แกงไตปลา “ร้านคุณแม่จู้” ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่ ยืนยัน “ไร้สารกันบูด” ชัวร์
โพสเมื่อ : Thursday, September 12th, 2019 : 12.19 pm
ไร้สารกันบูดชัวร์ ! แกงไตปลา “ร้านคุณแม่จู้” โต้กลับมูลนิธิเพื่อบริโภคที่ออกมาไลฟ์สด ระบุแกงไตปลามีสารกันบูด จี้ออกมารับผิดชอบ หลังส่งตัวอย่างตรวจกับทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่ยันไม่มี
จากกรณีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคไลฟ์สด ระบุว่า แกงไตปลาจาก “ ร้านคุณแม่จู้” มีสารกันบูด เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่11 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางร้านคุณแม่จู้ได้จัดให้มีการแถลงข่าว ที่ร้านคุณแม่จู้ ถนนเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อยืนยันถึงการส่งตัวอย่างแกงไตปลาไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่ หลังได้รับผลกระทบจากการไลฟ์สดของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยมี นางวิราวรรณ เตี่ยวประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการร้านคุณแม่จู้ พร้อมด้วย นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายธวัช ใสสม พัฒนาการจังหวัดภูเก็ต ,นางสาวสิริกร ศรีทอง พัฒนาการอำเภอถลาง และ ว่าที่ร้อยตรีสมภพ ก้อนแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเทพกระษัตรี ร่วมแถลงข่าวแกงไตปลาคุณแม่จู้ “ไร้สารกันบูด” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนและกลุ่มผู้บริโภค ร่วมแถลงข่าว
นางวิราวรรณ เตี่ยวประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการร้านคุณแม่จู้ กล่าวว่า ตามที่มูลนิเพื่อผู้บริโภคนำผลิตภัณฑ์แกงไตปลาของร้านคุณแม่จู้ มาไลฟ์สด และระบุว่าแกงไตปลาของทางร้านมีการไส่สารกันบูดลงไป หลังจากเรื่องทางร้านคุณแม่จู้ ของฝากเมืองภูเก็ต ก็ได้ส่งแกงไตปลาที่ผลิตในรุ่นการผลิตเดียวกันกับที่ทางมูลนิธินำไปไลฟ์สด ส่งไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทันที และได้ผลสรุปชัดเจนว่า “ไม่พบสารกันบูด และ กรดซอร์บิก ใด ๆ” โดยมีรายละเอียดผลการทดสอบชนิดตัวอย่าง อาหารพร้อมปรุงและพร้อมบริโภค ทั้ง 5 รุ่นการผลิต ดังนี้ 1. LFA19094 ไม่พบกรดเบนโซอิก กรดซอร์บิก กรดซาลิซิลิก และซัคคาริน 2. LFB19109 ไม่พบกรดเบนโซอิก กรดซอร์บิก 3. LFA18039 ไม่พบกรดเบนโซอิก กรดซอร์บิก 4. LFB19001 ไม่พบกรดเบนโซอิก กรดซอร์บิก กรดซาลิซิลิก และซัคคาริน 5. LFB19004 ไม่พบกรดเบนโซอิก กรดซอร์บิก
นางวิราวรรณ ยังได้กล่าวเพิ่มเติม ว่า ร้านคุณแม่จู้ได้พัฒนากระบวนการผลิตเพื่อให้อาหารอยู่ได้นานมาตั้งแต่ปี 2549 ที่ได้มาตรฐาน GMP โดยใช้ระบบฆ่าเชื้อแบบ (Sterilization) ในบรรจุภัณฑ์, การทำให้ปลอดเชื้อในบรรจุภัณฑ์ ,การบรรจุแบบปลอดเชื้อ (aseptic packaging system) โดยใช้ความร้อน 121 องศาเซลเซียส ค่าความดัน 15 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) ฆ่าเชื้อนาน 37 นาที กระบวนการผลิตทั้งหมดเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 355 พุทธศักราช 2556 เลือกอาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
