โจ๋ 18 ริเป็นโจร ลักทรัพย์นักท่องเที่ยว อ้างโควิดทำตกงาน  แม่ติดคุก น้องยังเด็ก เมียท้อง

โจ๋ 18  ย่องลักทรัพย์นักท่องเที่ยวในโรงแรม อ้างโควิดทำตกงานไม่มีเงินใช้จ่ายค่าเช่าบ้าน ส่งให้แม่ที่อยู่ในคุก ต้องเลี้ยงน้องที่ยังเด็ก  เมียท้อง 5 เดือน หมดหนทางตัดสินใจก่อเหตุ สุดท้ายไม่รอด ตร.ตามจับได้

เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (15 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต นำโดย พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.สภ.วิชิต พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู สว.สส.สภ.วิชิต ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รองสว.(สอบสวน)สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิชิต ร่วมกันจับกุมตัว นายนนท์ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยของกลาง เงินสด 4,000 บาท และ เสื้อผ้า โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.เกาะแก้ว (บ้านสะปำ) อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 เม.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วิชิต ได้รับแจ้งจาก พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วิชิต ถนนสายเขาขาด-อ่าวยนต์ อ.เมืองภูเก็ต ว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์นักท่องเที่ยว ภายในห้องพัก ได้เงินสดไปประมาณ 120 บาท โดยทิ้งกระเป๋าไว้บนพื้นหน้าห้องพัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวรอระหว่างกลับประเทศเพราะทางจังหวัดมีคำสั่งปิดจังหวัดภูเก็ตจึงไม่สามารถเดินทางไปได้

หลังจากรับแจ้ง ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รองสว.(สอบสวน)สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปตรวจสอบ ในเบื้องต้น พบรอยเท้าของคนร้ายบริเวณชายหาดหน้าโรงแรม ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงได้ถ่ายภาพไว้ และ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมซึ่งสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน

ต่อมาวันที่ 12 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.วิชิต ได้รับแจ้งอีกว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในห้องพักชาวต่างชาติที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ต.วิชิต ห่างจากจุดเกิดเหตุเดิมประมาณ 800 เมตร ซึ่งได้เงินสดไปประมาณ 16,000 บาท หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบ พบรอยเท้าที่บริเวณชายหาดเช่นกัน และ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุวันที่ 10 เม.ย.63

หลังจากนั้นชุดสืบสวนสภ.วิชิตได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด ตลอดจนเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนทราบว่า คนร้ายได้พักอยู่ที่บริเวณห้องเช่าในพื้นที่ต.เกาะแก้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบ และ พบคนร้ายอยู่ภายในห้องจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.วิชิต

จากการสอบถาม นายนนท์ (นามสมมุติ) ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานรับจ้างเลี้ยงปลาอยู่ภาย ในกระชัง ที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต หลังจากที่โรคระบาดโควิด 19 ปลา ในกระชังไม่สามารถนำไปขายได้ ส่งผลให้นายจ้างได้หยุดเลี้ยงปลา ทำให้ตนตกงานมาประมาณ 2 เดือน ทำให้ตนไม่มีเงินกินข้าว และ ไม่มีเงินจ่ายค่าห้องพัก อีกทั้งต้องเลี้ยงน้อง 1 คน เนื่องจากแม่ติดคุกอยู่จังหวัดพังงา ประกอบกับภรรยาท้องอยู่ 5 เดือน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว โดยไปก่อเหตุโรงแรมที่ต.วิชิต  จำนวน 2 ครั้ง ซึ่งตนได้จอดรถจักรยานยนต์ห่างจากโรงแรมที่เกิดเหตุก่อนเดินลัดเลาะไปตามชายหาด

โดยเลือกเวลาช่วงกลางคืนและจะไปดูห้องพักที่ที่นักท่องเที่ยวหลับจึงได้ย่องเข้าไปเอาทรัพย์สินภายในห้อง โดยจะเลือกเป็นเงินสด เมื่อได้เงินมาจึงนำไปจ่ายค่าห้องพัก จำนวน 4,000 บาท และโอนให้พี่สาวฝากไปให้แม่ที่เรือนจำจังหวัดพังงา 3,000 บาท และเหลือไว้ใช้อีกจำนวนหนึ่ง แต่มาถูกจับกุมได้ในที่สุด  นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า  เป็นผู้ต้องหาทีหลบหนีหลังเคยถูกจับในคดีมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพกพาไปในเมือง และ มีเมทเอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าว “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน” ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.วิชิตดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป