เอาจริงจับเจ้าของบังกะโลในพื้นที่ราไวย์ รับนักท่องเที่ยวเข้าพักขัดคำสั่งจังหวัด

โพสเมื่อ : Thursday, April 9th, 2020 : 4.30 pm

จังหวัดภูเก็ตเอาจริง จับเจ้าของบังกะโล ในพื้นที่ต.ราไวย์  ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดฯ และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รับนักท่องเที่ยวเข้าพัก ฝ่าฝืนคำสั่งหลังจังหวัดสั่งปิดโรงแรมในพื้นที่ คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ภายใต้การอำนวยการของ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายจรุง เถาจันทร์ กำนัน ต.ราไวย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.ฉลอง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.ฉลอง นำโดย ร.ต.อ. สุชาติ สุนทรมัจฉะ และร.ต.อ.พันธศักดิ์ ชัยทอง รอง สวป.สภ.ฉลอง ได้ร่วมจับกุม นายทศพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเจ้าของบังกะโลแห่งหนึ่ง เลขที่ 8/30 ม.2 ตำบล ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

หลังพบว่ามีการเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวฝ่าฝืนประกาศจังหวัดที่ 1797/263 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548  โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1)  แห่พระราชบัญญัติโรดคิดต่อ พศ.2558 และ ข้อ 7(1) ของ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1)ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตตามมติที่ประชุมครั้งที่ 12/2563 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2563

ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากที่ เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น.ของ วันที่ 7 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา นายจรุง เถาจันทร์ กำนันตำบลราไวย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ชรบ.ต.ราไวย์ และ จนท ตำรวจ สภ.ฉลอง นำโดย ร.ต.อ. สุชาติ สุนทรมัจฉะและ ร.ต.อ.พันธศักดิ์ ชัยทอง รอง สวป.สภ.ฉลอง ได้เข้าตรวจสอบภายในบังกะโลดังกล่าว หลังพบว่ายังมีการเปิดให้บริการ เบื้องต้นมี นายทศพร (สงวนนามสกุล) แสดงตัวเป็นเจ้าของและผู้จัดการฯ ก่อนเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจสอบห้องพักภายในห้องพัก พบว่าที่ห้อง B4 มีนักท่องเที่ยวสัญชาติยูเครน อายุ 29 ปี พักอาศัยอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว จึงได้สอบถามทราบว่าได้เข้ามาพักเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 ถึง วันที่ 12 เมษายน 2563 และทางโรงแรมได้เรียกเก็บค่าเข้าพักเป็นจำนวนเงิน 3,500 บาท ซึ่งสถานที่ดังกล่าวไม่มีความจำเป็นหรือเข้าข้อยกเว้น หรือมีความจำเป็นอื่น ๆที่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายทศพลฯ(ผู้ต้องหา) รับว่าตนได้รับนักท่องเที่ยว คนดังกล่าวเข้ามาพักเมื่อวันที่ 5เมษายน 2563 และเรียกเก็บเงินค่าเข้าพักเป็นเงิน 3,500 บาท จริง  จึงได้ทำบันทึกจับกุม นำส่งพนักงาสอบสวน สภ.ฉลองเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อ กล่าวหาว่า “เปิดให้บริการโรงแรมที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฏหมาย ว่า ด้วยพระราชบัญญัติโรงเรม พ.ศ.2547 และสถานประกอบการในลักษณะเดียวกัน โดยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ(ผู้ว่าราชการจังหวัด )ตามประกาศจังหวัดภูเก็ตที่ 1797/263 ลงวันที่ 2 เมมายน พ.ศ.2563 เรื่องปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคคิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 “