โต้ทุกข้อกล่าวหาหมอแจ้งความ ผอ.วชิระภูเก็ต ยันทำตามมาตรฐาน อุปกรณ์พร้อม

โพสเมื่อ : Tuesday, March 3rd, 2020 : 11.22 pm

แจงทุกข้อกล่าวหา หลังถูกหมอแจ้งความเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีโควิด ยันทำตามมาตรฐาน  อุปกรณ์พร้อม กรณีย้ายคนต้องสงสัยจากโรงพยาบาลศูนย์ไปโรงพยาบาล 60 เตียงยังทำไม่ได้

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ ( 3 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 6 อาคารคุณพุ่ม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมนายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต)  และ นพ.เฉลิมพงศ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ร่วมกันการแถลงข่าวกรณีแพทย์หญิง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับ นพ.เฉลิมพงศ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และ พ.ญ.ศุภลักษณ์ ละอองเพชร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการแพทย์ โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตเป็นเหตุให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสาธารณชน  ซึ่งก่อให้เกิดการแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ตลอดจนสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ต

 

นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวยืนยัน ว่า จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานด้านสาธารณสุขของจังหวัดภูเก็ต มีความพร้อมและแนวทางการปฏิบัติงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิค-19 ไว้อย่างชัดเจน และเป็นไปตามมาตรฐานข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข และนับตั้งแต่มีการปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมาไม่พบผู้ติดเชื้อแม้แต่รายเดียวในจังหวัดภูเก็ต ร่วมทั้งการดำเนินงานของโรงพยบาลก็เป็นการดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

ขณะที่ นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้มีการทำงานร่วมกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ และมีการประชุมร่วมกันเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  และเป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ส่วนของจำนวนตัวเลขของผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยและเข้ารับการตรวจนั้นในระดับจังหวัดไม่สามารถให้ข้อมูลได้ โดยจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงที่จะมีการแถลงเป็นประจำทุกวัน แต่ยืนยันว่า นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดจนถึงปัจจุบัน จังหวัดภูเก็ตยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิค-19 แต่อย่างใด

ด้านนพ.เฉลิมพงศ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่มีหมอแจ้งความดำเนินคดีกับตนเองและรองผู้อำนวยการฯ ใน 5 ประเด็น จึงขอชี้แจงในแต่ละประเด็น ดังนี้ ประเด็นแรก ยับยั้งขัดขวางข้อเสนอ ที่จะให้แยกโรงพยาบาลเพื่อรับรักษาโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงโควิด-19 โดยเฉพาะโดยแยกการรักษาผู้ป่วยออกจากผู้ป่วยอื่นทั่วไปซึ่งเรื่องนี้ทางหมอรายดังกล่าวได้ยื่นหนังสือเสนอไปยังผู้ว่าฯ ภูเก็ต เพื่อให้แยกผู้ป่วยที่ต้องสงสัยไปรับการรักษาที่รพ.ถลาง เพื่อไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงหลายที่ แต่จากการหารือร่วมกันไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าวได้ เพราะโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมีความพร้อมในด้านการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญและมีห้องแยกที่พอเพียง ทั้งยังมีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยในกรณีที่มีอาการรุนแรงได้ดีกว่า ซึ่งขณะนี้ทั้ง 3 โรงพยาบาลได้ช่วยกันรับเคสของผู้ต้องสงสัย หรือ PUI และบริหารจัดการได้ดี

ประเด็นถัดมา ที่ระบุว่าไม่มีระบบการคัดแยกผู้ป่วยที่ต้องเผ้าระวัง/คัดกรองโควิด-19 ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง เพราะเราได้มีการจัดตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วยโรคโควิด19 และจุดตรวจไข้หวัดแยกจากผผู้ป่วยปกติ ที่บริเวณลานม่วงขาวมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการเก็บเสมหะในห้องความดันลบ และสำหรับผู้ป่วยในที่มีการ admit เพื่อเฝ้าสังเกตอาการในด้วยห้องแยก Isolate Room 1 ต่อ 1 มิได้ใช้ห้องรวมหรือสิ่งของร่วมกัน และในห้องก็ไม่มีแอร์

ประเด็นถัดมาขอยืนยันว่า ว่าอุปกรณ์ป้องกันอันตราย PPE มีให้กับบุคลากรทางการแพทย์ใช้อย่างพอเพียงในทุกจุดที่ให้บริการ โดยมีการสนับสนุนกันระหว่างโรงพยาบาลในเขตสุขภาพที่ 11 ในเรื่องของอุปกรณ์จึงมีความพร้อมอย่างแน่นอน  ประเด็นที่ 4 ทางโรงพยาบาลมีระบบห้องแยก Isolate Room ในรายที่เข้าข่าย PUI และไม่มีการใช้อุปกรณ์ร่วมกันแต่อย่างใด  และประเด็นสุดท้ายเรื่องการวินิจฉัยถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเคส detect หรือ PUI การแถลงข่าวจะเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการฯ และผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ตามลำดับ

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ามีผู้ป่วยเข้าข่ายโควิด19 นอนตามตึกต่าง ๆ เป็นจำนวนมากนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีเคสเฝ้าระวังดังกล่าวนอนปะปนกับผู้ป่วยรายอื่น โดยจะจัดให้นอนในห้องแยกเท่านั้น รวมทั้งระบบการรับผู้ป่วยทั้งในเวลาและนอกเวลา (กลางคืน) ก็ทำกันอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกประการ  ยืนยันว่า โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้ดำเนินการตามมาตรการการเฝ้าระวัง สอบสวนโรค การป้องกันและควบคุมการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นักท่องเที่ยว และบุคลากรทางการแพทย์

อย่างไรก็ตามสำหรับจังหวัดภูเก็ตการดำเนินการขณะนี้ยังคงอยู่ในระยะที่ 2 แต่หากเมื่อใดที่ประกาศเป็นระยะที่ 3 เราก็มีความพร้อมในการรับมือ  โดยกรณีที่มีการเฝ้าระวังอาการไม่รุนแรง จะมีเตียงรองรับ จำนวน 45 เตียง อยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 31 เตียง โรงพยาบาลถลาง 7 เตียง และโรงพยาบาลป่าตอง 7 เตียง, กรณีที่มีอาการรุนแรง มีเตียงรองรับในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 11 เตียง และหากกรณีที่พบเชื้อเราก็มีเตียงรองรับ 61 เตียง แต่หากไม่เพียงพอก็ยังมีโรงพยาบาลถลาง 60 เตียง และการเตรียมพร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ศาลาประชาคมภูเก็ต ซึ่งรองรับได้ 100 เตียง โดยทุกขั้นตอนได้มีการวางแผนในการรับมือไว้อย่างเป็นระบบ และเป็นตามมาตรฐานที่กำหนด

สำหรับประเด็นที่มีการสอบถามว่าจะดำเนินการกับคุณหมอที่แจ้งความในเรื่องนี้อย่างไรบ้างซึ่งนายแพทย์เฉลิมพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจใด ๆ แต่คงต้องมีการหารือกับทางผู้ใหญ่ในกระทรวงก่อนว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมการพัฒนาโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นอยากให้ทางโรงพยาบาลดำเนินการให้เกิดความชัดเจนในกรณีผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีการแจ้งความกับทางผอ.โรงพยาบาล เพราะเชื่อว่าเป็นการทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมัน และข่าวที่พร่อออกไปส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวอย่างหลีกเลียงไม่ได้ ที่ผ่านมาทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้เกิดความเชื่อมันกับจังหวัดภูเก็ต แต่หลังจากมีข่าวกรณีดังกล่าวออกมาจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไปทำลายความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและประชาชน