เห็นชอบรื้อถอนอาคารสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตบุกรุกที่ดินหาดพาราไดซ์ จ.ภูเก็ต

โพสเมื่อ : Thursday, May 12th, 2016 : 6.09 pm

หลายหน่วยงานร่วมประชุมแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินหาดพาราไดซ์ พื้นที่ป่าตอง หลังมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม มีการบุกรุกสร้างอาคาร ที่ประชุมเห็นชอบให้รื้อถอนอาคาร โรงแรม ดิสโก้เธค สร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต
S__24682517

วันนี้ (12 พ.ค.) เป็นการประชุมครั้งที่ 2 เพื่อ ติดตามผลความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินหาดพาราไดซ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ว่า มีการบุกรุกก่อสร้างอาคาร โรงแรม ดิสโก้เธค และบุกรุกขุดตักหน้าดิน ตัดต้นไม้ และขุดปะการัง ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต (ส.ป.ก.) โดยมีนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุม ว่า การประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 ทางจังหวัดภูเก็ต ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชุมและหารือแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หลังมีการร้องเรียนเข้ามายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต จากการประชุมในครั้งนี้ พบข้อเท็จจริงว่า ที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตปฎิรูปที่ดินโครงการป่าเทือกเขานาคเกิด โดยมีบุคคลรายหนึ่ง ยื่นคำขอทำประโยชน์และเป็นผู้ได้สิทธิในที่ดิน ตามมติคณะกรรมการปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต เมื่อ พ.ศ.2537 ต่อมามีการตรวจสอบพบว่าบุคคลรายดังกล่าวไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักและไม่ใช่เป็นผู้ที่ไม่มีที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรม และคณะกรรมการปฎิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต มีมติเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2538 ให้บุคคลดังกล่าวสิ้นสิทธิการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดินและให้ออกจากที่ดิน ส.ป.ก. และแจ้งว่าขาดคุณสมบัติการเป็นเกษตรกร ซึ่งบุคคลดังกล่าวทราบมติแล้ว แต่ก็ยังเพิกเฉยไม่ยอมออกจากที่ดิน

ต่อมา ส.ป.ก.เป็นโจทก์ ฟ้องขับไล่ บุคคลดังกล่าว เป็นคดีความแพ่ง และคดีถึงที่สุดแล้ว ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้บุคคลดังกล่าว พร้อมบริวารออกจากที่ดิน และให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของบุคคลดังกล่าว พร้อมบริวารออกจากที่ดิน ส.ป.ก. และเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2558 เจ้าพนักงานบังคับคดี ได้ทำการปิดประกาศให้บุคคลดังกล่าวและบริวารออกจากที่ดิน และให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวาร ยื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในกำหนดเวลา 8 วัน นับแต่วันปิดประกาศ แต่ครบกำหนดแล้วไม่มีใครยื่นคัดค้าน

อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ได้ให้แต่ละหน่วยงานรายงานผลการดำเนินการที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะในส่วนของทางเทศบาลเมืองป่าตอง ซึ่งดูแลในเรื่องของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ โดยรายงานว่า ได้มีการแจ้งให้ระงับการก่อสร้าง และห้ามใช้อาคารไปแล้ว โดยขอให้มีการนำหลักฐานเรื่องของที่ดินมายื่นขอก่อสร้างอาคารใหม่ และทางผู้ประกอบการก็ได้มายื่นแล้ว แต่เนื่องจากว่ายังไม่ชัดเจนเรื่องของหลักฐาน จึงยังไม่ได้มีการออกใบอนุญาต และระงับใบคำขอ ส่วนของการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่มีการยื่นมาใหม่นั้นก็ให้ว่ากันไปตามขั้นตอน และเนื่องจากการปลูกสร้างอาคารก่อนหน้านี้ยังไม่ได้รับอนุญาต ทางที่ประชุมมีมติให้ทางเทศบาลฯ ไปปิดประกาศให้มีการรื้อถอน ซึ่งในส่วนทางเจ้าของอาคารสามารถอุทธรณ์ได้ตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยว่า ในส่วนของเทศบาล ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเรื่องการก่อสร้างอาคาร หลังมีการร้องเรียนจากชาวบ้าน ก็ได้เข้าตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้ขออนุญาต จึงได้สั่งระงับก่อสร้างอาคารและห้ามใช้อาคาร จนกว่าจะมีการขออนุญาตให้ถูกต้อง แต่ก็ยังมีการฝ่าฝืนคำสั่ง ด้วยการก่อสร้างอาคารอย่างต่อเนื่องจนแล้วเสร็จ และมีการใช้อาคารอยู่ ทางเทศบาลจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.กะทู้ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัทเอกชนผู้ครอบครองอาคารดังกล่าว ในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ขณะเดียวกันกรรมการฯ ในที่ประชุมวันนี้ มีมติให้แจ้ง ค 7 คือให้มีการรื้อถอนอาคาร ตนก็ยินดีที่จะทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะมีคำสั่งให้มีการรื้อถอนภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันนี้ ถ้ายังไม่รื้อถอนภายในระยะเวลาที่กำหนด ทางเทศบาลจะเข้าดำเนินการเรื้อถอนต่อไป