3 คนร้ายชาวรัสเซีย บุกปล้นเงิน BITCOIN  2 นทท.ชาติเดียวกัน อ้างเป็นตำรวจสากล

โพสเมื่อ : Wednesday, January 17th, 2018 : 10.08 pm

 

3 คนร้ายชาวรัสเซีย บุกปล้นเงิน BITCOIN (บิสคอยน์)  2 นักท่องเที่ยวสัญชาติเดียวกัน อ้างเป็นตำรวจสากลข่มขู่ให้บอกรหัสบัญชีเข้าระบบ หากขัดขืนจะฉีดยาเสพติดเข้าในร่างกาย  ใช้ผ้าห่มคลุมศีรษะบังคับเข้าบัญชี หลังเข้าบัญชีได้ โอนเงินออกไป 3 ล้านบาทเศษ ก่อนเหตุหลบหนีไปอยู่ประเทศมาเลเซีย ตำรวจเร่งออกหมายจับดำเนินคดี

เมื่อเวลา 15 .00 น.วันนี้ ( 17 ม.ค.) ร.ต.ท.ชนันต์ หงส์สิทธิชัยกุล รองสว.สอบสวน สภ.ฉลอง อ.เมือง รับแจ้งจากนาย MAKSIM LASTOVKA อายุ 23 ปี และ นางสาว ANNA NIKULINA อายุ 28  สัญชาติรัสเซีย ว่า ถูกคนร้าย 3 คนปล้นเงิน BITCOIN (บิสคอยน์) ยอดเงินในบัญชีหายไปประมาณ 3 ล้านบาทเศษ เหตุเกิดที่เลขที่ 88/86 ชั้น 3 คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

 

หลังจากได้รับแจ้ง จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ภูเก็จ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต

 

ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียมมี  4 ชั้น  บริเวณห้องที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 3 ห้องนอนของผู้เสียหายพบเข้าของกระจัดกระจายทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพเป็นหลักฐานและเก็บรอยนิ้วมือแฝงคนร้าย ในที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการต่อไป

พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 2 คน ทราบว่าเป็นแฟนกัน โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา  เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ขณะที่ผู้เสียหายกำลังจะเข้าห้องพัก ได้มีคนร้าย ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย จำนวน 2 คน ได้เข้ามาจับตัวไว้และบังคับให้เข้าไปในห้องนอน โดยอ้างว่าเป็นตำรวจสากลประเทศรัสเซีย จะเข้ามาตรวจสอบผู้เสียหาย เนื่องจากกระทำความผิดเล่นหุ้น BITCOIN (บิสคอยน์) โดยบังคับห้ามไม่ให้เหยื่อขัดขืนหากขัดขืนจะฉีดยาเสพติดเข้าในร่างกายทันที และจะแจ้งให้ตำรวจไทยจับกุมดำเนินคดี

 

หลังจากนั้นคนร้ายก็ได้เอาหมวกไหมพรหมมาใส่ให้นาย MAKSIM LASTOVKA และ เอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมศีรษะของนางสาวแอนน่า นิคูริน่า  ในระหว่างนั้นได้มีชายชาวรัสเซียอีก 1 คน เข้ามาในห้อง แล้ว ขู่บังคับให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คน เอาพาสเวิร์ดของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊ค รวมทั้งเอาพาสเวิร์ดของการเล่น BITCOIN (บิสคอยน์) เพื่อที่จะเข้าระบบเพื่อโอนเงินใน BITCOIN (บิสคอยน์) ไปไว้ในบัญชีของคนอื่น ซึ่งคนร้ายใช้เวลาในการดำเนินการอยู่ที่ห้องดังกล่าวประมาณ 5 ชั่วโมง

 

หลังได้พาสเวิร์ดและข้อมูลรวมทั้งยอดเงินในบัญชี BITCOIN (บิสคอยน์) ทั้งหมดประมาณ 1 แสนยูโร หรือประมาณ 3 ล้านบาทเศษ คนร้ายก็ได้หยิบเอาโน๊คบุ๊ค รวมทั้งแม็กบุ๊ค และบัตรเครดิตของผู้เสียหาย ออกมาด้วยพร้อมกับข่มขู่ไม่ให้แจ้งความกับตำรวจโดยเด็ดขาด หากพบว่ามีการแจ้งความไว้ในวันรุ่งขึ้นจะกลับมายัดยาเสพติดให้ผู้เสียหายรวมทั้งจะจับกุมส่งตำรวจไทยทันที

ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวอีกว่า หลังจากที่เกิดเหตุผู้เสียหายก็กลัวเนื่องจากเป็นเด็กไม่กล้าที่จะแจ้งความ แต่วันนี้ผู้เสียหายโทรศัพท์ไปหาเพื่อนชาวรัสเซีย ที่เป็นอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง จึงได้พากันมาแจ้งความเนื่องจากเชื่อว่าทั้ง 2 ถูกแก๊งคนร้ายชาวรัสเซียหลอกเอาในบัญชีบิสคอยน์ แน่นอน จึงแนะนำให้มาแจ้งความเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิดทั้ง 3 คน ในข้อหาปล้นทรัพย์ต่อไป

 

โดยหลังจากที่เกิดเหตุก็ได้ลงตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ มีการสอบปากคำคนร้ายรวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุ เส้นทางเข้าออกบริเวณดังกล่าว โดยขณะนี้ทราบว่าคนร้ายได้หลบหนีออกประเทศไทย และไปหลบหนีอยู่ในประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะออกหมายจับคนร้ายได้อย่าแน่นอน

และจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น พบว่าผู้เสียหายเคยเห็นคนร้าย 2 ใน 3 คนมาก่อน ตามร้านกาแฟใกล้กับที่พัก จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะติดตามสังเกตพฤติกรรมของผู้เสียหายมานานพอสมควรแล้ว โดยผู้เสียหายเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยมาแล้วประมาณ 2 เดือน และถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่เก่ง และมีชื่อเสียงในวงการนี้