฟอแฟค ได้รับความเสียหายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายยูริราชู วาเยฟ อายุ 25 ปี มาสอบสวนเพิ่มเติมและตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

พ.ต.อ.นพดล ถิรประวัติ ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า จากการวัดแอลกอฮอล์ของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ปรากฏว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์มากเกินกว่าที่กฎหมาย โดยตรวจวัด 128 มิลลิกรัม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าว เมาแล้วขับ ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหายและทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นยังตรวจพบว่า นักท่องเที่ยวคนดังกล่าว อยู่ในประเทศไทยเกินจากที่กฎหมายกำหนด จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่ากฎหมายกำหนด จึงได้นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป