โจรชั่ว ก่อเหตุไม่หยุด ตระเวนขโมยสายไฟฟ้าส่องสว่างข้างถนน ต่อเนื่อง

โจรชั่ว ก่อเหตุไม่หยุด ตระเวนขโมยสายไฟฟ้าส่องสว่างข้างถนน ต่อเนื่อง เสียหายกว่า 2 ล้านบาท ทำถนนมืด สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนหน่วยงานรัฐ ระบุ ระยะ 2 เดือน โดนมาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนใหญ่เกิดเหตุในพื้นที่ อ.ถลาง และ อ.กะทู้ 

นายธีระเดช  คำเลี้ยง รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทภูเก็ต เปิดเผย ว่า ขณะนี้มีคนร้ายออกอาละวาด ก่อเหตุขโมยสายไฟฟ้าส่องสว่างตามถนนสายต่างๆ และ ทุบสัญญาณไฟกระพริบ ในหลายสายทาง จนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และหน่วยงานราชการเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วง พ.ค. – มิ.ย. พบว่าคนร้ายได้ขโมยสายไฟฟ้าส่องสว่างไปแล้วประมาณ 5 ครั้ง

โดยล่าสุดเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ( 7 มิ.ย.) ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุขโมยสายไฟฟ้าแสงสว่าง บริเวณถนน สาย ภก.3030 แยกทางหลวงหมายเลข 402 – บ้านกระทู้ บริเวณร้านแพครูวิทย์ ขณะนี้ประเมินความเสียหายไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท โดยทางแขวงทางหลวงชนบทได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ที่ สภ.ถลาง และ สภ.กะทู้ เพื่อให้ดำเนินการติดตามจับกุมคนร้าย ที่ตระเวนก่อเหตุ โดยเร็วที่สุด เพราะขณะนี้ประชาชน รวมทั้งแขวงทางหลวงชนบท ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

บางจุดคนร้ายก่อเหตุซ้ำซาก หลังจากแขวงทางหลวงชนบทเข้าไปซ่อมแซมจุดที่ถูกคนร้ายลักลอบตัดสายไฟ เพียงไม่นานก็โดนขโมยไปอีกแล้ว ซึ่งขณะนี้มีสายไฟส่องสว่างจำนวน  5 เส้นทาง ที่ถูกคนร้ายขโมยไป โดยบางจุดทางแขวงทางหลวงชนบท ต้องนำป้ายไปติดประกาศเพื่อแจ้งให้ประชาชนรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสของคนร้าย เนื่องจากขณะนี้คนร้ายเหิมเกริมเป็นอย่างมาก

ส่วนประมาณการความเสียหายที่เกิดจากการถูกลักขโมยสายไฟฟ้า ประกอบด้วย 1.ถนนสาย ภก.3030 แยกทางหลวงหมายเลข 402- บ้านกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ประมาณค่าเสียหาย140,000 บาท 2.ถนนสาย ภก.4005-บ้านพารา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 3.ถนนายสาย ภก.4031- บ้านบางโรง อฺ.ถลาง จ.ภูเก็ต, 4.ถนน สาย ภก.3033-บ้านหมากปรก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ,5 ถนนสาย ภก.4023-บ้านม่าหนิก รวม สาย -2 –สายที่ 5 ค่าเสียหายรวมประมาณ 900,000 บาท

ซึ่งนอกจากขโมยสายไฟส่องสว่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของทางแขวงทางหลวงชนบทแล้ว พบว่าในส่วนของภาคเอกชนซึ่งรับเหมาเดินสายไฟฟ้าส่องสว่าง สายบ้างพารา –บางโรง บ้านอ่าวกุ้ง  ก็ถูกคนร้ายขโมยไปเช่นกัน โดยจุดนี้ทางเอกชนผู้รับเหมายังไม่ส่งมอบงานให้กับทางแขวงทางหลวงชนบท ซึ่งทางเอกชนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้วเช่นกัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านกว่าบาท

นายธีรเดช กล่าวต่อไปว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาให้ความสนใจปัญหาที่เกิดขึ้นบ้างหรือนำเข้าไปหารือเป็นวาระของจังหวัด เพราะการก่อเหตุเป็นการก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย มีการลักลอบทำอย่างต่อเนื่องรวมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว แม้จะเป็นเพียงแค่ไฟฟ้าส่องสว่าง แต่ผลกระทบที่ตามมาเกิดขึ้นมหาศาล เมื่อไม่มีไฟฟ้าแสงสว่าง คนร้ายก็จะก่อเหตุต่างๆตามมาอีกหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกาย และอื่นๆ