โรงแรมเถื่อนแจ้งเข้าระบบแล้วกว่า 500 แห่ง ผู้ว่าฯงัด 4 มาตรการกดดันต่อ

โพสเมื่อ : Tuesday, January 24th, 2017 : 4.30 pm

ต้อนโรงแรมเถื่อนเข้าระบบคืบหน้าแล้ว มาแสดงตนขอเป็นโรงแรมถูกกฏหมายแล้วกว่า 500 แห่ง จากทั้งหมด 1,300 แห่ง ผู้ว่าฯยันสิ้นสุด 31 มกราคมนี้ ยังเพิกเฉย ลงดาบสั่งปิดทันที แถมงัด 4 มาตรการเดินหน้ากดดัน ห้ามข้าราชการใช้บริการโรงแรมเถื่อนเด็ดขาด dscf8341.jpg

วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการแถลงข่าว โครงการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พบสื่อมวลชน โดยมีนายสนิท ศรีวิหค และนางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์ จังหวัดภูเก็ต และสื่อมวลชนในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงความคืบหน้าการจัดระเบียบโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อแก้ปัญหาการนำอาคารประเภทอื่นมาทำเป็นโรงแรมด้วยเปิดให้บริการรายวัน ว่า ตามที่จังหวัดได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการให้บริการห้องพักในจังหวัดภูเก็ต มีสถานประกอบโรงแรม ในจังหวัดภูเก็ตได้การดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 424 แห่ง และมีสถานที่พักประเภทอื่น เช่น คอนโดมิเนียม อพาร์เม้นท์ แมนชั่น มาเปิดขายบริการห้องพักเป็นรายวัน ทั้งหมดิ1,366 แห่ง ซึ่งสถานประกอบการดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับโรงแรมที่มีใบอนุญาตถูกต้องเป็นอย่างมาก สำหรับสถานที่พักที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมเนื่องจาก มีปัญหาเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายบางประการ จังหวัดได้เปิดโอกาสให้สถานประกอบการทั้ง 1,366 แห่งมาขึ้นทะเบียนเป็นโรงแรมให้มีความถูกต้อง ภายในวันที่ 31 มกราคม 2560 เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพให้เป็นโรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น ปรากฎว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการสถานที่พักได้มายื่นคำขอเพื่อเข้าสู่ระบบโรงแรมที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 แล้วจำนวน 507 แห่ง ในพื้นที่อำเภอเมือง 177 แห่ง อำเภอกะทู้ 236 แห่ง และ อำเภอถลาง 94 แห่ง สถานที่พักที่มายื่นเพื่อเข้าสู่ระบบโรงแรมส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยรวม อาคารพาณิชย์ บ้านพักอาศัย

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร และแยกประเภทของปัญหาของคณะทำงานระดับอำเภอ ในส่วนของคณะทำงานระดับจังหวัดได้พิจารณาคำขอของผู้ประกอบการในเขตพื้นที่อำเภอถลาง ซึ่งคณะทำงานระดับอำเภอได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วส่งให้จังหวัดพิจารณาจำนวน 5 ราย และพบว่าสถานที่พักทั้ง 5 แห่ง สามารถเข้าสู่ระบบโรงแรมได้ เพียงแต่ต้องปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องเล็กๆ น้อย ๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงของผู้ยื่นขอ

นายโชคชัย กล่าวเพิ่มว่า การยื่นคำขอนำอาคารประเภทอื่นมาทำเป็นโรงแรมนั้น ทางจังหวัดภูเก็ตได้ประกาศให้เวลา 2 เดือน โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2560 หากครบกำหนดแล้วจะขยายเวลาหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการกับเอกสารที่ยื่นขอทันหรือไม่ หากไม่ทันอาจจะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีก แต่หากไม่มีการยื่นขอเข้ามา ทางจังหวัดก็จะดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนทันที่ในข้อหาเปิดโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่ทางอำเภอแจ้งเข้ามานั้น มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่จะปิดให้บริการห้องพักรายวันกลับไปทำธุรกิจเดิม เช่น อพาร์ทเมนท์ คอนโดฯ ที่ไม่สามารถนำมาทำเป็นโรงแรมได้ เพราะจะต้องให้เจ้าของห้องทั้งหมดยินยอม

นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ออก 4 มาตรการในการกดดันให้ผู้ประกอบการโรงเข้าสู่ระบบ คือ 1.หน่วยงาน ต่าง ๆ โดยเฉพาะส่วนราชการหากมีการจัดประชุมสัมมนาในโรงแรมกำหนดให้ดำเนินการจัดประชุมสัมมนาในโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเท่านั้น 2.การอนุญาตให้ข้าราชการและบุคลากรเดินทางไปราชการจะต้องเข้าพักเฉพาะโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมเท่านั้น 3.ทางจังหวัดจะไม่สนับสนุนด้านการขายและการประชาสัมพันธ์ และ 4.การพิจารณาอนุญาตอนุมัติตามกฎหมายต่างๆที่โรงแรมเป็นผู้ยื่นคำขอให้หน่วยงานขอสำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมประกอบการพิจารณาด้วยทุกครั้ง