แม่ใจยักษ์กินยาขับทารกครรภ์ 7 เดือน นำใส่ถุงดำทิ้งกองขยะทั้งที่ยังหายใจ
โพสเมื่อ : Monday, August 7th, 2017 : 4.20 pm
อนาถ ทารกครรภ์ 7 เดือน ถูกแม่ใจยักษ์กินยาขับ นำร่างที่ยังหายใจรวยรินใส่ห่อผ้าขนหนู สวมทับด้วยถุงดำ ทิ้งกองขยะหน้าหมู่บ้านดังที่ภูเก็ต แม่บ้านแม่บ้านมาเก็บ แกะถุงถึงกับผงะ เจอร่างทารกเพศหญิงสภาพสมบูรณ์ที่ยังหายใจ รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ แต่สุดท้ายไม่ทัน ทารกน้อยสิ้นใจก่อน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (7 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ได้รับแจ้ง พบศพทารกอายุครรภ์ ประมาณ 7 เดือนเศษ ถูกห่อด้วย ผ้าขนหนูสีขาวน้ำเงิน ยัดใส่ถุงดำ นำมาทิ้งกองขยะ หน้าหมู่บ้านดุสิตบุรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.อ.รณภูมิ เพิ่มพูน รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.ฉัตรชัย ชูหนู สวป.สภ.เมืองภูเก็ต ร.ต.อ.ตะวัน นวลแก้ว รองสารวัตร สส.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าหมู่บ้านซึ่งตั้ง ด้านหลังมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต บริเวณจุดทิ้งขยะของหมู่บ้าน พบกองขยะจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า มีผ้าขนหนูสภาพใหม่สีขาว-น้ำเงิน ทิ้งอยู่ เมื่อแกะออกดู พบศพเด็กทารกอายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน เพศหญิง ผิวขาว ผมดำ เนื้อตัวเปื้อนเลือด มีรกและสายสะดือติดอยู่ นอกจากนั้นในถุงดำใบใหญ่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเสื้อยืดสีขาวเปื้อน 1 ตัว แก้วกาแฟ 1 ใบ และ เศษขยะ รวมทั้งถุงพลาสติกใส่ของที่ซื้อมาจากห้างดังในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จึงนำร่างทารกดังกล่าวชันสูตรที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตต่อไป
จากการตรวจสอบ นางพิกุล จิตนนท์ อายุ 44 ปี อาชีพแม่บ้าน ผู้พบศพทารกคนแรก ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังมาหาขวดที่กองขยะดังกล่าว ก็ได้แกะถึงดำเพื่อหาขวด แต่ขณะที่กำลังแกะถึงดำใบใหญ่ใบหนึ่ง พบว่าภายในมีถุงดำใบเล็กใส่มาด้วย จึงแกะถุงดำใบเล็กออกมาดู พบว่าในถุงดำมีผ้าขนหนูสภาพใหม่แต่มีรอยเปื้อนเลือด จึงคลี่ผ้าขนหนูออกมา
แต่ก็ต้องตกตะลึง และรู้สึกตกใจมากเมื่อพบว่ามีทารกถูกห่อด้วยผ้าขนหนู และมีรก สายสะดือติดมาด้วย โดยขณะที่แกะออกมาพบว่าทารกยังหายใจอยู่จึงโทรไปบอกเพื่อนให้มาดู และให้เพื่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเดินทางมาถึงพบว่าเด็กสิ้นใจแล้ว จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าแม่ของทารกดังกล่าวอาจจะเป็นหญิงสาวที่ท้องโดยไม่พร้อม และตัดสินใจกินยาขับเพื่อให้เด็กหลุดออกมาก่อนที่จะลืมตาดูโลก หรือแม่ใจยักษ์ท้อง โดยไม่ตั้งใจ จึงตัดสินใจทำแท้งลูกดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเจ้าหน้าที่จะได้เร่งหาตัวแม่ใจร้ายรายนี้มาสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการต่อไป
- อบจ.ภูเก็ต เปิดโครงการอบรมส่งเสริมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมืองยั่งยืน...
- เลือกนายกเทศมนตรี ใน จ.ภูเก็ต โผไม่พลิก แม้จะมีการแข่งขันกันดุเดือด...
- รพ.สต. สังกัด อบจ.ภูเก็ต ร่วมรับมอบรถวีลแชร์จากมูลนิธิกุศลธรรม สนับสนุนดูแลผู้ป่...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา “เทพกระษัตรีสัมพันธ์ ครั้งที่ 4”...
- นายก อบจ.ภูเก็ต เปิดโครงการอบรมพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรท้องถิ่น สังกัด ...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานสวดกลางบ้าน ชุมชนน้ำตกกะทู้...
- May 2025 (9)
- April 2025 (21)
- March 2025 (35)
- February 2025 (23)
- January 2025 (23)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)