แผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจอันดามัน-อ่าวไทยด้วยระบบส่งเสริมสุขภาพ เริ่มแล้ว คาด 3 ปี สร้างรายได้ 1.5 แสนล้าน

โพสเมื่อ : Tuesday, March 30th, 2021 : 5.35 pm

มอ.ภูเก็ต ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กฎบัตรไทย และเครือข่ายภาคีต่างๆ ประกาศเริ่มต้นแผนพลิกฟื้นเศรษฐกิจอันดามัน-อ่าวไทยด้วยระบบส่งเสริมสุขภาพและการจัดเวลเนสแพคเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวสุขภาพ คาด 3 ปีสร้างมูลค่าเศรษฐกิจรวม 1 แสนห้าหมื่นล้านบาท

วันนี้ (30 มี.ค.) รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ร่วมกับ นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันเปิดหลักสูตรการบริหารจัดการโรงแรมส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้บริหารรุ่น 1 (Wellness Hotel for Executive#1) และแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศและการพื้นฟูเศรษฐกิจอันดามัน-อ่าวไทย สนับสนุนภาคใต้เป็นศูนย์กลางเวลเนสของเอเซีย ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายสุขภาพแห่งชาติของรัฐบาล ณ ห้องฉายภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต โดยมีผู้บริหารโรงแรมในภูเก็ตและเกาะสมุย 120 คน เข้าร่วมอบรม

รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีความพร้อมในการนำกลุ่มคณะวิชาการด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ประกอบด้วย คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะแพทย์แผนไทย และคณะเทคนิคการแพทย์ รวมทั้งคณะการบริการและการท่องเที่ยว สนับสนุนทางวิชาการแก่กลุ่มเป้าหมายโรงแรมที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตเป็นโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ หรือ เวลเนสโฮเทล

โดยเบื้องต้น ได้ร่วมกับกฎบัตรไทยเปิดหลักสูตรการบริการจัดการโรงแรมส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้บริหาร รุ่น 1 มีผู้บริหารโรงแรมจากจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานีเข้าร่วมจำนวน 120 โรง หลักสูตรนี้ คณาจารย์ของมหาวิทยาลัยจะเป็นวิทยากรฝึกอบรมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และการส่งเสริมสุขภาพ เป็นเวลา 145 ชั่วโมง ดำเนินการฝึกอบรม 4 เดือน นับจากเดือนมีนาคมจนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 เป็นหลักสูตรที่จัดขึ้นเฉพาะสำหรับเจ้าของโรงแรมและผู้บริหารโรงแรมเท่านั้น

โดยเนื้อหาจะเน้นการยกระดับสมรรถนะทั้ง up skill และ new skill ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เทคโนโลยีการแพทย์ สาธารณสุข การแพทย์แผนไทย และดิจิทัลเฮลท์ คาดหวังให้ผู้เรียนมีขีดความสามารถระดับสูงในการบริหารจัดการระบบส่งเสริมสุขภาพ สามารถใช้ฐานองค์ความรู้จากการวิจัยและเทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการและสร้างประสิทธิภาพแก่องค์กร ซึ่งเชื่อว่าจะเกิดความยั่งยืนในระบบการส่งเสริมสุขภาพและการท่องเที่ยวสุขภาพระยะยาว ทั้งนี้ งบประมาณในการวิจัยระดับพื้นที่ มหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและการจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่หรือ บพท.

ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธ์ ประธานกฎบัตรไทย กล่าวว่า แผนปฏิบัติการพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพรองรับการเปิดประเทศและการพลิกฟื้นเศรษฐกิจอันดามัน เป็นแผนงานร่วมระหว่างกฎบัตรไทยกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีเป้าหมายทางตรงในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 โดยแผนได้กำหนดเป้าหมายทางตรงในการสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้กับกลุ่มโรงแรม ซึ่งได้แก่ การพัฒนาสมรรถนะด้านการบริหารจัดการระบบเวลเนสที่เป็นสากล และนำกิจการเวลเนสที่ได้มาตรฐานแล้วเปิดให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมาย โดยการจัดเวลเนสแพคเกจ จำนวน 12 แพคเกจ แบ่งเป็น แพคเกจด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน 4 แพคเกจ ผลิตภัณฑ์ความงาม 2 แพคเกจ และแพทย์แผนไทยจำนวน 6 แพคเกจ สำหรับกลุ่มเป้าหมายในช่วงปี 2564 ที่จะเริ่มให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จะพุ่งเป้าไปยังกลุ่มลูกค้าชาวไทย และนับจากเดือนมกราคม 2565 จะเปิดขายแพคเกจให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวต่างชาติ ซึ่งตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดขึ้นนั้น ในช่วงของแผนระยะ 3 ปี (2564-2566) คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับโรงแรมจำนวน 250 โรง ไม่น้อยกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท

ด้าน นายฐาปนา บุณยประวิตร กรรมการและเลขานุการกฎบัตรไทย กล่าวเสริมว่า แผนการพัฒนาระบบส่งเสริมสุขภาพรองรับแผนการเปิดประเทศและการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ อันดามัน-อ่าวไทย พุ่งเป้าไปยังการพัฒนาในภาพรวมเพื่อสร้างพื้นที่อันดามันและอ่าวไทย เป็นเขตเศรษฐกิจนวัตกรรมสุขภาพวิถีใหม่ ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างภาคการผลิต การจัดทำแผนการตลาดวิถีใหม่ และการสร้างเครือข่ายการตลาดสุขภาพร่วมกับกลุ่มการท่องเที่ยวนานาชาติทั้งไทยและต่างประเทศ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยสมายด์แอร์เวย์ จำกัด บริษัท อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด บริษัท บี-เฮลท์ตี้เอเซีย จำกัด บริษัท เอเซียฟู๊ดแอนด์ฟาร์ม จำกัด พร้อมด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์กรภาคีเครือข่าย

สำหรับแผนปฏิบัติการนั้น แบ่งออกเป็น 3 ปี โดยปี 2564 ที่จะเริ่มในเดือนมีนาคมนี้นั้น โครงการกำหนดดำเนินการวิจัยจำนวน 3 เรื่อง การยกระดับสมรรถนะด้วยการฝึกอบรมผู้บริหารและพนักงาน 120 โรงแรม การให้คำปรึกษาแนะนำแก่โรงแรม 120 โรง การพัฒนาแพลตฟอร์มโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ 1 แพลตฟอร์ม การปรับปรุงฟื้นฟูโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ 120 โรงแรม การจัดกิจกรรมเวลเนส 12 แพ็คเกจ พร้อมการจัดงาน 2021 Thailand International Wellness & Research Expo ร่วมกับทีเสปและ ททท. และการพัฒนา 3 ชุมชนสมุนไพรเป็นพื้นที่ผลิตต้นแบบ

ปี 2565 การยกระดับสมรรถนะด้วยการฝึกอบรมผู้บริหารและพนักงาน 130 โรงแรม การให้คำปรึกษาแนะนำ 250 โรงแรม การปรับปรุงฟื้นฟูโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ 250 โรงแรม การจัดกิจกรรมเวลเนส 15 แพ็คเกจ การจัดงาน 2022 Thailand International Wellness & Research Expo การพัฒนามาตรฐานและใบอนุญาตโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ การพัฒนา 5 ชุมชนสมุนไพร และการพัฒนา 3 ย่านส่งเสริมสุขภาพ  ส่วนในปี 2566  การให้คำปรึกษาแนะนำ 250 โรงแรม การปรับปรุงฟื้นฟูโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ 250 โรงแรม การจัดกิจกรรมเวลเนส 15 แพ็คเกจ การจัดงาน 2023 Thailand International Wellness & Research Expo การพัฒนา 5 ชุมชนสมุนไพร และการพัฒนา 2 ย่านส่งเสริมสุขภาพ

โดยการประมาณการมูลค่าเศรษฐกิจจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาคการผลิตและการพัฒนาเขตเศรษฐกิจนวัตกรรมสุขภาพ ตามแผน 3 ปี จะได้รับผลตอบแทนรวม 156,939,665,000 บาท แบ่งเป็น มูลค่าที่ได้รับจากกลุ่มโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ 18,528,176,000 บาท กลุ่มเฮลท์เทค 5,011,277,000 บาท กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยและสมุนไพร 31,761,580,000 บาท และกลุ่มแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก 101,038,632,000 บาท มูลค่าดังกล่าวไม่นับรวม รายได้จากการท่องเที่ยวสุขภาพ การค้าปลีกค้าส่งผลิตภัณฑ์อาหารและสมุนไพร และรายได้จากการจ้างงานในทุกกลุ่มที่ได้รับการพัฒนาของโครงการ