รร.เพิร์ล นำ คนโพสคลิปเด็กถูกไฟดูดในสระน้ำอ้างเกิดที่โรงแรมมาขอโทษแล้วยันเกิดในต่างประเทศ

โพสเมื่อ : Wednesday, July 6th, 2016 : 5.09 pm

ผู้บริหารโรงแรมเพิร์ลยันคลิปเด็กถูกไฟดูดในสระน้ำ ไม่ใช่ที่ภูเก็ต แต่เป็นเหตุการณ์เกิดเมื่อปี 2558 ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ขณะที่มือโพสต์ร่วมแถลงขอโทษอ้างไม่ได้ตั้งใจทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย แต่ทำไปด้วยความประมาท ขาดการไตร่ตรองDSCF1957เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (6 ก.ค.) ที่ห้องอาหารเพิร์ล นู้ดเดิ้ล โรงแรมเพิร์ล อ.เมือง จ.ภูเก็ต ดร.ศิริภัทรา คูสุวรรณ ณ ระนอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพิร์ล จำกัด น.ส.อัมภร โสมดำ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต น.ส.กัลยา เกตุสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมเพิร์ลภูเก็ต รวมทั้ง นายธนพจน์ มีบุญกิจ ผู้โพสต์คลิปและระบุชื่อสถานที่เกิดเหตุ ว่า เป็นโรงแรมเพิร์ล ในเพจและเป็นแอดมินของเพจเหตุด่วนเหตุร้ายฯ และ น.ส.รุ่งหทัย เอกตันติสิริกุล ผู้โพสต์ ระบุว่า เหตุเกิดที่โรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อชี้แจ้งข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว หลังมีการแชร์ข้อมูลกันไปจำนวนมากจนสร้างความเสียหายให้กับโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตโดยรวม

ดร.ศิริภัทรา คูสุวรรณ ณ ระนอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพิร์ล จำกัด ว่า เหตุการณ์ในคลิปไม่ได้เกิดขึ้นที่สระน้ำของโรงแรมเพิร์ล ตามที่มีการระบุของผู้ที่โพสต์ และ ผู้ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเหตุ ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงแรมเพิร์ล และจากการตรวจสอบคลิปพบว่าพื้นกระเบื้องของสระน้ำในคลิปกับพื้นกระเบื้องที่สระน้ำของโรงแรมเป็นคนละสี และจากการตรวจสอบในเชิงลึกพบว่าคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่คลิปที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่เป็นคลิปที่เกิดขึ้นที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เมื่อปี 2558 จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางโรงแรมเพิร์ล และ จ.ภูเก็ต แต่อย่างใด

แต่อย่างไรก็ตามจากการแชร์คลิปและแสดงความคิดเห็นรวมทั้งระบุชื่อของโรงแรม ซึ่งมีการส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ภาพลักษณ์ของโรงแรมและภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้รับความเสียหาย ทำให้คนในภูเก็ตเข้าใจไปว่าโรงแรมในภูเก็ตไม่มีมาตรฐานด้านการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทางโรงแรมไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการติดตามตรวจสอบข้อมูลจนทราบต้นต่อของการโพสต์ข้อความดังกล่าว ว่า มีต้นต่อมาจากไหนDSCF1959

ในวันนี้ทางโรงแรมจึงได้ เชิญนายธนพจน์ มีบุญกิจ ผู้โพสต์คลิปและระบุชื่อสถานที่เกิดเหตุว่าเป็นโรงแรมเพิร์ล ในเพจและเป็นแอดมินของเพจเหตุด่วนเหตุร้ายฯ และ น.ส.รุ่งหทัย เอกตันติสิริกุล ผู้โพสต์ ระบุว่า เหตุเกิดที่โรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย เพื่อยืนยันว่าคลิปที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นที่โรงแรมเพิร์ล และไม่ได้เกิดขึ้นที่ จ.ภูเก็ต โดยทางผู้โพสต์ยินดีที่จะโพสต์แก้ข่าวให้เป็นเวลาติดต่อกัน 14 วัน ในเพจเหตุด่วนเหตุร้ายฯ ก็อยากให้กรณีนี้เป็นตัวอย่าง ในเรื่องการเสพข่าวออนไลน์ ต้องระมัดระวังกันด้วย ถ้าไม่มีข้อมูลเป็นจริง ก็ไม่ควรเอามาโพสต์เพื่อให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย

ขณะที่ น.ส.กัลยา เกตุสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมเพิร์ลภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการแชร์คลิปดังกล่าว เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2559 ที่ผ่านมา หลังทราบเรื่องทางโรงแรม จึงได้มีการสืบสวนที่มาที่ไป จนทำให้ทราบว่าจุดเริ่มต้นของคลิปนี้มาจากเพจเหตุด่วนเหตุร้ายร่วมด้วยช่วยกันภูเก็ต ซึ่งมีสมาชิกกว่า 50,000 คน แต่ตอนที่เรามีการตรวจนั้น พบหลักฐานว่ามี 2 คนที่เขียนระบุว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต คือนายธนพจน์ มีบุญกิจ และนางสาวรุ่งหทัย เอกตันติสิริกุล ขณะที่คนอื่นๆ ได้ลบความคิดเห็นของตัวเองออกไปจากหน้าเพจแล้ว

ทางโรงแรมจึงติดต่อทั้ง 2 คน มาให้ความจริงและช่วยยืนยันผ่านสื่อมวลชนและช่วยแก้ไขข่าวให้กับทางโรงแรมว่า เหตุการณ์ในคลิปที่มีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวางนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นที่โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต และเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2559 เราก็ได้ทราบข้อเท็จจริงว่า เหตุการณ์ในคลิป เกิดขึ้นที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม เมื่อปี 2558 จึงไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางโรงแรมเพิร์ล และ จ.ภูเก็ต แต่อย่างใด

ขณะที่นายธนพจน์ มีบุญกิจ กล่าว ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยคลิป และระบุชื่อโรงแรมเพิร์ล ให้เกิดความเสียหาย ตนเป็นแอดมินของเพจเหตุด่วนเหตุร้ายร่วมด้วยช่วยกันภูเก็ต ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนภูเก็ต ในกรณีที่มีอุบัติเหตุต่างๆ คลิปนี้ตนได้รับมาอีกต่อหนึ่งจากกลุ่มไลน์และได้โพสต์ลงไปในเพจ ว่า เหตุเกิดที่ไหน จากนั้นก็มีคนระบุมาทางกลุ่มไลน์ว่า เป็นโรงแรมเพิร์ล ตนจึงมาคอมเม้นต่อในเพจ ว่า เป็นโรงแรมเพิร์ล อย่างไรก็ตามตนไม่ได้ตั้งใจทำให้โรงแรมเสียหาย ตนต้องขอโทษทางโรงแรม ที่นำข้อมูลในกลุ่มไลน์มาโพสต์แล้วคอมเม้น โดยไม่ได้มีข้อมูลที่เป็นจริง แต่ทำไปด้วยความประมาท ขาดการไตร่ตรอง