สั่งรื้อแล้วอาคารบริษัทพาราไดส์ ฯ14 หลัง สร้างไม่ได้รับอนุญาต/ทนายยื่นอุทธรณ์

โพสเมื่อ : Monday, May 23rd, 2016 : 4.56 pm

เทศบาลเมืองป่าตองนำหนังสือสั่งให้รื้อถอนอาคาร ของบริษัท พาราไดส์ แมเนจเมนท์ จำกัด พาราไดส์ ไปปิดประกาศแล้ว โดยให้รื้อ ภายใน 30 วัน รวม 14 หลัง ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้านทนายความยันยืนอุทธรณ์แน่55

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 พ.ค.) เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ได้นำหนังสือคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 (กรณีการก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคารกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น และการกระทำนั้นไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตามกฎกระทรวง เลขที่ ภก.52106 ลงวันที่ 18 พ.ค.2559 ไปติดประกาศ ยังอาคาร ของบริษัท พาราไดส์ แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของอาคาร ที่ตั้งอยู่เลขที่ 59/18 หมู่ 4 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต66

โดยใจความในหนังสือระบุว่า เนื่องจาก ทางบริษัท พาราไดส์ แมเนจเม้นท จำกัด ได้ทำการก่อสร้างอาคารโครงสร้างเหล็ก 1 ชั้น จำนวน 8 หลัง อาคารโครงสร้างเหล็ก 2 ชั้น จำนวน 4 หลัง และ ค.ส.ล.2 ชั้น 2 หลัง ที่บริเวณหาดพาราไดส์ ถ.หมื่นเงิน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยเจ้าของอาคารไม่ได้รับอนุญาตหรือใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และ การกระทำนั้นไม่สามารถแก้ไขโดยเจ้าของอาคารให้ถูกต้องได้ หรือเจ้าของอาคารมิได้ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา 43 ตามกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา 8 หรือข้อบัญญัติท้องถิ่น ซึ่งออกตามคำสั่งในมาตรา 9 หรือมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522

ทางเทศบาลเมืองป่าตอง อาศัยอำนาจตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ให้ บริษัท พาราไดส์ฯ รื้อถอนอาคารทั้งหมด/บางส่วน ดังนี้ ให้รื้ออาคารส่วนที่ก่อสร้างทั้งหมด เนื่องจากก่อสร้างอาคารบนที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายใน 30 วัน หลังจากประกาศ1463719339048.jpg

ขณะนายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล ทนายความของนายโสภณ เอกวานิช เจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 เลขที่ 276 หมู่ที่ 3 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ กล่าว ว่า เรื่องนี้จะต้องยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวภายใน 30 วัน ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัด ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องทั้งหมด ว่า มีข้อเท็จจริงอย่างไร คำสั่งดังกล่าวออกด้วยความถูกต้องหรือไม่ ถ้ามีการพิจารณาแล้วทางเจ้าของอาคารไม่พอใจในคำสั่ง ก็สามารถฟ้องร้องต่อศาลได้44

ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะยื่นอุทธรณ์วันไหน เพราะจะต้องรวบรวมเอกสารต่างๆให้พร้อม แต่จะต้องยื่นภายใน 30 วันอย่างแน่นอน เพราะถ้าไม่ยื่นภายใน 30 วัน ทางเทศบาลก็จะมาติดประกาศครั้งที่ 2 ซึ่งจะต้องรื้อภายใน 7 วัน ถ้าเจ้าของไม่รื้อทางเทศบาลก็จะใช้อำนาจในการรื้อถอนได้เลย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบคำสั่งของนายกเทศมนตรี ที่ส่งมา 2 ครั้งไม่พบว่าเหมือนกัน โดยครั้งแรกที่มีคำสั่งถึงคนเช่าที่ดินโดยแจ้งให้เอา สค.1 ไปออกเอกสารสิทธิ์ก่อน และมีการยกเลิกคำขออนุญาตก่อสร้าง แต่จากคำสั่งที่นำมาปิดประกาศในวันนี้มีข้อความระบุว่าก่อสร้างในที่ สปก.

ซึ่งจริงๆแล้วจะเป็นการก่อสร้างในที่ สปก.หรือไม่นั้น ทางสปก.จะต้องมาแสดงและรักษาสิทธิ์ของสปก.เอง แต่ตอนนี้นายกฯไปดึงสปก. เข้ามาเกี่ยวข้อง กันเพราะแปลงนี้เป็นแปลงที่มี สค.1 และ จากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งปลัดเทศบาลก็ได้มีการยืนยันแล้วว่า สค. 1 เลขที่ 276 ที่ยื่นขออนุญาตก่อสร้างนั้นเป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่ขออนุญาตก่อสร้างบริเวณชายหาดพาราไดส์ และ ปลัดเทศบาลเมืองป่าตองในขณะนั้นก็มีความเห็นแล้วว่าสามารถนำ สค.1 ดังกล่าวมาขออนุญาตก่อสร้างได้ แต่นายกฯกลับไปสั่งว่าให้เอา สค.1 ไปพิสูจน์สิทธิให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยมายื่นขออนุญาตก่อสร้างใหม่ ซึ่งเป็นคำสั่งที่สวนกับข้อเท็จจริง ซึ่งจริงๆแล้วการขออนุญาตก่อสร้างนั้นสามารถใช้โฉนดที่ดิน นส.3 หรือ สค.1 มายื่นขอก็ได้ ในพื้นที่ป่าตองมีหลายรายที่ใช้ สค. 1 ในการยื่นขออนุญาตก่อสร้าง และที่ผ่านมาไม่เคยมีนายกฯท่านใดเคยสั่งให้เจ้าของ สค.1 เอา สค. 1ไปออกโฉนดก่อนแล้วจึงมาขออนุญาตก่อสร้าง จากคำสั่งดังกล่าวตนคิดว่าเกิดจากปัญหาการบริหารงานราชการ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกับทางเจ้าของที่ดินว่าจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองหรือไม่1463719345600.jpg

นายนิทัศน์ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ดิน สค. 1 กับ สปก.นั้น เป็นเรื่องที่ทางเจ้าของอ้างสิทธิ์ สค1.ครอบครอง และ ในคดีเดิมที่มีการฟ้องร้องเพิกถอนที่ดินสปก.ของนายโสภณ เอกวานิช นั้นไม่ได้เกี่ยวกับที่ดินแปลง สค.1 เลขที่ 276 ที่นำไปขออนุญาตก่อสร้างเลย แต่เป็นที่ดินอีก 3 แปลงที่ไม่เกี่ยวกับจุดนี้ และขอยืนยันว่าที่ดินแปลงที่มีการก่อสร้างในปัจจุบันไม่เกี่ยวกับที่มีการฟ้องร้องเพิกถอนสิทธิ์ สปก.กันอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก เทศบาลเมืองป่าตอง