ไล่ล่าจระเข้ซุกขุมน้ำใกล้หาดเลพังวันที่ 2 ยังคว้าน้ำเหลว ลงใหม่ค่ำนี้

โพสเมื่อ : Thursday, August 31st, 2017 : 4.07 pm

ไล่ล่าจระเข้ในขุมน้ำใกล้หาดเลพัง จ.ภูเก็ต วันที่ 2 ขนแพขนานยนต์ 4 ลำ ปิดล้อมหวังผลักดันให้ไปอยู่ในจุดวางอวน แต่สุดท้ายยังไร้ผล ผลักดัน ยังไร้ผลเพราะจระเข้มุดตัวลงไปอยู่ในจุดตรงกลางของขุมน้ำแล้วไม่ยอมเคลื่อนตัวไปไหน ขณะที่ผู้ว่ามันใจจับได้แน่แต่จะต้องมีการปรับแผนการทำงานเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

สำหรับการตามจับจระเข้ ในขุมน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ห่างจากชายหาดเลพัง  ประมาณ 300 เมตร  ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ช่วงบ่ายวันนี้ (31 ส.ค.60) เจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าติดตามจับจระเข้ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต, ชุดไกรทองลุ่มแม่น้ำตาปี ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดภาคใต้ สุราษฎร์ธานี และ เจ้าหน้าที่ภูเก็ตค๊อกโคไดส์ เวิลด์ ได้เปิดปฏิบัติการไล่ล่าในวันที่ 2 แล้ว โดยนำแพขนานยนต์ จำนวน 4 ลำ  ลงไปในขุมน้ำ เพื่อต้อนจระเข้ให้ไปยังบริเวณ ที่มีการวางอวนกั้นไว้เพื่อให้ง่ายต่อการจับ แต่ปฏิบัติการดังกล่าวก็ไม่สำเร็จ

 

เนื่องจากการตรวจสอบพบว่า จระเข้ตัวดังกล่าวได้มุดลงไปในน้ำที่ระดับความลึก ประมาณ 8 – 9 เมตร และซ่อนตัวอยู่บริเวณดังกล่าวซึ่งถือเป็นจุดกึ่งกลางของขุมน้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยุติการล้อมจับอีกครั้ง เพื่อมาปรับแผนการทำงานใหม่  โดยจะต้องหาอวนที่มีขนาดความกว้างประมาณ 8 – 9 เมตร และมีความยาวประมาณ 300 เมตร เพื่อมาทำการล้อมจับ และนำขึ้นฝั่ง ซึ่งวิธีการดังกล่าวถือว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นขุมน้ำที่มีขนาดใหญ่ และค่อนข้างลึกมาก หากจะใช้วิธีการอื่นคงไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการยิงยาสลบ เพราะเกรงว่าเมื่อจระเข้จมลงไปในน้ำจะนำขึ้นมาลำบาก ส่วนของการใช้กระแสไฟฟ้าก็เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากปริมาณน้ำที่มาก และน้ำในบึงก็เป็นน้ำกร่อย

 

ด้านนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าในการจับจระเข้ในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล ว่า การไล่ล่าจระเข้ได้มีการจัดตั้งทีมงานขึ้นมา และได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการจับจระเข้ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ในบริเวณขุมเหมืองเก่า แต่ยังไม่สามารถจับตัวได้ เนื่องจากจระเข้มีความว่องไวมาก สำหรับขั้นตอนในการจับจระเข้เจ้าหน้าที่ได้วางแผนตรึงพื้นที่ โดยล้อมจระเข้ให้เข้าไปอยู่ในบริเวณที่จำกัด เพื่อไม่ให้จระเข้หนีออกไปในบริเวณกว้าง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามจระเข้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามตนมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการจับจระเข้ได้อย่างแน่นอน และถือเป็นสิ่งที่ดีที่จระเข้อยู่ในวงจำกัด หากอยู่ในท้องทะเลจะทำให้การไล่ล่าหรือจับจระเข้เป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น

ด้านนายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจังหวัด ภูเก็ต กล่าวว่า จากการที่ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้จัดตั้งทีมจับจระเข้นั้น สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ตร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้านและทีมผู้เชี่ยวชาญไล่ล่า จระเข้ชุดไกรทองจากสุราษฎร์ธานี มาช่วยล้อมพื้นที่จระเข้ดังกล่าวไว้ให้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด คือ บริเวณขุมเหมืองซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกับทะเลเพื่อเฝ้าระวัง ไม่ให้จระเข้ ออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว และได้วางแผนที่จะเร่งจับจระเข้ให้ได้ โดยจะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก

 

โดยขณะนี้ได้เริ่มจากการใช้บ่วงในการจับจระเข้ และจะพยายามเข้าไปให้ใกล้ และใช้บ่วงคล้องจับตัวจระเข้ โดยพบว่าเมื่อคืนที่ผ่าน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปใกล้ จระเข้มีปฏิกิริยาที่ว่องไวมาก จึงปรับแผนมาใช้อวนในการจับกุม แต่ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ของขุมเมืองที่น้ำลึก จึงไม่สามารถใช้อวนล้อมจับได้  สำหรับจับด้วยอวนล้อมจับ จะทำได้ดีในกรณีที่จระเข้อยู่ใกล้ฝั่ง ทั้งนี้หากอวนยังจับไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการใช้เบ็ดในการจับ จระเข้ และหากวิธีการใช้เบ็ดยังไม่ได้ผล ก็จะนำไฟฟ้ากระแสโวลต์ต่ำ เพื่อให้จระเข้สลบ และเข้าทำการจับ และ ในกรณีที่การใช้กระแสไฟฟ้าไม่ได้ผล วิธีสุดท้าย ก็จะใช้การยิงยาสลบ โดยเชื่อว่าการล้อมวงจระเข้ให้อยู่ในบริเวณที่จำกัด จะทำให้เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมจับจระเข้ได้อย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประชาชนอย่าได้วิตกกังวลเพราะเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามจระเข้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้จระเข้อยู่ในวงที่จำกัด และในการจับจระเข้จะดำเนินการในช่วงเวลากลางคืนเนื่องจากในช่วงเวลากลางวันเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าใกล้จระเข้จะมองเห็นและหนีไปได้ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเวลากลางคืนทีมจับจระเข้ ก็จะนำวิธีการดังกล่าวมาใช้ในการจับจระเข้ โดยจะจับได้ในวิธีใดขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่พบจระเข้