เร่งตามหา ชายชาวไนจีเรีย ป่วยโรคฝีดาษลิง หนีออกจากที่พัก ยังไม่รู้ อยู่หรือออกจากภูเก็ตไปแล้ว
โพสเมื่อ : Friday, July 22nd, 2022 : 5.01 pm
จังหวัดภูเก็ตแถลงนักท่องเที่ยวชายชาวไนจีเรีย ป่วยโรคฝีดาษลิง หนีออกจากที่พัก ปฏิเสธการรักษา เจ้าหน้าที่ตำรวจควานหาตัวแต่ยังไม่พบ คาดกลัวถูกดำเนินคดีข้อหาโอเวอร์สเตย์ ข้อมูลเบื้องต้นพบมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวก่อนป่วย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (22 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายแพทย์วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าว กรณีพบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นนักท่องเที่ยวชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นรายแรกที่พบในประเทศไทย
นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.65 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวไนจีเรียคนดังกล่าว ได้ไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต หลังจากมีไข้ ไอ จาม และ มีตุ่มหนองที่ผิวหนัง จากนั้นได้มีการเจาะเลือดส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการ รพ.จุฬาและ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยทางโรงพยาบาลอนุญาตให้ชายชาวต่างชาติรายดังกล่าวกลับไปกักตัวรอดูอาการ ที่คอนโดมิเนียมในพื้นที่ ต.กะทู้ จนผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ รพ.จุฬาฯ ออกมา เมื่อวันที่ 18 ก.ค. และผลตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ออกมาในวันที่ 19 ก.ค.ปรากฎว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าว ติดเชื้อฝีดาษลิง ทางทีมสอบสวนโรคได้ติดตามประสานงานกับนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว เพื่อให้เข้ามารักษาตามขั้นตอน ซึ่งทางนักท่องเที่ยวยินยอมที่จะเข้ารักษาแต่สุดท้ายก็ได้ปิดโทรศัพท์และออกจากที่พัก
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นนักท่องเที่ยวให้ข้อมูลว่า เดินทางเข้ามาภูเก็ต เมื่อเดือน พ.ย.64 จนถึงปัจจุบัน มีประวัติเสี่ยงชอบเที่ยวสถานบันเทิง และได้มีเพศสัมพันธุ์กับหญิงสาว เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเริ่มมีอาการ เมื่อวันที่ 9 ก.ค.65 โดยที่อวัยวะเพศ มีตุ่มหนอง จึงเข้าไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 16 ก.ค.65
สสจ.ภูเก็ต กล่าวต่อว่า หลังจากไม่สามารถติดต่อนักท่องเที่ยวได้ ทางทีมสอบสวนโรคและสาธารณสุขภูเก็ต จึงได้ประสานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดก็ตและตรวจคนเข้าเมืองในการช่วยกันติดตามตัว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นักท่องเที่ยวได้ออกจากคอนโดมิเนียมในพื้นที่ ต.กะทู้ ในช่วงค่ำของวันที่ 19 ก.ค.65 แล้วหายตัวไป จนมาพบตัวอีกครั้งในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ในวันถัดมา โดยเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ที่หาดป่าตอง และได้หายตัวไปอีกครั้งในเวลาต่อมา หลังเจ้าตัวนำกุญแจห้องพักมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่สอบสวนโรค พบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 รายที่คอนโดมิเนียมที่พัก รพ.เอกชน ไม่พบผู้เสี่ยงสัมผัสสูง ส่วนรถแท็กซี่ที่รับจากคอนโดไปยังหาดป่าตอง อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวนโรค และเข้าสอบสวนโรคในสถานบันเทิงหาดป่าตองอีก อีก 142 คน พบ มีอาการไข้ ไอ 5 คน และผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในจุดที่พัก ผู้ป่วยอีก 2 คน ได้เจาะเลือด เพาะเชื้อ ผลออกมาแล้ว ไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด และยังต้องรอผลกลุ่มที่เจาะเลือด ส่งเพาะเชื้อ อีก 1 ชุดในวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกันการสอบสวนโรคจะย้อนกลับไปอีก 2 สัปดาห์ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ โดยเชื้อฝีดาษลิงที่ตรวจพบในนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว เป็นสายพันธุ์ A2 หรือ เวสแอฟริกา ซึ่งมีอาการไม่รุนแรง การติดต่อจะต้องเป็นแบบเนื้อแนบเนื้อ ไอจามใส่หน้าเต็มๆ ไม่รุนแรงและไม่อันตราย สามารถรักษาหายได้ภายใน 2 สัปดาห์