ซึ่งทางบริษัทมีการควบคุมกระบวนการผลิตให้อยู่ในข้อกำหนดของกฎหมายทุกครั้งคือไม่ให้มีวัตถุกันเสียและไม่มีจุลินทรีย์ที่สามารถเจริญเติบโตได้ในระหว่างการเก็บที่อุณหภูมิปกติโดยเรามีการสุ่มตรวจสินค้าทางด้านชีวภาพและเคมีที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์หรือห้องปฏิบัติการกลางซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นการยืนยันคุณภาพและให้สอดคล้องกับระบบมาตรฐานสากล ISO 9001 ที่ทางบริษัทจัดทำอยู่ โดยผลจากการที่บริษัทส่งตรวจผลิตภัณฑ์ในทุก ๆ ปีนั้น ก็ไม่เคยพบการใช้วัตถุกันเสียเลย และจากผลการตรวจสอบที่ผ่านมาย้อนหลังไป 4 ปี ไม่พบสารกันบูดแต่อย่างใด โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ ให้ความสำคัญในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค และล่าสุด ผลตรวจศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่ยืนยันแกงไตปลาคุณแม่จู้ “ไร้สารกันบูด”
แต่อย่างไรก็ตามจากไลฟ์สดของทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่ออกมาระบุเรื่องของสารกันบูด ทำให้ทางบริษัทได้รับผลกระทบอย่างมาก ลูกค้า และ ยอดจำหน่ายสินค้าลดลงประมาณ 10 % โดยแกงไตปลาร้านคุณแม่จู้ มีสูตรเดียวเท่านั้น แต่บรรจุในเพกเก็จ 2 แบบ คือ แบบที่บรรจุในขวดแล้ว ผ่านการฆ่าเชื้อแบบสเตอริไรส์ ด้วยอุณหภูมิ 121 องศาเซสเซียล นาน 37 นาที สามารถเก็บในอุณหภูมิปกตินาน 1 ปี และบรรจุในกล่องพลาสติก ฆ่าเซื้อด้วยระบบพาสเจอร์ไรส์ เก็บในตู้เย็นได้นาน 2 เดือน ซึ่งทั้งสองแบบไม่ใส่สารกันบูดใดๆทั้งสิ้น
ซึ่งเรื่องนี้ทางมามูลนิธิฯ จะต้องออกมารับผิดชอบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางร้านคุณแม่จู้ได้ทำหนังสือชี้แจงผลการตรวจสอบจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ไปแล้ว เพื่อให้ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคนำข้อมูลที่เป็นจริงแถลงข่าวอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าแกงไตปลาแห้งของทางร้านคุณแม่จู้ไม่ใส่สารกันบูด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา ซึ่งขณะนี้ทางร้านยังไม่ได้รับคำตอบว่าทางมูลนิธิฯจะแถลงข่าวชี้แจงให้กับทางร้านเมื่อใด และทางร้านจะไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางมูลนิธิฯหากทางมูลนิธิฯดำเนินการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้บริโภคได้รับทราบ และอยากจะให้กรณีแตงไตปลาของร้านคุณแม่จู้เป็นกรณีศึกษาการนำสินค้าไปตรวจ อยากจะให้ตรวจสอบให้ชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการด้วย เพราะผู้ประกอบการคือผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรง
ขณะที่นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โรงงานคุณแม่จู้ ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลาหลายปีแล้วและ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้มีการตรวจสอบคุณภาพของโรงงานในทุกๆ 3 ปีเพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยที่ผ่านมาโรงงานคุณแม่จู้ผ่านการตรวจคุณภาพมาตรฐานได้คะแนนร้อยละ 96.74 โดยสถานที่/โรงงานการผลิตของคุณแม่จู้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอย่างต่อเนื่องมาทุก ๆ ปี
- อบจ.ภูเก็ต ผุด “ศูนย์ฟอกเลือดด้วยไตเทียม” ขนาด 37 เตียง รองรับผู้ป่วย ไม่ต้องรอค...
- ได้นั่งแน่ รถบัส EV ของอบจ.ภูเก็ต ทดแทน รถโพถ้อง สีชมพู...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดประติมากรรม ศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovel...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “สมุดภาพภูเก็ต”...
- อบจ.ภูเก็ต นำเครื่องจักรปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสะพานหิน (ภัตตาคารวังปลาเดิม)...
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)