เรียกร้องยุติสงครามในยูเครน

โพสเมื่อ : Monday, February 28th, 2022 : 2.25 pm

 

ชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต กว่า 80 คน นัดรวมตัวกันที่บริเวณสำนักงานชั่วคราวกงสุลรัสเซีย ประจำจังหวัดภูเก็ต แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ชูป้ายเรียกร้องให้ประธานาธิบดีรัสเซียยุติการทำสงครามในยูเครน และเรียกร้องให้นานาประเทศ ส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศยูเครน

 

 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (28 ก.พ.) ที่บริเวณสำนักงานชั่วคราวกงสุลรัสเซีย ประจำจังหวัดภูเก็ต ภายในมารีน่าแห่งหนึ่งใน ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต กลุ่มชาวต่างชาติซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตและนักท่องเที่ยว ประมาณ 20 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยูเครน ร่วมกันจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการชูป้ายข้อความต่างๆ และแสดงธงชาติยูเครน เรียกร้องให้ประธานาธิบดีรัสเซียยุติการทำสงครามในประเทศยูเครน และเรียกร้องให้นานาประเทศ ส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศยูเครน โดยมี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น รองผกก.สส.สภ.เมือภูเก็ต พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ฝ่ายปกครอง และตำรวจสันติบาล คอยดูแลความเรียบร้อย ก่อนที่จะมีการชี้แจงทำความเข้าใจ และขอให้ทั้งหมดออกจากพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล โดยขอให้ไปรวมตัวกันอยู่ด้านนอกท่าเทียบเรือ

 

จากนั้นนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวก็ได้ย้ายออกมาจากด้านหน้าสำนักงานชั่วคราวกงสุลรัสเซีย ประจำจังหวัดภูเก็ต และไปรวมตัวกับกลุ่มชาวยูเครนซึ่งรออยู่บริเวณทางเข้าท่าเทียบ กว่า 80 คน โดยได้มีการจัดทำป้ายข้อความคัดค้านและเรียกร้องลงบนกระดาษที่เตรียมไว้ เป็นภาษาอังกฤษ และภาษารัสเซีย สลับกันขึ้นมาพูดคุย และตะโกนเรียกร้องให้ยุติสงครามในยูเครน เรียกร้องเสรีภาพให้เกิดขึ้น รวมทั้งร้องเพลงชาติยูเครน นอกจากนี้ยังมีการหันหน้าออกไปริมถนนเทพกระษัตรี พร้อมทั้งชูผ่านข้อความต่อต้านการทำสงครามและการใช้ความรุนแรง เพื่อให้ผู้ที่ขับรถสัญจรไปมาได้รับรู้รับทราบด้วย

 

 

ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนที่ทั้งหมดจะมีการแยกย้ายกันกลับ จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ทราบว่า ข้อเรียกร้องส่วนใหญ่ยังคงเป็นการขอให้ยุติสงครามและความรุนแรงในประเทศยูเครน ยังไม่มีการร้องเรียนหรือร้องขอเกี่ยวกับความเดือดร้อนของากรไม่ได้เดินทางกลับไประเทศ