เพลิงไหม้เกาะพีพี จ.กระบี่ เจ็บ 9 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน
โพสเมื่อ : Wednesday, February 7th, 2018 : 9.40 am
เหตุเพลิงไหม้ย่านชุมชนใจกลางเกาะพีพี จ.กระบี่ เจ็บ 9 ราย เบื้องต้นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน ร้านอาหาร/ ที่พักถูกเผาวอด 25 หลัง ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบอีกครั้ง
จากกรณีเมื่อเวลา 20.40 น. คืนวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ ย่านใจกลางกลางเมืองเกาะพีพี จ.กระบี่ โดยมีต้นเพลิงมาจากร้านอาหาร อ็อกโทเบอร์ บริเวณ ซอยสลิงกี้บาร์ ก่อนที่จะลุกลามไปไหม้อาคารบริเวณใกล้เคียงเป็นวงกว้างในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวการดับเพลิงทำได้ยาก ประกอบกับอาคารเป็นอาคารแบบครึ่งไม้ครึ่งปูน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับเครื่องมือและน้ำในการดับเพลิงมีจำกัดทำให้มีลำบากในการสกัดเพลิง
ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทำได้เพียงพยายามที่จะพังอาคารที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง ลมได้เปลี่ยนทิศ ทำให้ประชาชนและชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่นำถังดับเพลิงที่อยู่ตามบ้านเรือ ร้านค้า และ โรงแรม มาช่วยกันดับเพลิง ซึ่ง ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่ามีร้านอาหาร ที่พัก ถูกเพลิงไหม้เสียหายจำนวน 25 คูหา นักท่องเที่ยว และคนไทย ได้รับบาด 9 ราย ประกอบด้วย ชาวไทย 3 ราย อาร์เจนติน่า 3 รายบราซิล 2 ราย อิสราเอล 1 ราย โดยในส่วน ชาวอาร์เจนตินา 3 ราย รักษาตัวที่คลินิกเอกชน ชาวอิสราเอล รักษาตัวที่คลินิกเอกชน และ ได้รับอนุญาตให้กลับแล้ว ส่วนชาวบราซิล 2 ราย และคนไทย 1ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะพีพี ส่วนใหญ่ถูกไฟลวก ตกจากที่สูง และ สำลักควัน ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่มีที่พัก ทางผู้ประกอบการบนเกาะพีพี ได้เปิดห้องให้พักให้ฟรี
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เมื่อเวลา 00.15 น.วันนี้ ( 7 ก.พ.)ว่าที่ ร.ต.อภินันท์ เผือกผ่อง รอง ผวจ.กระบี่ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ นายเศวตรฉัตร สุวรรณรัตน์ ปลัดอาวุโสเมืองกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่บริเวณย่านใจกลางชุมชนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างหนักย่านการค้า เสียหายอย่างหนัก พร้อมเดินทางไปเยี่ยมนักท่องเที่ยวและคนไทยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ว่าที่ร้อยตรีอภินันท์ กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีร้านค้า ร้านอาหาร และ ที่พัก ถูกเพลิงไหม้ รวมกว่า 25 คูหา ซึ่งในขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ยังคงเหลือเสาไม้กลางอาคาร ที่ต้องใช้เชือกดึงลงมา
ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า สาเหตุเกิดจากแก็ส ในร้านอาหาร “อ๊อกโทเบอร์” รั่วก่อนเกิดประกายไฟ และ ลุกลามบริเวณใกล้เคียง แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอ ให้กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง โดยในวันนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ จะลงพื้นที่เกาะพีพีตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการป้องกันต่อไป
- อบจ.ภูเก็ต ผุด “ศูนย์ฟอกเลือดด้วยไตเทียม” ขนาด 37 เตียง รองรับผู้ป่วย ไม่ต้องรอค...
- ได้นั่งแน่ รถบัส EV ของอบจ.ภูเก็ต ทดแทน รถโพถ้อง สีชมพู...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดประติมากรรม ศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovel...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “สมุดภาพภูเก็ต”...
- อบจ.ภูเก็ต นำเครื่องจักรปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสะพานหิน (ภัตตาคารวังปลาเดิม)...
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)