ไม่มีสารระเบิด วัตถุต้องสงสัยคล้าย M.67 พบเพียงผงสีดำ-ลูกตะกั่ว

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบละเอียดภายในวัตถุต้องสงสัยคล้าย M 67 จุดจอดรถแท็กซี่ใกล้สนามบินภูเก็ต ไม่มีสารจุดระเบิด ไม่มีตัวหน่วงเวลา พบเพียงผงสีดำ – ลูกตะกั่ว ส่งตรวจอีกรอบหาชนิดผงสีดำ

พล.ต.ต.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณี มีการตรวจพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดมือ M 67 ที่บริเวณจุดจอดรถยนต์แท็กซี่มิเตอร์ ริมถนนทางเข้าสนามบินสายเก่าเลียบรันเวย์ สนามบินภูเก็ต ว่า กรณีดังกล่าวเกิดซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 19.50 น. ร.ต.ท.ยุทธนา ชิตชลธาร รอง สวป.สภ.สาคู เวรป้องกันปราบปราม ได้รับแจ้ง ว่าพบวัตถุคล้ายลูกระเบิดอยู่บนพื้นบริเวณโต๊ะสนุกเกอร์ ที่จุดจอดรถของบริษัทแท็กซี่มิเตอร์ ห่างจากรั้วสนามบินประมาณ 50 เมตร ห่างจากทางเข้าสนามบิน อาคารในประเทศประมาณ 500 เมตร

หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคูจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการสอบถามคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งเล่นสนุกเกอร์กันอยู่ 2 โต๊ะ จำนวน 15 คน ปรากฏว่าก่อนหน้านี้ ไม่มีใครพบเห็นวัตถุดังกล่าวมาก่อน จนกระทั่งมีสุนัขสีดำที่หากินในบริเวณนั้นเดินเข้ามานอนที่ข้างเสา ห่างจากโต๊ะสนุกเกอร์ ประมาณ 1.5 เมตร จึงพบวัตถุดังกล่าว และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ

หลังลงพื้นที่ตรวจสอบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สาคู โดยผู้กำกับการสถานี ได้ประสานชุดอีโอดี ของการท่าอากาศยานภูเก็ต เข้าพิสูจน์ทราบเบื้องต้น พบว่าภายนอกมีลักษณะเป็นไฟแช็คที่มีลักษณะคล้ายระเบิด M 67 หลังจากนั้นได้นำตรวจด้วยเครื่องมือทดสอบสารระเบิดเบื้องต้น หรือเครื่องไฟโด้ ปรากฎว่าไม่พบดินระเบิด คาดว่าน่าจะเป็นไฟแช็ค แต่มีการพันเทปกาวในส่วนของสลักระเบิดและรอบตัวระเบิด จึงได้แจ้งให้ชุด อีโอดี ของ กก.สส.ร่วมตรวจพิสูจน์

จากการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด ปรากฏว่าวัตถุดังกล่าวภายนอกเป็นพลาสติกแข็ง แยกได้เป็นสองส่วน ส่วนแรกด้านบนมีไฟแช็คติดอยู่ ส่วนด้านล่างเป็นที่เขี่ยบุหรี่ ภายในบรรจุวัตถุลักษณะคล้ายดินสีดำ มีลูกตะกั่วกลมขนาดเล็กปะปนอยู่ แต่ไม่มีตัวจุดระเบิดหรือแก๊ป ไม่มีระบบหน่วงเวลา

ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการทดสอบด้วยการเผาไฟ ปรากฏว่าไม่ติดไฟ ยังไม่สามารถยืนยันในเบื้องต้นว่าเป็นสารชนิดใด แต่จากการตรวจสอบยืนยันได้ว่าวัตถุดังกล่าวไม่สามารถระเบิดได้ แม้ได้รับแรงกระแทก ซึ่งในเบื้องต้นได้แจ้งให้พิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝง และตรวจยึดไว้เพื่อส่งตรวจพิสูจน์ต่อไปแล้ว