2 ผู้บริหาร “ทรานลี่” ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี 6 เดือน ข้อหาอั้งยี่ ยึดทรัพย์อีกกว่า 200 ล้าน
โพสเมื่อ : Friday, March 2nd, 2018 : 5.28 pm
ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษาสั่งจำคุก นายวีระชัย คำไผประพันธ์กุล และนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม ผู้บริหารเครือข่าย “ทรานลี่ ทราเวิล” ข้อหา “อั้งยี่” จำคุก 7 ปี 6 เดือน พร้อมยึดทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (2 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท.นายสุนทรา พลไตร ผอ.ส่วนข้อมูลคดีและมาตรการพิเศษทางกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินคดีเครือข่าย บริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด
พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้ดำเนินการปราบปรามการประกอบกิจการธุรกิจนำเที่ยวที่มีลักษณะ เป็นทัวร์ต้นทุนต่ำ หรือทัวร์ด้อยคุณภาพ อันเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2559 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (เดิม) กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ร่วมกันตรวจสอบพบว่า
บริษัท ไท่ลี่ หรือ ทรานลี่ เทรเวิล จำกัด และบริษัทในเครือ เป็นบริษัทที่ดำเนินการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งเรือนำเที่ยว รถบัสรับส่งนักท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก สปา ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกครบวงจร และตรวจสอบพบว่า นายกฤชกร รุ่งมงคลนาม และนายวีระชัย คำไผ่ประพันธ์กุล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีการกระทำความผิด โดยใช้บัตรประชาชนที่มิชอบด้วยกฎหมาย ดำเนินธุรกิจเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับ ในข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต,ใช้หรือแสดงบัตรประชาชนอันเกิดจากยื่นคำขอมีบัตรโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่น หรือประชาชนเสียหาย, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย”
โดยนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายวีระชัย คำไผ่ประพันธ์กุล หลบหนี ต่อมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมและได้ทำการเพิกถอนทะเบียนบริษัทในเครือข่ายทรานลี่ จำนวนทั้งสิ้น 15 บริษัท พร้อมกันนี้ได้มีการดำเนินคดีกับ นายกฤชกร รุ่งมงคลนาม และ นายวีระชัย คำไผ่ประพันธ์กุล ในความผิดเกี่ยวกับ อั้งยี่, การใช้บัตรประชาชนโดยมิชอบฯ, การแจ้งความอันเป็นเท็จฯ รวมทั้งสิ้น 22 คดี
นอกจากนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้มีคำสั่งยึดทรัพย์ ของบริษัทในเครือทรานลี่ โดยสามารถยึดรถบัส จำนวน 117 คัน เรือ จำนวน 35 ลำ และทรัพย์สินอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 202 รายการ และได้นำทรัพย์สินขายทอดตลาดสามารถนำเงินคืนสู่แผ่นดินได้ทั้งหมด 204,894,000 บาท ใช้ระยะเวลาในการขายทอดตลาด 6 เดือน
พ.ต.อ.อาชยน กล่าวต่อว่า สำหรับผลการดำเนินการทางคดีกับบุคคลในเครือข่ายบริษัท ทรานลี่ ทราเวิล จำกัด ในปัจจุบัน ซึ่งคดีอาญา ในส่วนของนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม ศาลตัดสินแล้วจำนวน 4 คดี ได้แก่ 1.เมื่อวันที่ 15 ก.พ.61 ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษา นายวีระชัย คำไผประพันธ์กุล (หลบหนี) นายกฤชกร รุ่งมงคลนาม มีความผิดข้อหา “อั้งยี่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 วรรคสอง (เดิม) ประกอบมาตรา 83 จำคุก 10 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง กรณีมีเหตุบรรเทาโทษ เห็นสมควรลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสี่ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 7 ปี 6 เดือน
2.เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 59 ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษา นายกฤชกร รุ่งมงคลนาม มีความผิดข้อหาใช้บัตรประชาชน ฯแจ้งเท็จ ตาม ป.อาญา ม.137,267, พรบ.บัตรประชาชน พ.ศ. 2526 ม.14 ว.2,4 กรรมเดียวหลายบท จำคุกกระทงละ 6 เดือน ปรับกระทงละ 60,000 บาท รวม 18 เดือนปรับ 180,000 บาท รับสารภาพลดโทษจำคุก 9 เดือนปรับ 90,000 บาท รอลงโทษ 2 ปี คุมประพฤติ 2 ปี รายงานตัว 8 ครั้ง ทำงานบริการสังคม 30 ชม. ผู้กล่าวหา นายทะเบียนราษฎรอำเภอเมืองภูเก็ต
3.เมื่อวันที่ 20 มี.ค.60 ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษา นายกฤชกร รุ่งมงคลนาม มีความผิดข้อหาใช้บัตรประชาชน ฯแจ้งเท็จ ตาม ป.อาญา ม.137,267, พรบ.บัตรประชาชน พ.ศ.2526 ม.14 ว.2,4 กรรมเดียวหลายบท จำคุกกระทงละ 6 เดือน ปรับกระทงละ 10,000 บาท 7 กระทง รวม 42 เดือน ปรับ 70,000 บาท รับสารภาพลดโทษจำคุก 21 เดือนปรับ 35,000 บาท รอลงโทษ 2 ปี คุมประพฤติ 2 ปี รายงานตัว 8 ครั้ง ทำงานบริการสังคม 30 ชม. ผู้กล่าวหา นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท
4.เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 60 ศาลจังหวัดภูเก็ตพิพากษา นายกฤชกร รุ่งมงคลนาม มีความผิด ข้อหาใช้บัตรประชาชน ฯแจ้งเท็จ ตาม ป.อาญา ม.137,267, พรบ.บัตรประชาชน พ.ศ.2526 ม.14 ว.2,4 กรรมเดียวหลายบท จำคุกกระทงละ 6 เดือน ปรับกระทงละ 10,000 บาท 7 กระทง รวม 42 เดือน ปรับ 70,000 บาท รับสารภาพลดโทษจำคุก 21 เดือนปรับ 35,000 บาท รอลงโทษ 2 ปี คุมประพฤติ 2 ปี รายงานตัว 8 ครั้ง ทำงานบริการสังคม 30 ชม. ผู้กล่าวหา เจ้าท่าภูเก็ต
ด้าน นายสุนทรา พลไตร ผอ.ส่วนข้อมูลคดีและมาตรการพิเศษทางกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า สำหรับที่ทาง ปปง.ได้ฟ้องในทางคดีแพ่ง โดยเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2560 ศาลแพ่งได้มีคำสั่ง ตามคดีหมายเลขแดงที่ ฟ.154/2560 ให้ทรัพย์สินจำนวน 202 รายการ มูลค่าประเมินประมาณ 104,646,564 บาท ของบริษัทในเครือข่ายทรานลี่ ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานอั้งยี่ นอกจากนี้เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2561 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้เข้าแจ้งความ ร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ให้ดำเนินคดีกับนายกฤชกร รุ่งมงคลนาม และนายวีระชัย คำไผ่ประพันธ์กุล ในความผิดฐาน “ฟอกเงิน” ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ เพิ่มเติม อีกข้อหาหนึ่ง
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ กกต.ภูเก็ต จัดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งนายกและส.อบจ....
- อบจ.ภูเก็ต จัดโครงการเก็บขยะใต้ทะเล แหล่งปะการังเทียม ประจำปี 2568...
- “ศุภาลัย” รุกตลาดบ้านแนวราบมิกซ์โปรดักส์ ปักธง แลนด์มาร์คใหม่ภูเก็ต เปิดตัว “ไพร...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Th...
- บจ.ภูเก็ต ประชุมเพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดแยกและแจกจ่ายบัตรเลือกตั...
- อบจ.ภูเก็ตร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39...
- January 2025 (21)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)