ทนายเจ้าของที่ดินหาดพาราไดซ์ร้องนายกฯป่าตองปฏิบัติเกินหน้าที่

โพสเมื่อ : Friday, May 20th, 2016 : 11.53 am

นายกฯป่าตองจะรื้ออาคารหาดพาราไดส์เหตุไม่ขออนุญาตตัวแทนเจ้าของที่ดินร้องยื่นแต่ไม่อนุญาต1463719339048.jpg

ทนายความตัวแทนเจ้าของที่ดิน สค.1 หาดพาราไดส์ ป่าตอง แถลงเหตุนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองให้สัมภาษณ์จะรื้ออาคารที่สร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งหมดในพื้นที่ ยันยื่นขออนุญาตตามกฎหมาย แต่นายกฯกลับสั่งให้ไปขอออกโฉนด ทั้งๆที่ปลัดฯยัน สค. 1 ตรงกับจุดที่ยื่นขอก่อสร้าง ระบุการให้สัมภาษณ์ทำกระทบธุรกิจ – พนักงาน1463719342423.jpg

เมื่อวานที่ผ่านมา นายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล ทนายความของนายโสภณ เอกวานิช เจ้าของที่ดินเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1 เลขที่ 276 หมู่ที่ 3 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งให้ บริษัท พาราไดซ์ บีช เมเนจเมนท์ จำกัด โดยนายชัฎ เอกวิกานนท์ กรรมการของบริษัทฯ เช่า ประกอบธุรกิจกิจ แถลงข่าว ถึงกรณี นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า จะมีการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างบริเวณหาดพาราไดซ์ เนื่องจากก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว นายโสภณ เอกวานิช ซื้อมาจาก นางเล็ก ทิศทอง เนื้อที่ 20 ไร่ 2 งาน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการปล่อยเช่าให้กับนายเพียร เมื่อหมดสัญญาและทางเจ้าหน้าที่เข้ามาจัดระเบียบชายหาด ก็ได้ให้บริษัท พาราไดซ์ บีช เมเนจเมนท์ จำกัด โดยนายชัฎ เอกวิกานนท์ กรรมการของบริษัทฯ เป็นผู้เช่าทำประโยชน์ ด้วยการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ และมีการลงทุนไปประมาณ 100 ล้านบาท ในพื้นที่พัฒนาเพื่อประกอบธุรกิจประมาณ 6 ไร่ โดยมีอาคารสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อน1463719345600.jpg

ที่ผ่านมาทางบริษัท พาราไดซ์ บีช เมเนจเมนท์ จำกัด ได้ ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างอาคารตามแบบ ข.1 ต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น คือ เทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เลขรับที่ 534 4/2558 ลงวันที่ 4 กันยายน 2558 โดยใช้หลักฐาน ส.ค.1 เลขที่ 276 ประกอบ ต่อมาวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ได้แจ้ง ว่า เทศบาลฯ ได้พิจารณาแล้วจากการตรวจสอบเอกสารและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินเพื่อให้มีความรอบคอบและถูกต้องควรให้ทำการยื่นคำขอออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินเพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดพิสูจน์สอบสวน และขอยกเลิกคำขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ข.1 เลขที่รับ 5344/2558 ลงวันที่ 4 กันยายน 2558 และหากรังวัดพิสูจน์สอบสวนหรือเอกสารสิทธิ์เสร็จเรียบร้อยแล้วให้ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างอาคารต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น

นายนิทัศน์ กล่าวว่า การที่นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ได้เกษียนหนังสือเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2559 โดยระบุว่า เพื่อความรัดกุม ควรแจ้งให้ผู้ครอบครองในที่ดินยื่นขอรังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน เพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดพิสูจน์สอบสวนนั้น ไม่น่าจะเป็นการทำหน้าที่ที่ถูกต้องของนายกเทศมนตรีเมืองป่าตองนัก แม้ว่าเทศบาลเมืองป่าตองจะรับหนังสือเกี่ยวกับการขออนุญาตก่อสร้างทางบริษัท พาราไดซ์บีชเมเนจเม้นท์ จำกัด แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้อนุญาต เพราะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการนำเอกสารสิทธิ์ ส.ค.1ที่นำมาขออนุญาตก่อสร้าง ว่า มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรจึงยังไม่อนุญาต1463719349268.jpg

ในขณะที่ข้อเท็จจริงเป็นที่รับทราบกันดีว่า ในการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ว่าจะมีเอกสารสิทธิ์ประเภทใด มักจะมีการทำควบคู่กันไประหว่างการก่อสร้างกับการยื่นขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติ และกรณีนี้เทศบาลเมืองป่าตองในฐานะองค์กรปกครองท้องถิ่นนั้นก็ จะมีหน้าที่พิจารณาเกี่ยวกับโครงสร้างอาคาร ระยะถอยร่น และความสูงต่างๆ เท่านั้น ไม่น่าจะมีอำนาจในเรื่องของการสั่งให้ไปออกเอกสารสิทธิ

