แม่ทัพภาค 4 พอใจจัดระเบียบท่องเที่ยวภูเก็ต

แม่ทัพภาค 4 พอใจจัดระเบียบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เตรียมตั้งคณะทำงานติดตามอีกหนึ่งชุด ทั้งการบุกรุกที่สาธารณะ รถรับจ้างและสนามบินภูเก็ต การปฏิบัติงาน พบกลุ่มผู้มีอิทธิพล บ่อนการพนัน และเงินกู้นอกระบบ เพียบ สั่งดำเนินจับกุมตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด หากเปิดเล่นอย่างโจ๋งครึม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ห้องคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการประชุมการดำเนินการจัดระเบียบการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม

พลโทปิยวัฒน์ กล่าวภายหลังรับฟังผลการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ใน 3 ปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องเร่งดำเนินการ คือ ปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ ชายหาด การจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะ และการจัดระเบียบท่าอากาศยานภูเก็ตและด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ที่เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง และพบว่าในพื้นที่ภูเก็ตมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล บ่อนการพนัน และการปล่อยเงินกู้นอกระบบ จำนวนมาก ว่า พอใจกับผลการปฏิบัติงานของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ในการเข้ามาดำเนินการร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรมในทุกด้าน ทั้งการจัดระเบียบชายหาด การแก้ปัญหารถรับจ้าง ร่วมไปถึงการจัดระเบียบสนามบินภูเก็ต ที่มีความคืบหน้าไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70% ส่วนที่เหลือจะเร่งดำเนินการแก้ไขต่อไป

อย่างไรก็ตาม อยากให้มีคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบการดำเนินการจัดระเบียบการท่องเที่ยวของภูเก็ตอีกหนึ่งชุด เป็นคณะทำงานร่วมระหว่างกองทัพภาคที่ 4 และจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามการแก้ปัญหาดังกล่าวและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเพื่อป้องกันไม่ให้มีข้อครหาว่าผู้ที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นผู้มีอิทธิพลเสียเอง แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามาว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาดำเนินการทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเสียเองก็ตาม

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวถึง กลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภูเก็ตภายหลังจากที่ทางคณะทำงานได้รายงานว่า จากการปฏิบัติงานพบว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลจำนวนมาก รวมไปถึงบ่อนการพนันและกลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบ ว่า ในส่วนของผู้มีอิทธิพลนั้น ไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้คนกว้างขวางที่รู้จักคนจำนวนมาก แต่ผู้มีอิทธิพลคือกลุ่มคนที่ผู้ที่ละเมิดกฎหมาย ใช้กฎหมายในทางที่ผิดเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตัวเอง ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ควรมีในพื้นที่ภูเก็ตและพื้นที่อื่นๆ และหากเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนรู้เห็นก็จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้

ส่วนเรื่องที่ยอมไม่ได้ คือ ยาเสพติด และอาวุธสงคราม โดยเฉพาะยาเสพติดนั้นยอมไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียว ส่วนบ่อนการพนัน น้ำมันเถื่อน จะต้องไม่โจ่งแจ้ง เล่นกันเป็นอาชีพถาวร ซึ่งเรื่องนี้ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้การฯ หากเล่นกันประเจิดประเจอไม่เกรงกลัวกฎหมาย ประชาชนร้องเรียนเข้ามา จะต้องจับกุมโดยเด็ดขาด

สำหรับปัญหาการจัดระเบียบชายหาดที่ยังมีประชาชนบริเวณหาดสุรินทร์ยังเรียกร้องที่จะประกอบอาชีพอยู่นั้น ทั้งๆ ที่ได้กำหนดเป็นหาดเทิดพระเกียรติ ให้เป็นการดำเนินการของทางจังหวัด ทางทหารและตำรวจจะเข้าไปดำเนินการในส่วนที่ทางจังหวัดไม่สามารถปัดกวาดได้เท่านั้น

พลโทปิยวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า สิ่งที่เน้นย้ำ คือ การปฏิบัติงานจะต้องเป็นสอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและคสช.และอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย การทำงานจะต้องบูรณาการทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ให้เอกชนและประชาชนเดินหน้าส่วนภาครัฐเข้าไปสนับสนุน และเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องไม่ทำผิดเสียเอง ขอให้ทำตามกฎระเบียบและข้อกำหนดในหน่วยงานนั้นๆ และหากเจ้าหน้าที่มีการกระทำผิดเข้าไปมีส่วนรู้เห็นและรับผลประโยชน์ก็จะมีการตรวจสอบและลงโทษ