แสบชาวฝรังเศสรวมกลุ่มมั่วสุมสูบบารากู่ ในวิลล่า หรู ตร.กมลาจับดำเนินคดี

โพสเมื่อ : Sunday, April 5th, 2020 : 5.34 pm

แสบ ชาวฝรั่งเศสรวมกลุ่มมั่วสุมสูบบารากู่ ในวิลล่าหรู พื้นที่ต.กมลา จ.ภูเก็ต  ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศจังหวัดภูเก็ต ตำรวจรวบ 7 คน ดำเนินดีหลายกระทง

เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (5 เม.ย.) ที่สภ.กมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยพฤกษ์ ผาติวรากร  ผกก.สภ.กมลา พ.ต.ท.ประมวล จ่ายกระโทก  รองผกก.สส. สภ.กมลา พ.ต.ท.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย รองผกก ป. สภ.กมลา ร่วมสอบปากคำและแถลงข่าวจับกุม ชาวฝรั่งเศส  7 ราย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน ทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใด ๆในสถานที่แออัด โดยฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ตรวจยึด บารากู่ จำนวน 4 เตา ยาบารากู่ จำนวน 2 กระปุก และ ถ่านเตาบารากู่ จำนวน 21 ก้อน

ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ  00.30 น.ที่ผ่านมา( 5 เม.ย. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา นำโดย พ.ต.ท.ประมูล คงชู สว.สส. สภ.กมลาพร้อมพวก เข้าตรวจสอบภายในโครงการ วิลล่า แห่งหนึ่ง ม.5 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีชาวต่างชาติรวมตัวมั่วสุมฝ่าฝืนพระราชกำหนดฉุกเฉิน และประกาศจังหวัดภูเก็ต

จากการตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้ง 7 รายกำลังมั่วสุม และพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว ก่อนเข้าตรวจสอบ พบมีการสูบบารากู่ อยู่ภายในห้องพัก จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ประกอบด้วย เตาบารากู่ จำนวน 4 เตา ยาบารากู่จำนวน 2 กระป๋อง และถ่านบารากู่จำนวน 21 ก้อน ก่อนเชิญตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่สภ.กมลา

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำความผิดฐาน ทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใด ๆในสถานที่แออัด โดยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อ(ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต) ตามประกาศภูเก็ตฉบับที่ 8/2563ลง วันที่ 28 มีนาคม 2563 เรื่อง ให้เจ้าของผู้ครอบครองหรือผู้พักอาศัย ในบ้าน โรงเรือน สถานที่หรือยานพาหนะ ณ ที่มีโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดเกิดขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

ดำเนินการป้องกันเพื่อและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19)และช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย พาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งของอันตนรู้ว่ายังมิได้เสียภาษี หรือของต้องจำกัดหรือต้องห้าม หรือเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง และเป็นบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กมลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป