รองนายกฯมั่นใจ สมาร์ทซิตี้ก้าวไปข้างหน้า สู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัล

รองนายกฯมั่นใจภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ ก้าวไปข้างหน้า ด้วยการขับเคลื่อนในทุกมติ สู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัล พร้อมเปิดตัว ศูนย์ความเป็นเลิศด้านดิจิทัลภูเก็ต ขณะที่ผู้ว่าภูเก็ตเตรียมขอสนับสนุนงบดำเนินเดินหน้าต่อด้านการดูแลความปลอดภัย หลังดำเนินการ 2 โปรเจ็คแล้วเสร็จ ทั้งการพัฒนาแอพพลิเคชั่นภูเก็ต – wifi ฟรี

วันนี้ (31 มี.ค.) ที่โรงแรมโนโวเทลโภคีธรา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการ สัมมนาพลังเศรษฐกิจดิจิทัลสู่ภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ หรือ Moving Forward to phuket smart city ซึ่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดขึ้น โดยมี นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายโชคชัย เดชอมรธัญผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และกลุ่มผู้สนใจธุรกิจสตาร์ทอัพเข้าร่วมจำนวนมาก

สำหรับงานสัมมนาพลังเศรษฐกิจดิจิทัล สู่ภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มี.ค.ถึงวันที่ 1 เม.ย.2560 โดยภายในงานจัดให้มีการออกบูธ 4กลุ่ม ได้แก่ 1.ผลงานโครงการ phuket smart city ประกอบด้วย Smart Environment สำหรับเทศบาลนครภูเก็ตติดตั้งสถานีวัดคุณภาพน้ำ อากาศ ระดับน้ำในคลองบางใหญ่ ระดับน้ำทะเล และระบบควบคุมปั้มน้ำที่ประตูน้ำ เซ็นเซอร์เก็บข้อมูลเพื่อส่งไปวิเคราะห์ในการดำเนินการขยายจำนวนจุดติดตั้ง Marine Sefety เป็นระบบความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทางทะเล Smart Street Light ระบบบริหารจัดการแสงสว่างบนท้องถนน Smart Home for Elderly People บ้านอัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุ ช่วยให้ผู้สูงอายุหรือคนโสดอยู่บ้านเพียงลำพังได้อย่างอุ่นใจ Smart Transportation ระบบบริหารจัดการขนส่งอัจฉริยะ สำหรับการตรวจสอบตำแหน่งรถโดยสาร และ Smart Tracking การพัฒนาวิจัยนวัตกรรมยุคหน้าสำหรับ RFID เพื่อการติดตามสิ่งของคน หรือสัตว์เพิ่มศักยภาพในการสื่อสารและแข่งขันกับต่างประเทศ 2. ผลงานของStartup ที่มีลูกค้าทั่วประเทศทำรายได้ จำนวนมาก 3.ผลงานของStartup ที่ได้รับรางวัลPitchong และ 4.ผลงานของนักพัฒนาระบบหน้าใหม่เฉพาะงานที่เกี่ยวกับการพัฒนา phuket smart city

นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการเปิดตัว ศูนย์ความเป็นเลิศด้านดิจิทัลภูเก็ต ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เพื่อสร้างความพร้อมด้านกำลังคน งานวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านดิจิทัล รองรับการพัฒนาภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ตลอดจนช่วยสร้างระบบนิเวศทางอุตสาหกรรมดิจิทัลในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิด 1.Community of Experts and Innovation Hubs เป็นแหล่งรวมข้อมูลที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นวัตกร และนวัตกรรมด้านดิจิทัล รวมถึงสร้างชุมชนของผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและสร้างสรรค์ เพื่อให้คำปรึกษาและผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

2.Excellence Research and Development สนับสนุนให้เกิดการสร้างงานวิจัยและพัฒนา สร้างต้นแบบด้านดิจิทัลและองค์ความรู้ที่สามารถเพิ่มผลผลิตให้แก่ผลิตภัณฑ์ และ/หรือประสิทธิภาพในการให้บริการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และ3. Empowering Start-up and Digital Workforce พัฒนาผู้ประกอบการ การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการ Start-up หรือ แรงงานที่จะขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสร้างนวัตกรรม รวมถึงงานวิจัยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

รองศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายสนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ โดยแบ่งตามการกระจุกตัวของอุตสาหกรรม หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ คืออุตสาหกรรมทางด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยรัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมให้มีความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล และมีความเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาหรือสถาบันวิจัยในพื้นที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้มีส่วนร่วมกับภาครัฐภาคเอกชนและเครือข่ายการศึกษาและการวิจัยสนับสนุนการพัฒนาภูเก็ตเป็นสมาร์ทซิตี้ โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์ innovation park ณ อาคารบริการวิชาการสะพานหิน /มีการลงนามความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนโครงการภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ร่วมกับสมาคมการค้าส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย หรือ TSEP /มีการลงนามความตกลงทางด้านวิชาการกับบริษัทภูเก็ตพัฒนาเมืองจำกัด ด้วยการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตร่วมกัน/นอกจากนี้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ยังเป็นหนึ่งใน 8 มหาวิทยาลัยเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัยภายใต้การสนับสนุนของกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว.

ขณะที่พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการส่งเสริมการลงทุนในภาพรวมของประเทศ มาสู่การผลักดันและพัฒนาในระดับจังหวัดตามที่ทางจังหวัดภูเก็ตได้ขอรับการสนับสนุน 4 โครงการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาของพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย 1. โครงการ ภูเก็ตสมาร์ทซิตี้และผลักดันให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางดิจิทัล 2.โครงการ Phuket Creative and Start-up park หรือศูนย์นวัตกรรมสำคัญต่อการสนับสนุน Start-up รวมถึงความพยายามของจังหวัดภูเก็ตที่นำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ ด้านความปลอดภัยต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว 3.โครงการศึกษาสำรวจ ออกแบบและก่อสร้างท่าเทียบเรือสาธารณะเพื่อให้ภูเก็ต เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก สอดรับกับการที่ภูเก็ตเป็นเมืองลักษณะการดึงดูด ทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยว 4. โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนภายในพื้นที่ฝังกลบขยะ ศูนย์กำจัดขยะจังหวัดภูเก็ต ทั้ง 4 โครงการ ล้วนเป็นการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นภายใต้แนวทางการแก้ปัญหา ตามกรอบการพัฒนาภูเก็ตที่จะเริ่มจากต้นทางคือ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานให้มีความทันสมัย ซึ่งพบว่าในเรื่องของโครงการสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยอย่างภูเก็ตสมาร์ทซิตี้ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว และถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการดำเนินการพัฒนาต่อไปในอีกหลายๆเรื่อง

หลังจากนั้น พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า การสัมมนาในครั้งนี้ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของจังหวัดภูเก็ตอีกก้าวหนึ่งที่จัดให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันระหว่างผู้บริหารภาครัฐ ภาคการศึกษา ประชาชน เพื่อมาร่วมพุดคุยกันถึงการพัฒนาภูเก็ตให้เป็น สมาร์ทซิตี้ เป็นเมืองแห่งดิจิทัลในอนาคต ภูเก็ตจะต้องทำอย่างไรบ้าง แต่จะต้องคำนึงถึงแกนหลักใน 2 เรื่องคือ เรื่องความสวยงามของธรรมชาติวัฒนธรรมท้องถิ่นจะอยู่อย่างไร กับการท่องเที่ยวที่มีโอกาสเจริญเติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งทางรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็จะเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของการขับเคลื่อนดิจิทัลในทุกมิติ ทางผู้ว่าว่าราชการจังหวัดภูเก็ตก็จะทำหน้าที่ในการประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับโครงการภูเก็ต สมาร์ท ซิตี้ ของภูเก็ตถือว่ามีความก้าวหน้าไปมาแล้ว และเริ่มดำเนินการไปแล้ว คือการเปิดใช้ WIFI .ใน 2 จุด และเรื่องต่อไปที่กำลังดำเนินการคือการเปิดใช้แอพพลิเคชั่น ภูเก็ต ซึ่งเป็นแอพเกี่ยวข้อมูลต่างของภูเก็ตทั้งหมด ทั้งภาครัฐและเอกชน และสิ่งที่จะทำต่อไปและจะขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมคือเรื่องของการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยใช้โปรแกรมต่างๆเข้ามาใช้ ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตพัฒนาไปสู่ระดับโลก

ขณะที่ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่าทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ความสำคัญในเรื่องของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะภูเก็ตในเชิงประชารัฐ โดยมีทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ดีที่สุด ซึ่งดิจิทัล จะเข้ามาช่วยทางด้านการท่องเที่ยวได้มาก เพราะนอกจากจะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวแล้วยังสร้างคุณภาพทางด้านการท่องเที่ยวได้ด้วย และสามารถที่จะนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น วันนี้ถ้าเราตระหนักในเรื่องนี้ บูรณาการความร่วมมือด้วยกันซึ่งจะทำให้ภูเก็ตมีสมรรถนะที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้คนจากทั่วโลกอยากเข้ามานวัตกรรม มาสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆให้เกิดขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ในภูเก็ตซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านภูเก็ตโดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย