DSI ส่ง จนท.เก็บข้อมูลผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ หลังร้องเรียนตกเป็นแพะ

เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง น้องพลอยสาวนวดแผนโบราณ หาดกะรน จ.ภูเก็ต ที่อ้างตกเป็นแพะคดีลักทรัพย์ ที่ จ.ตรัง เจ้าตัวเผยมั่นใจและมีกำลังในการต่อสู้คดีเมื่อ เผยในชีวิตไม่เคยอยู่อาศัยหรือแม้แต่เดินทางไป จ.ตรัง จนมาถูกคดี

จากกรณี ที่ น.ส.ปวิตรา หรือน้องพลอย กองกำพล ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ในพื้นที่ จ.ตรัง เมื่อปี 2554 โดยถูกกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2554 ที่รีสอร์ท แห่งหนึ่ง ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้ยานอนผสมในสุราให้นายศิริชัย กัลพัตร์ ผู้เสียหายดื่มจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายนอนหลับหมดสติไปจากนั้นจึงได้ลักทรัพย์ของผู้เสียหายจำนวน 4 รายการ รวมเป็นเงิน 759,000 บาท พาหลบหนีไป พนักงานสอบสวน สภ.หาดสำราญ รับเป็นคดีอาญาที่ 90/2554

ต่อมา น.ส.ปวิตรา เมื่อวันที่ 10 ก.พ.60 นำเอกสาร หลักฐาน พร้อมด้วย หนังสือเข้าร้องขอความเป็นธรรม และ ขอความช่วยเหลือจากนางชญาทิพย์ จิตหลัง ยุติธรรม จ.ภูเก็ต เพื่อให้ช่วยต่อสู้คดีในศาลชั้นอุทธรณ์ หลังจากที่ศาลชั้นต้น จ.ตรัง มีคำตัดสินพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ในข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายต่อกายหรือใจ” โดยทรัพย์ดังกล่าวประกอบด้วยสร้อยคอและพระเครื่องหลวงพ่อโสธร มูลค่ากว่า 7 แสนบาท และได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม

จนล่าสุดวันนี้ (22 มี.ค.60) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ส่งทีมงานกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานต่างๆ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต พร้อมรูปถ่ายในช่วงปี 2554 และในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งสถานที่อยู่อยู่ในวันเวลาดังกล่าวว่าไปทำอะไรที่ไหนมีพยานยืนยันชัดเจนหรือไม่ เพื่อรวบรวมหลักฐานส่งต่อให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ประกอบกในการพิจารณาว่าจะให้การช่วยเหลือในการต่อสู้ชั้นศาลอุทรณ์ต่อไป ตามที่น้องพลอยร้องขอว่าตนเองนั้นตกเป็นแพะในคดีดังกล่าว สร้างความดีใจให้กับน้องพลอย พร้อมทั้งแม่และลูกชายที่เดินทางมาจาก จ.ราชบุรีเป็นอย่างมาก ถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจที่หน่วยงานราชการทั้งกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษลงมาช่วยเหลือหาหลักฐานในการต่อสู้คดีให้ เพราะหากให้หาเองก็ไม่สามารถที่จะหาได้

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ มี พ.ต.ท.ณพลพงศ์ กมลอาสน์ นายนิธินัย พาติกาบุตร เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายคมหาญ ไปสุวรรณ นิติกร กรทรวงยุติธรรม พร้อมทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด ว่า น้องพลอยนั้นอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตจริงวันเวลาที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว โดยในเบื้องต้นที่ตรวจสอบไปยังสถานที่ต่างๆ ตามที่น้องพลอยอ้างนั้นปรากฎว่าทุกที่ตรงตามที่น้องพลอยให้การทุกพื้นที่และมีพยานหลักฐานทั้งเอกสารระบุวันเวลาชัดเจนที่พื้นที่ พร้อมได้นำหลักฐานรูปถ่ายต่างๆ ทั้งโทรศัพท์เครื่องที่ใช้ช่วงปี 2554 ด้วย

ขณะที่ น.ส.ปวิตรา หรือน้องพลอย กองกำพล ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายต่อกายหรือใจ ในพื้นที่ จ.ตรัง กล่าวว่า เมื่อทาง สนง.ยุติธรรม จ.ภูเก็ต ผู้สื่อข่าวจ.ภูเก็ต รวมทั้งพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและทีมงาน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเดินทางลงมาช่วยเหลือทำให้มีกำลังใจในการต่อสู้คดีที่ตนเองไม่เคยก่อขึ้นได้มีความหวังที่จะพ้นจากคดีนี้ และขอยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุนั้นไม่เคยอาศัยอยู่ หรือเดินทางไป จ.ตรังเลยแม้นแต่ครั้งเดียวทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ตลอด มีพยานชัดเจน และไม่ใช้หญิงสาวที่อยู่รูปภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายอ้างแต่อย่างใด รวมทั้งภาพถ่ายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หาดสำราญ มาขอออกหมายจับก็เป็นภาพถ่ายตอนอายุ 17 ปี ที่เดินทางไปทำบัตรประจำตัวประชาชนที่อำเภอ

ยอมรับว่าผู้หญิงสาวคนดังกล่าวมีส่วนคล้ายตนเองอยู่บ้างแต่มีหลายจุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ฉะนั้นขอยืนยันว่าไม่เคยไปก่อเหตุดังกล่าวในพื้นที่ จ.ตรังแต่อย่างใดทั้งสิ้น รู้สึกหดหู่เศร้าใจสินหวังเป็นอย่างมากที่อยู่ๆก็ต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่ตนเองไม่เคยก่อและไม่เคยทำ มาวันนี้รู้สึกดีใจที่หน่วยงานต่างๆลงมาช่วยเหลือทำให้มีความหวังมีกำลังในการต่อสู้คดีนี้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เวลา13.00 น.วันนี้ ( 23 มี.ค.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมทีมงานจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเองอีกครั้ง