แชร์สนั่นคลิปจยย.รับจ้างชิงเงินนทท. ตร.ป่าตอง คุมตัวสอบอ้างไม่ยอมจ่ายตามตกลง

ชุดสืบสวนสภ.ป่าตองคุมตัวคนขับรถรับจ้างหลังถูกถ่ายคลิปลงโซเซียล ว่า ปล้นเงินนักท่อง ตรวจสอบ อ้างไม่ได้ปล้นทรัพย์ แต่นทท.ไม่ยินยอมจ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงจึงได้ชิงเอาเงินนักท่องเที่ยวมาตามจำนวนที่มีการว่าจ้าง  ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจประวัติพบเคยติดคุกคดีลักทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ค ชื่อ ลิลน์ลดา แถมยิ้ม ได้แชร์คลิปวีดีโอไปยัง The Clip by ห้องพักรายวันซอยอุดมสุข 51 ข้อความ ว่า “วินมอไซต์ ปล้นนักท่องเที่ยวในซอยเก็บทรัพย์ ป่าตอง ภูเก็ต เหตุเกิดบ่อยมากแต่ไม่มีใครทำอะไรได้ ฝากแชร์เตือนภัยนักท่องเที่ยว สงสารนักท่องเที่ยว”  หลังคลิปดังกล่าวโพตส์ ได้ไม่นานก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ กันจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้  (3 ธ.ค.) พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เปิดเผย ว่า หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกโซเชี่ยล ประชาชนแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และ  พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.ป่าตอง ได้กำชับให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว  ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่าในวันที่เกิดเหตุ  หรือหลังจากวันเกิดเหตุ ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความแต่อย่างใด

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้เสียหายจะไม่มาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด แต่ทางชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ไม่ได้นิ่งนอนใจ เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ถือเป็นคดีอุกอาจ จึงได้ออกติดตามหาตัวคนขับรถจักรยานยนต์ที่ถูกระบุในคลิปดังกล่าวเพื่อมาตรวจสอบ จนกระทั่งเมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ก็สามารถติดตามตัวคนขับรถจักรยานคันดังกล่าวได้ และทราบชื่อคือ นายประเสริฐชัย  โพธิ์ถาวร  อายุ 31 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยตรงข้ามร้านนายกหมูกระทะ  ถ.พระบารมี ต.กะทู้  อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนในเบื้องตน ให้การยอมรับ ว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 59  เวลาประมาณ 01.45 น. ได้ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ ไอ สีดำ ทะเบียน คมบ.498 นครศรีธรรมราช คันที่ปรากฏในคลิป ออกตระเวนขับรับจ้างส่งผู้โดยสาร เมื่อขับมาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าจังซีลอน ต.ป่าตอง ได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีน  ว่า จ้างให้ไปส่งที่ร้านนวด ซอยเก็บทรัพย์ ต.ป่าตอง โดยตกลงจ่ายเงินค่าโดยสาร 1,000 บาท  เมื่อถึงเป้าหมายปรากฎว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไม่ยอมจ่ายเงิน จึงได้ชิงเอาเงินในมือของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวมาจำนวน 1,000 บาท ทำให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไม่พอใจโวยวาย เสียงดังลั่นซอย

เมื่อนักท่องเที่ยวโวยวายเสียงดัง ทำให้คนที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาดูและบางคนก็ถ่ายคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ ตนจึงคืนเงินให้กับนักท่องเที่ยว แล้วได้ขับรถออกมาจากซอยดังกล่าวทันที ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีการโพสต์คลิปดังกล่าว จนกระทั่งมีคลิปแพร่ในโลกโซเซี่ยลมิเดีย และ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปสอบสวน และ ดำเนินคดีข้อหา“ใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียน” โดยพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบปรับ เป็นเงิน 2,000 บาท ตามคดีเปรียบเทียบที่ 16892/59 ลง 3 ธ.ค. 59

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติพบว่าคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างดังกล่าวเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ มาแล้ว  2 ครั้ง คือ ที่ สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี พ.ศ. 2547 และคดีลักทรัพย์ ที่ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เมื่อปี พ.ศ.2549