เรือประมงพื้นบ้าน 2 ลำ ล่มกลางทะเล ทัพเรือภาคที่ 3 เข้าช่วยเหลือปลอดภัย 2 คน ยังสูญหายอีก 4 คน ตร.น้ำ –ทร. เร่งค้นหา

 เรือประมงพื้นบ้าน 2 ลำ ล่มกลางทะเลห่างจากเกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต 1.5 ไมล์ทะเล เบื้องต้นทัพเรือภาคที่ 3 เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุปลอดภัยจำนวน 2 คน ยังมีผู้สูญหายอีก 4 คน ตร.น้ำ – ทร. เร่งค้นหา ทั้งทางทะเล ทางอากาศ

วันนี้ ( 12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 08.00 น. พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้กองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 จัดเรือ ต.229 ออกให้การช่วยเหลือเรือประมงพื้นบ้าน หลังจากได้รับแจ้งว่าประสบเหตุจม บริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ1.5 ไมล์ จากเกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต  เบื้องต้นได้ให้การช่วยผู้ประสบภัยจำนวน 2 คน ได้อย่างปลอดภัยและนำผู้ประสบภัยเข้าฝั่งที่หลักเทียบเรือทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อส่งตัวไปรักษาตัวต่อไป

สำหรับผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ 2 ราย ประกอบด้วยนายสุเทพ หาทรัพย์ เจ้าของเรือ แล ะนายอาทิตย์ บ้านภูมิ ทั้งสองให้ข้อมูล ว่าก่อนเกิดเหตุได้นำเรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือน้ำลึก จ.ภูเก็ต เพื่อไปตกปลาบริเวณ เกาะไม้ท่อน แต่ช่วงขากลับเจอคลื่นลมแร งเรือล่ม ลอยคอรอความช่วยเหลือในทะเล ในทะเล ราว 3 ชั่วโมง ส่วนจะยังมีผู้สูญหายอีกหรือไม่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ขณะ พ.ต.อ.ประเสริฐ ศรีกุลรัฐ  ผกก.8 บก.รน กล่าวว่า ในส่วนของตำน้ำภูเก็ต ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือให้ออกค้นหาในส่วนของผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มที่บริเวณเกาะไม้ท่อน ซึ่งได้รับแจ้งว่าเมื่อวาน ( 11 มิ.ย.) เวลาประมาณ 16.00 น. มีเรือประมงพื้นบ้านจำนวน 2 ลำ ออกจากท่าเทียบเรืออ่าวมะขาม เพื่อไปตกปลาที่บริเวณเกาะไม้ท่อน แต่ขณะที่เดินทางกลับ เรือถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดจนจมลงทะเล ทำให้ชาวประมงรวม 6 คนต้องลอยคออยู่ในทะเลเพื่อรอการช่วยเหลือ ซึ่งในเบื้องต้นทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้ช่วยเหลือชาวประมงกลับเข้าฝั่งมาแล้วจำนวน 2 คน

และขณะนี้ยังมีชาวประมงที่ยังสูญหายอีกจำนวน 4 คน 1.นาย.อาบี้วารีศรี เจ้าของเรือ 2.นาย.ปรีชาปกรณ์ หาทรัพย์ หัวหมอเรือ 3.นาย.วิทูรย์ มหาวรรณศรี และ 4.นาย.นิกร ฝ้ายเพชร  ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจน้ำได้นำเรือ ต. 522 ออกค้นหาเพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว

ขณะที่ในส่วนของทัพเรือภาค ที่ 3  พล.ร.ท.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการกองเรือทัพภาคที่  3ไดับัญชาการ ให้เฮลิคอปเตอร์และเรือในสังกัด ออกค้นหาผู้ประสบภัย ในบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว