“โบ๊ทพัฒนา” ประกาศความสำเร็จ กับยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมเปิด 2 โครงการใหม่  โบ๊ท อเวนิว เรสซิเดนซ์ – โบ๊ทแกลเลอเรีย บนทำเลทอง ตอบโจทย์ตลาดบน

โบ๊ทพัฒนา ประกาศความสำเร็จ กับยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาทพร้อมเปิดตัว 2 โครงการใหม่  “โบ๊ท อเวนิว เรสซิเดนซ์”เเละ “โบ๊ทแกลเลอเรีย” บนทำเลทอง ตอบโจทย์ตลาดระดับมูล 12 หลัง มูลค่าโครงการกว่า 300 ล้านบาท  ขณะที่ ซุปเปอร์ลักซูรี่วิลล่า “เมซองมารีน่าพันวา” ขายหมดตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว ดันราคาหลัง 70-150 ล้าน

เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทฯ โบ๊ทพัฒนา จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของจังหวัดภูเก็ต ที่มีประสบการณ์ทางด้านอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน ได้จัด  จัดงาน ” Boat Pattana 1,000 MB Celebration and Boat Avenue Residence VVIP Party” ขึ้น เพื่อขอบคุณลูกค้า สื่อมวลชน รวมทั้งเฉลิมฉลองความสำเร็จของบริษัทฯ กับยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท รวมทั้งแถลงเปิดตัว โครงการใหม่ล่าสุด อีก 2 โครงการ คือ โครงการ โบ๊ท อเวนิว เรสซิเดนซ์ (Boat Avenue Residence) เเละ โครงการ โบ๊ทแกลเลอเรีย (Boat Galleria) โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิด และมี นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด นายภาณุพงศ์ กริชจนรัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEO บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด ร่วมแถลงถึงความสำเร็จดังกล่าว ณ โครงการ Boat Avenue Park and Play ground ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีลูกค้า และสื่อมวลชนเข้าร่วมจำนวนมาก

นายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด กล่าวว่า จากความสำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2552 ของ บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด ในการสร้างอาคารพาณิชย์ แนว Mixed-use เเละ คอนเทนเนอร์มอลล์ “โบ๊ท อเวนิว” (Boat Avenue) ร่วมกับ เหล่าพันธมิตรทางธุรกิจ อย่าง วิลล่ามาร์เก็ต ร้านเฟอร์นิเจอร์ ร้านเสื้อผ้า เเละ ร้านอาหารนานาชาติ รวมถึงตลาดนัดฟันฟรายเดย์ อเวนิว จนปัจจุบัน โบ๊ทอเวนิว ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังย่านเชิงทะเล เป็นที่รู้จักของชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวทั้งไทยเเละต่างชาติ ทำให้ย่านเชิงทะเลคึกคักและมีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่มากที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต

.

ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ “ มุ่งสู่การเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เชิงการท่องเที่ยวและพักผ่อน เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุน ในพื้นที่ฝั่งอันดามันของประเทศไทย” ทำให้บริษัทได้พัฒนาต่อยอดคุณภาพ เเละ บริการมาตลอด จนกระทั่งโครงการล่าสุด ได้แก่ โครงการเดอะเฟิร์ส โครงการคาซ่า ซิกเนเจอร์ โครงการไฮด์อเวย์ โปรเจคเอฟ เเละ โครงการชัมบาลา เเกรนด์ วิลล่า รวมถึง กิจกรรมโบ๊ทสัมพันธ์ที่เราทำมาตลอด อย่างการเเจกข้าวกล่องทุก ๆ วันในช่วงโควิด-19 ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัย ที่ทำให้โบ๊ทพัฒนา ทำยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท เป็นครั้งแรกได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2564

.

“ที่ผ่านมาเรายังไม่หยุดพัฒนา ในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ได้มองเห็นความต้องการของผู้พักอาศัยในบริเวณ โบ๊ท อเวนิว ที่เพิ่มมากขึ้น และ มั่นใจว่าศักยภาพของทำเลที่ตั้งจะสามารถตอบโจทย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ต้องการมีบ้านเพื่ออยู่อาศัย เเละ การลงทุน บนทำเลทอง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางแห่งความสะดวกสบาย และความพร้อมด้านสาธารณูปโภค นอกจากอยู่ใกล้ทะเลแล้ว ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อการใช้ชีวิตในเมือง ทำให้เชิงทะเลมีศักยภาพที่จะเป็น The Next CBD (Central business district) อีกที่หนึ่งของจังหวัดภูเก็ต” นายบุญ กล่าวและว่า

.

ทางบริษัทฯ จึงได้เปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุดอีก 2 โครงการใหม่ ในย่านเชิงทะเล คือ โครงการ โบ๊ท อเวนิว เรสซิเดนซ์ (Boat Avenue Residence) เเละ โครงการ โบ๊ทแกลเลอเรีย (Boat Galleria) ซึ่งทั้งสองโครงการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ Boat Avenue Park and Play ground บนเนื้อที่ 7 ไร่ (จากพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 180 กว่าไร่) ทั้งสองโครงการมีเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น แบ่งเป็นโครงการ โบ๊ท อเวนิว เรสซิเดนซ์ จำนวน 7 ยูนิต และโครงการ โบ๊ท แกลเลอเรีย จำนวน 5 ยูนิต มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท

โดยโครงการ โบ๊ท อเวนิว เรสซิเดนซ์ (Boat Avenue Residence) พัฒนาภายใต้สโลเเกน Stylish residence with unrivaled location วิลล่าหรูท่ามกลางความเจริญทางธุรกิจเเละไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ จำนวน 7 ยูนิต ยูนิตละ 27-36 ล้านบาท ไม่เพียงแต่จะเป็นวิลล่าพักตากอากาศเท่านั้นแต่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนในอนาคตได้อีกด้วย .

ส่วนโครงการ โบ๊ท แกลเลอเรีย (Boat Galleria) อาคารมิกซ์ยูส (Mixed-use) เเห่งใหม่ย่านโบ๊ท อเวนิว เชิงทะเล มีทั้งหมด 5 ยูนิต ยูนิตละ 30-40 ล้านบาท “โบ๊ท แกลเลอเรีย” ได้ถูกออกเเบบให้ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายเเละครบถ้วน เพื่อเติมเต็มความต้องการของนักธุรกิจและนักลงทุนให้มีการได้ผลตอบเเทนที่หลากหลายได้สูงขึ้น เเละกระจายความเสี่ยงในตัว ตัวโครงการมีที่จอดรถกว้างขวาง มีศักยภาพเป็นเเหล่งรวมธุรกิจหลายประเภทที่จะสร้างผลตอบเเทนที่ยั่งยืนกับผู้ลงทุนเเละส่งต่อความมั่งคั่งได้ในอนาคต

.

ประธานกรรมการ บริษัท โบ๊ทพัฒนา กล่าวต่อว่า ทางโบ๊ทพัฒนามั่นใจในศักยภาพของภูเก็ต ที่ยังเป็นแม่เหล็กในการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามา แม้ว่าขณะนี้การท่องเที่ยวจะยังไม่กลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์ นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับเข้ามา แต่อินเดีย อาหรับ และชาติอื่นๆ ก็เริ่มทยอยเข้าภูเก็ต ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ และนักลงทุนเองก็มั่นใจถึงความพร้อมในทุกๆด้านของภูเก็ต จะเห็นว่าโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงการหรูจับกลุ่มลูกค้าระดับบนยังสามารถขายได้ดี ทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติยังต้องการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์

“จะเห็นได้จากการที่ทางโบ๊ทพัฒนาได้เตรียมที่จะพัฒนาโครงการระดับซุปเปอร์ลักซูรี่วิลล่า ภายใต้โครงการ เมซองมารีน่าพันวา ที่บริเวณบ้านแหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นวิลล่าหรูระไฮเอนด์ จำนวน 9 ยูนิตๆละ70-150 ล้านบาท พร้อมท่าเรือยอชต์ ขายได้ทั้งหมด ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เปิดตัวและเปิดการขายแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ก่อสร้าง ตามเป้าหมายวางไว้เสร็จภายใน 2 ปี ทั้งนี้เพราะความมั่นใจในตัวบริษัทและศักยภาพของภูเก็ต ซึ่งลูกค้าที่มาซื้อเกือบทั้งหมดเป็นคนไทย ซื้อเพื่ออยู่อาศัย

นายบุญ กล่าวในตอนท้ายว่า โบ๊ทพัฒนายังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทีมีคุณภาพตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเชื่อมั่นว่าเมื่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตกลับมาเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงตัวเลขเดิมก่อนเกิดโควิด ธุรกิจอสังหาฯของภูเก็ตจะกลับมาในทุกๆ ตลาด เพราะธุรกิจอสังหาฯภูเก็ตนั้นขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว เมื่อการท่องเที่ยวเติบโต อสังหาฯก็จะเติบโตตาม