เหิมหนัก แค่มองหน้ากัน! โจ๋ภูเก็ต กลับไปเอาปืนมายิงขู่ สุดท้าย ถูก ตร.ตามจับทันควัน

เหิมหนักโจ๋ ภูเก็ต ไม่พอใจกลุ่มโจ๋ ที่เจอกันในร้านสะดวกซื้อ เหตุแค่มอง หน้ากลับไปเอาปืนมายิงขู่ทันที สุดท้ายตำรวจสภ.วิชิตตามรวบได้ได้ทันควัน 2 ราย  พร้อมยึดของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ นำตัวดำเนินคดี

จากกรณี เมื่อวานนี้ ( 30 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191  ว่า มีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาท ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า โดยเหตุที่บริเวณตลาดใหม่มุมเมือง ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ธัญตุรงค์ วุฒิวงศ์ สว.สส.สภ.วิชิต ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที ปรากฏว่า กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งถูกวัยรุ่นอีกกลุ่มใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่

จากการสอบถามทราบว่า วัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่ม มาพบกันที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใกล้กับที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นก็มีการมองหน้ากัน ทำให้วัยรุ่นไม่พอใจและทะเลาะกัน หลังจากนั้นมีชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ขับรถจักยานยนต์ออกจากร้านไป และกลับที่เกิดเหตุอีกครั้งเมื่อมาถึงก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ได้ใช้อาวุธปืนมายิงขึ้นฟ้า จำนวน 1 นัด เพื่อประกาศศักดา หลังจากนั้นขับรถหลบหนีไป

ต่อมาชุดสืบสวน สภ.วิชิตได้ตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด จนทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่วัยรุ่นอีกฝ่าย มีจำนวน 2 คนคือ นายเเบงค์ชาติ ประทีป ณ ถลาง  อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นคนขับขี่ รถจักรยานยนต์ และ นายธนกร ฮาปำ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/62 ม.4 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นคนยิงปืนขึ้นฟ้า หลังจากนั้นได้ออกติดตาม และ จับกุมตัวนายแบงค์ชาติฯ ได้พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อก่อเหตุ ส่วนนายธนากร หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดทรัพย์สิน ดังนี้ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์  จำนวน 1 กระบอก พร้อมลูกซอง 2 นัด ปลอก อีก 1 นัด  หมวกกันน็อค 2 ใบ  รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ทะเบียน  59-3743 เสื้อผ้าที่สวมใส่ในการก่อเหตุ

ส่วนนายธนาคาร หลังจากหลบหนี การจับกุมของเจ้าหน้าที่ก้ได้ติดต่อเข้ามอบตัว เนื่องจากทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ไม่ไหว เนื่องจากทออกติดตามจับกุมอย่างไม่ลดละ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมีอาวุธปืนและ เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน ที่ชุมชนฯ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิตเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป