สู้ไม่ถอย!ชาวเลราไวย์ยื่นหนังสือถึงดีเอสไอขอให้ตรวจสอบเอกสารสิทธิทางเดินสาธารณะ

ตัวแทนชาวเลราไวย์ ยื่นหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ ขอให้ช่วยเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงนายทุนออกเอกสารสิทธิทับเส้นทางสาธารณะของชาวบ้านหรือไม่

วันนี้(3 มิ.ย.)ที่ชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต นายนิรันดร์ หยังปาน ตัวแทนชาวเลราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อให้มีตรวจดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเส้นทางสาธารณะประโยชน์ ที่ชาวบ้าน ใช้ร่วมกันมานานกว่า 300 ปี ในการเดินทางไปยังศาลาบาลัย สถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ และเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านใช้จอดเรือช่วงมรสุม แต่ทางเอกชน ซึ่งอ้างเอกสารสิทธิในที่ดิน พยายามเข้ามาปิดเส้นทางดังกล่าวเพื่อที่จะพัฒนาพื้นที่ต่อไป ทำให้เกิดข้อพิพาทขึ้น และมีการกระทบกระทั่งกันเรื่อยมา ระหว่างคนของเอกชนและกลุ่มชาวเลราไวย์

นายนิรันดร์ หยังปาน ตัวแทนชาวเลราไวย์ กล่าวว่า สำหรับการเข้าพบ อธิบดี ดีเอสไอ ในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ช่วยตรวจสอบเส้นทางสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ร่วมกันมานานกว่า 300 ปีแล้ว  แต่อยู่ๆ  ก็มีเอกชนเข้ามาอ้างสิทธิในที่ดิน ที่ชาวบ้านคิดว่าที่ดินหน้าหาดทุกแห่งจะต้องเป็นที่ดินของรัฐ แต่สุดท้ายแล้วเอกชนบอกว่าเป็นเจ้าของ ชาวบ้านจึงได้ส่งหนังสือให้ ดีเอสไอ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า โฉนดที่เอกชนอ้างถึงนั้นออกออกทับที่ของชาวเลหรือไม่  คลองที่ชาวเล ได้ใช้เป็นที่จอดเรือช่วงมรสุม สุดท้ายทางเอกชนมาปิดเส้นทาง ปิดคลองที่ชาวเลใช้ประโยชน์ จึงอยากให้ ดีเอสไอ ตรวจสอบเรื่องการออกเอกสารสิทธิ ที่เอกชนถือครองอยู่ โดยเร็ว

ทั้งนี้จากการพูดคุย ทราบว่า ขณะนี้ทางดีเอสไอกำลังอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งใกล้เสร็จแล้ว และอาทิตย์หน้า ทางดีเอสไอ จะลงพื้นที่เพื่อมาดูข้อเท็จจริงและรับทราบความต้องการของชาวบ้านด้วยว่าต้องการอะไรอย่างไรบ้าง

“ชาวบ้านมีความหวังมาตลอด แต่ว่า ใครก็ช่วยเราไม่ได้ช่วงนี้ ทุกวันนี้ ร้องเรียนทุกหน่วยงานแต่ไม่มีหน่วยงานไหนให้คำตอบที่ชัดเจนได้ คือ พยายามบอกชาวบ้าน ในสิ่งที่เอกชนต้องการอย่างเดียว แต่ไม่พูดคุยในสิ่งที่ชาวบ้านต้องการ ตอนนี้ ชาวบ้านผวา ไม่กล้าออกไปทำงาน ยังเฝ้าระวังอยู่โดยตลอด ด้วยเกรงว่าทางเอกชนจะส่งคนงานเข้ามาปิดเส้นทางเข้า-ออกอีก” นายนิรันดร์ กล่าว