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเอกสารพบว่า ปลัดเทศบาลเมืองป่าตองได้ระบุในหนังสือส่งถึงนายกฯ ว่า ผลการตรวจสอบที่ดิน ส.ค. 1 เลขที่ 276 มีอยู่จริง และเป็นที่ดินแปลงเดียวกับแปลงที่ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างอาคาร จึงควรอนุญาต นำ ส.ค.1ดังกล่าวเป็นหลักฐานแสดงสิทธิ์ในที่ดินประกอบคำขออนุญาตก่อสร้างอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558 นายชัฎ เอกวิกานนท์ ได้นำนายบุญจันทร์ ทิศทอง ทายาทของนางเล็ก ทิศทอง นายมานิจ อยู่เย็น สมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตองและนายเรืองชัย อัครพงศ์สกุล อดีตผู้ใหญ่บ้าน มาทำการสอบสวน และนำชี้ที่ดินแปลงนี้ สรุปการสอบสวน ส.ค. 1 เลขที่ดังกล่าวหมู่ที่ 3 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีอยู่จริงและเป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่ใช้ประกอบการยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร โดยได้นำแจ้งนางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองรับทราบด้วยแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีการยกเลิกคำขออนุญาตก่อสร้างของทางบริษัท

“จากการที่ทางนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ ว่า จะมีการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างบริเวณหาดพาราไดซ์ ภายหลังจากมีการประชุมติดตามผลความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินหาดพาราไดซ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รื้อถอนอาคาร โรงแรม ดิสโก้เธค ซึ่งสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายในพื้นที่ของหาดพาราไดซ์ โดยอ้างถึงการร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรม กรณีมีผู้ร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากล และการเข้าจัดการพื้นที่ที่ขัดต่อกฏหมาย จึงส่งผลให้ เทศบาลเมืองป่าตองต้องดำเนินการตามกฏหมายและปฎิบัติตามมติของที่ประชุมนั้น ได้สร้างความเสียหายให้กับทางบริษัทฯ อย่างมาก ทั้งในส่วนของพนักงานบริษัท พาราไดซ์บีชเมเนจเม้นท์ จำกัด ประมาณ 200 คน ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวที่เคยมาใช้บริการก็มีความกังวล ไม่กล้ามาใช้บริการ และชะลอการเดินทางมาท่องเที่ยว ในพื้นที่ สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจค่อนข้างมาก

ซึ่งตามขั้นตอนทางกฎหมาย การจะรื้ออาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง นั้นทางเทศบาลฯ จะต้องมีการมาติดประกาศเพื่อให้เจ้าของอาคารรื้อถอนภายใน 30 วัน และในส่วนของเจ้าของอาคารก็สามารถที่จะทำเรื่องอุทธรณ์ได้ หากความเห็นไม่ตรงกัน ระหว่างทางท้องถิ่นกับเจ้าของอาคารก็สามารถที่จะยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอให้พิจารณาต่อไป แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการมาปิดประกาศให้มีการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างแต่อย่างใด ซึ่งทาง บริษัท พาราไดซ์ บีช แมนเนจเมนท์ จำกัด ขอยืนยัน ว่า ในการยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ นั้น ได้ดำเนินการขออนุญาตตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดทุกประการ และได้มีการยื่นขออุทธรณ์คำสั่งของทางเทศบาลฯ

สำหรับการสร้างอาคารเรายอมรับว่าไม่ได้รับใบอนุญาตจริง ซึ่งการที่ไม่ได้ใบอนุญาตนั้นได้สร้างความกังขาและสร้างข้อสงสัยให้กับทางบริษัทฯ ถึงการปฎิบัติหน้าที่ของนายกเทศมนตรีป่าตอง ซึ่งไม่ได้มีอำนาจในการตรวจสอบเอกสารสิทธิ ตามที่อ้างถึง เพราะมีอำนาจเพียงอนุญาตหรือไม่เท่านั้น และทางบริษัทได้ดำเนินการตามขั้นตอนทุกประการ ในส่วนของ ส.ค.1 นั้น ทางบริษัทฯ ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน หรือมีสิทธิครอบครองที่ดินแต่อย่างใด เป็นเพียงการเช่าช่วงต่อ มาจากเจ้าของที่ดินและผู้ครอบครอง และมีสัญญาเช่าเป็นหลักฐานยืนยัน