ด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้รับการประสานจากทีมสอบสวนโรค และ สสจ.ภูเก็ต ในการติดตามตัวผู้ป่วยรายดังกล่าว ตรวจสอบพบว่า นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมใน ต.กะทู้ อ.กะทู้ จึงส่งทีมเฝ้าติดตามยังที่พัก จนพบว่าได้ออกจากคอนโดในช่วงค่ำของวันที่ 19 ก.ค.65 เดินทางไปยังพื้นที่ป่าตองด้วยรถแท็กซี่ และเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ป่าตองและได้เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมช่วงค่ำของวันที่ 20 ก.ค.โดยนำกุญแจมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์แล้วเดินหายออกจากโรงแรมไป ทางเจ้หน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวได้ขึ้นรถยนต์ไปทางพื้นที่ กะหลิม กมลา และเชิงทะเล หลังจากนั้นภาพจากกล้องวงจรปิดก็หายไป ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ด่านตรวจภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง ยังไม่พบรถคันดังกล่าว และไม่พบนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวด้วย
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อว่า ณ ตอนนี้ สัณนิฐานได้ 2 ทาง คือ ยังอยู่ในพื้นที่ภูเก็ต หรือ ได้เปลี่ยนรถคันใหม่แล้วออกจากเกาะภูเก็ตไปแล้ว และยังไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศเช่นกัน ส่วนการปฏิเสธเข้ารับการรักษา น่าจะเนื่องมาจากนักท่องเที่ยวรายนี้อยู่ในประเทศไทยเกินกำหนดหรือโอเวอร์สเตย์ เพราะหลังจากที่เข้ามาประเทศไทยเมื่อ พ.ย.64 ยังไม่มีการรอวีซ่าแต่อย่างใด จึงได้หลบหนีเพราะกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่าที่กำหนด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องติตามตัวต่อไปจนกว่าจะพบ
ขณะที่ นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผอ.รพ.วชิระภูเก็ต กล่าวยืนยันว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายดังกล่าวยังไม่ได้เข้ามารักษาตัวที่ รพ.วชิระภูเก็ตและไม่ได้หลบหนีออกไปจาก รพ.แต่อย่างใด จ.ภูเก็ต เป็นเหมือนประตูเมืองของนานาชาติ จึงอาจมีการติดเชื้อดังกล่าวจากต่างประเทศได้ตลอดเวลา โรคฝีดาษลิงเป็นเชื้อไวรัสคล้ายอีสุกอีใส ติดเชื้อจากการสัมผัสตุ่มหนองที่ขึ้นตามผิวหนังหรือการหายใจใส่กัน โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นสายพันธุ์ เวสแอฟริกา จัดว่าไม่รุนแรง โดยจะมีอาการระหว่าง 5-7 วัน ในการฟักตัว
- นายกเรวัต ชวนไปเที่ยวงานPHUKETPARKLAND &MUSIC FEST 2025”...
- ตะลึง! ขยะเต็มคลอง ทต.ราไวย์ลงพื้นที่จัดเก็บ ขุดลอกคูระบายน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพ ก...
- ทต.ราไวย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียน เปิดเพลงเสียงดัง...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมต้อนรับศิลปินนานาชาติและศิลปินไทย 4 ภาค สู่เวที “Phuket Internati...
- เทศบาลตำบลราไวย์ เตรียมความพร้อมป้องกันน้ำท่วม ซอยกิ่งยะนุ้ย...
- เทศบาลราไวย์ จัดแข่งฟุตซอล 7 คน “จูเนียร์ลีกคัพ” ครั้งที่ 6...
- August 2025 (16)
- July 2025 (31)
- June 2025 (18)
- May 2025 (22)
- April 2025 (21)
- March 2025 (35)
- February 2025 (23)
- January 2025 (23)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (38)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)