โจ๋จนมุมตร.กมลายุคไอที หลังบุกลักทรัพย์ – พยายามข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ
โพสเมื่อ : Thursday, July 7th, 2016 : 1.04 pm
โจ๋คนงานก่อสร้างในพื้นที่ป่าตอง ถูกตร.กมลาตามจับหลังก่อเหตุลักทรัพย์ – พยามข่มขืนเจ้าของห้องแต่ไม่สำเร็จ มั่นใจหลังเกิดเหตุไม่หนีไปไหนเชื่อตำรวจจับไม่ได้ แต่สุดท้ายจนมุม ตร.ยุคไอที ตามจับได้หลังนำโทรศัพท์ของกลางมาใช้
จากกรณีเมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา มีนางสาวกาญ ( นามสมมุติ) ชาวจังหวัดภูเก็ต เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ว่า ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอนภายในบ้านเช่าของตนเอง บริเวณพื้นที่กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้มีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ และพยายามปลุกปล้ำหวังจะกระทำชำเราแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากผู้แจ้งรู้สึกตัวก่อน จึงดิ้นรนขัดขืนทำให้คนร้ายวิ่งหลบหนีไป หลังจากนั้นได้ตรวจสอบภายในบ้านพบว่า มีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ เช่นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ samsaung รุ่น J7 จำนวน 1 เครื่อง กุญแจบ้านและทรัพย์สินอื่นๆ
อย่างไรก็ตามหลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ชุดสืบสวน สภ.กมลา ภายใต้การอำนวยการของพ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ รรท.ผกก.สภ.กมลา จึงเดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และออกสืบสวนหาข่าว จนทราบตัวบุคคลต้องสงสงสัยว่าน่าจะเป็น “นายวิวัฒน์ วิรุณดก” เนื่องจากมีการนำโทรศัพท์ของผู้เสียหายไปใช้งาน ทางเจ้าหน้าที่จึงออกติดตามตรวจสอบ จนกระทั่งเวลา22.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ทราบว่า บุคคลที่ใช้โทรศัพท์ของผู้เสียหาย พักอาศัยอยู่ในบ้านเช่าบริเวณใกล้เคียงกับบ้านเช่าที่เกิดเหตุของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กมลา ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะศิริ รรท.ผกก.สภ.กมลา นำโดย พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.กมลา พร้อมด้วย พ.ต.ท.อศลย์ จิรักษา สว.สส.สภ. กมลา , ร.ต.อ.พลวัติ เกตุศรัทธา รอง สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.เทียนชัย กอบเกื้อ รอง สว.สส.ฯ , ร.ต.ท.พีรวัส คงทุ่ง รอง สว.สส.ฯและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงหน้าบ้านเช่าดังกล่าวพบชายวัยรุ่น คนหนึ่งซึ่งหน้าตารูปร่างลักษณะคล้ายกับที่ปรากฏในข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้เสียหาย กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่ จึงเข้าไปสอบถามและทราบว่าชายวัยรุ่นคนดังกล่าวคือ นายวิวัฒน์ หรือโล้ วิรุณดก อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดนครพนม ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นตัว จากการตรวจค้น พบ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อsamsaung รุ่น J7 ซึ่งเป็นของผู้เสียหายอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวาซึ่งสวมใส่อยู่ เจ้าหน้าที่จึงสอบสวนในเบื้องต้น ซึ่งนายวิวัฒน์ฯได้ยอมรับ ว่า โทรศัพท์ดังกล่าวได้มาจากการเข้าไปลักทรัพย์จากบ้านพักของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งนอกจากโทรศัพท์มือถือ ก็ยังมีทรัพย์สินอีกหลายรายการโดยเก็บไว้ในห้องพักของตนเอง พร้อมนำไปตรวจยึดทรัพย์สินภายในห้องพักดังกล่าวซึ่งมีหลายรายการ ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อsamsaung รุ่น J7 จำนวน 1 เครื่อกุญแจบ้าน กุญแจรถ นาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อ SKON จำนวน 1 เรือน จี้พระเครื่องสมเด็จหุ้มกรอบขอบสีทอง จำนวน 1 องค์ กระเป๋าผ้าแบบสะพายข้าง สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ ในเบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน และรับของโจร”
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.กมลา จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่าวันเกิดเหตุ ( 2 ก.ค.) เวลาประมาณ 03.00 น.ขณะที่ตนเองนั่งอยู่หน้าบ้านเพื่อนในซอยเดียวกันกับบ้านเช่าของผู้เสียหาย เห็นผู้เสียหายกับแฟนขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปนอกบ้าน เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่บ้านหลังดังกล่าว นายวิวัฒน์ฯจึงเดินไปที่บริเวณหลังบ้านของผู้เสียหายพบ ช่องที่มีการเจาะผนังบ้านและแผ่นพลาสติกปิดจึงเอาแผ่นพลาสติกออกเแล้วมองเข้าไป เห็น กระเป๋าถือแบบผู้หญิงวางอยู่จึงใช้มือล้วงเข้าไปรื้อค้นภายในกระเป๋าดังกล่าวได้ กุญแจบ้านของกลางรายการที่ 2 ,บัตรอิออนของผู้เสียหายและเงินสดจำนวนหนึ่งพันบาทเศษ จากนั้นได้นำกุญแจไปไขลูกบิดประตูหน้าบ้านเข้าไปในบ้าน และหยิบ เอาโทรศัพท์มือถือและของกลางอื่นๆ ซึ่งวางไว้บนทีวีภายในบ้านหลังดังกล่าว
หลังออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ก็มานั่งอยู่หน้าบ้านเพื่อนจุดเดิม จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. เห็นมีคนขับรถจักรยานยนต์มาส่งผู้เสียหาย ที่บ้านแล้วออกไป ส่วนผู้เสียหายอยู่บ้านเพียงลำพัง และ ได้ยินเสียงผู้เสียหายอาบน้ำหลังจากนั้นได้ปิดไฟภายในบ้าน จึงเดินไปที่บ้านผู้เสียหายอีกครั้ง และ ลองเปิดประตูหน้าบ้านพบว่าประตูไม่ได้มีการล็อค จึงเข้าไปภายในบ้านและห้องนอนของผู้เสียหายพบว่าผู้เสียหายนอนหลับอยู่จึงเข้าไปพยายามปลุกปล้ำหวังข่มขืน แต่ผู้เสียหายรู้ตัวก่อนจึงดิ้นรนขัดขืน และกลัวว่าผู้เสียหายจะเห็นหน้าจึงวิ่งหลบหนีออกมา และกลับไปบ้านพักของตัวเองโดยที่ผ่านมาทำตัวตามปกติ เพราะมั่นใจว่าตร.ตามจับไม่ได้ แต่นำโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายไปใช้ จนกระทั้งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจค้นจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว เมื่อนำของกลางไปตรวจสอบโดยเทียบหมายเลขเครื่องกับกล่องใส่โทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ถูกต้องตรงกัน ในเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพในข้อหา“ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน” แต่ให้การปฏิเสธในฐานความผิด “ รับของโจร” ส่วนพฤติการณ์ที่ผู้ต้องหาเข้าไปปลุกปล้ำเพื่อข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ กกต.ภูเก็ต จัดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งนายกและส.อบจ....
- อบจ.ภูเก็ต จัดโครงการเก็บขยะใต้ทะเล แหล่งปะการังเทียม ประจำปี 2568...
- “ศุภาลัย” รุกตลาดบ้านแนวราบมิกซ์โปรดักส์ ปักธง แลนด์มาร์คใหม่ภูเก็ต เปิดตัว “ไพร...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการจัดมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Th...
- บจ.ภูเก็ต ประชุมเพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดแยกและแจกจ่ายบัตรเลือกตั...
- อบจ.ภูเก็ตร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39...
- January 2025 (21)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)