ชมรมผู้ปฏิบัติธรรมฯภูเก็ตขอความเป็นธรรมให้หลวงพ่อธัมมชโย

โพสเมื่อ : Wednesday, May 11th, 2016 : 4.50 pm

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (11 พ.ค.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ชมรมผู้ปฏิบัติธรรม สัมมาอะระหัง จังหวัดภูเก็ต ประมาณ 50 คน นำโดย นายโอฬาร เจริญวานิช เลขานุการการชมรมผู้ปฎิบัติธรรม สัมมาอะระหัง จังหวัดภูเก็ต และนางวนิดา นิลโรจน์ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีถูกกล่าวหาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ โดยยื่นขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ผ่าน นายวัชรินทร์ เจตนาวนิช เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน โดยมี นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมIMG_1181
นอกจากนั้นได้มีการชูป้าย ข้อความต่างๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ว่า เรารักหลวงพ่อธัมมชโย ขอความเป็นธรรมให้หลวงพ่อธัมมชโย หลวงพ่อธัมมชโยท่านไม่ได้ฟอกเงิน ท่านไม่ได้รับของโจร ไม่ได้เป็นผู้ทำร้ายประเทศ ฯลฯIMG_1189

นายโอฬาร เจริญวานิช เลขานุการการชมรมผู้ปฎิบัติธรรม สัมมาอะระหัง จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึง การยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ว่า เพื่อช่วยปกป้องให้ความเป็นธรรมแก่พระเทพญาณมหามุนี โดยไม่ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ในคดีพิเศษที่ 27/2559 โดยมีรายละเอียดคือ 1.ในสำนวนคดีพิเศษที่ 146/2556 พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) มีฐานะเป็นพยานในคดี 2.นายธรรมนูญ อัตโชติ ได้กล่าวหา นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ว่า กระทำผิดฐานฟอกเงินและกล่าวหาพระเทพญาณมหามุนี ว่า กระทำผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ทำสำนวนแยกขึ้นมาเป็นคดีพิเศษที่ 27/ 2559 อีกคดีหนึ่ง ซึ่งซ้ำซ้อนกับคดีพิเศษที่ 146/2556 และ 63/2557 ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนไม่ทำตามคำสั่งของพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ โดยการที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้แยกมูลคดีบางส่วนออกจากคดีเดิมมาตั้งเป็นสำนวนคดีพิเศษใหม่ที่ 27/2559 จึงเป็นการดำเนินคดีซ้ำซ้อนขัดต่อหลักกฎหมายที่ว่า “กรรมเดียวจะดำเนินคดีซ้ำซ้อนไม่ได้” ซึ่งอาจจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 3.พระเทพญาณมหามุนี รับบริจาคโดยเปิดเผย ท่ามกลางคนจำนวนมาก เป็นการรับบริจาคของวัด ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณะกุศล และพระภิกษุซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะกุศล เพื่อนำปัจจัยที่ได้รับบริจาคไปใช้ในกิจการทางศาสนา เช่น สร้างศาสนสถาน หรือศาสนาวัตถุ ซึ่งในกรณีนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค อันเป็นกิจการโดยทั่วไปที่เกี่ยวกับศาสนาโดยเปิดเผย และบุคคลทั่วไปรวมทั้งผู้บริจาคสามารถตรวจสอบได้ ย่อมไม่เป็นความผิดฐานฟอกเงินหรือรับของโจร 4.นายศุภชัยฯ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เงินที่นำมาบริจาคทำบุญให้กับวัดพระธรรมกาย และพระเทพญาณมหามุนีนั้น เป็นเงินยืมมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและได้ใช้คืนเงินให้กับสหกรณ์รเครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด ครบถ้วนแล้ว 5.คณะศิษย์ยานุศิษย์ของพระเทพญาณมหามุนีได้ตั้งกองทุนเยียวยาช่วยเหลือให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด โดยสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ได้รับเงินไปแล้วทั้งหมด 684.78 ล้านบาท ส่วนเงินอีก 370.78 ล้านบาท คณะศิษย์ยานุศิษย์ได้มอบเช็คให้แก่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนจึงถอนฟ้องพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งทำหนังสือแสดงเจตจำนงไม่ประสงค์จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกาย นอกจากนั้นได้ทำหนังสือขอบคุณมายังคณะศิษย์ของพระเทพญาณมหามุนีIMG_1202

ดังนั้น ชมรมผู้ปฏิบัติธรรม สัมมาอะระหัง จังหวัดภูเก็ต จึงเห็นว่าการกระทำของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับพระมหาเถระที่ตั้งใจทำความดี จึงรวมตัวกันร้องเรียนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความเป็นธรรมกับพระสงฆ์ด้วยIMG_1213

นายวัชรินทร์ เจตนาวนิช เจ้าพนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า จะส่งหนังสือขอความเป็นธรรมนำเสนอเรื่องให้ทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาตามกฎหมาย และหลังจากได้คำตอบผู้ที่มาร้องเรียนทั้งหมดพอใจจึงแยกย้ายกันกลับต่อไปIMG_1221