เร่งค้นหา เด็กเรือสูญหายจากเหตุเฉี่ยวชนกลางทะเล ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

โพสเมื่อ : Thursday, December 19th, 2019 : 12.55 pm

ยังระดมกำลังค้นหาลูกเรือชาวไทย สูญหายจากเหตุเรือยอช์ต เฉี่ยวชนกับเรือสปีดโบ๊ทอย่างต่อเนื่อง ส่วนของ นทท. ที่บาดเจ็บ และ รักษาตัวที่โรงพยาบาลต่าง ๆ บางส่วนเดินทางกลับที่พักแล้ว ขณะที่สาเหตุยังไม่ชัด

จากกรณี เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 18 ธ.ค.) เกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ท “โชคศุภสาร 35”  ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยว ไกด์ และ คนประจำเรือรวม 50 คน เฉี่ยวชนกับเรือยอช์ท “สเตลล่า” เหตุเกิด บริเวณเกาะไข่นุ้ย ต.พรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา เบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บ 11  ราย และ มีเด็กเรือชาวไทยพลัดตกจากเรือสูญหาย 1 ราย หลังเกิดเหตุได้มีเรือนำเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์ได้ลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บ มีทั้งนักท่องเที่ยว กัปตันเรือ และไกด์ รวมประมาณ 10 คน มาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเอเอมารีน่าแหลมหงา ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ขณะที่เรือยอช์ทสเตล่าก็ได้นำนักท่องเที่ยวอีกส่วนหนึ่งจำนวนประมาณ 36 คน ไปขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้สูญหาย ทราบชื่อ คือ นายกิตติพงษ์ สมันบุตร อายุ 21 ปี ทางพลเรือโทเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3  ได้สั่งการให้เรือ ต. 229 ออกปฏิบัติการค้นหาร่วมกับเรือ 814 ของตำรวจน้ำ และ ทีมก็ชีพกู้ภัยของทั้งสองพื้นที่ เน้นรัศมีการค้นหาบริเวณเกาะไข่นอก ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และต่อเนื่องจนถึงวันนี้ (19 ธ.ค.) แต่จากการค้นหายังไม่พบตัวแต่อย่างใด ขณะที่ในส่วนของผู้บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย 4 ราย ชาวอิหร่าน 3 ราย และ บังคลาเทศ 1 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนและขา บางส่วนก็กลับที่พักแล้ว ส่วนไกด์คนไทยยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวน สภ.สภ.เกาะยาว จ.พังงา ได้เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อ สอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการสอบปากคำไปแล้วบางส่วน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มีเพียงคำบอกเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่เล่าว่า เรือทั้งสองลำได้มีการเฉี่ยวชนกันระหว่างที่ต่างฝ่ายต่างเดินทางจะกลับท่าเทียบเรือที่ภูเก็ต โดยเรือสปีดโบ๊ท โชคศุภสาร 35 จะเดินทางกลับท่าเทียบเรือเอเอมารีน่า แหลมหงา ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ส่วน เรือยอช์ท สเตลล่า จะเดินทางไปเข้าท่าเทียบเรือที่ท่าเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งสาเหตุที่แน่ชัดอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและการสอบปากคำของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์