เพลิงไหม้วอด 6 ล้านบาท ท่อน้ำบริษัทเอกชน คุมคนเร่ร่อนสอบอ้างไม่รู้ไม่เห็น

เพลิงไหม้ท่อน้ำขนาดใหญ่ 30 ท่อ ได้รับความเสียหาย มูลค่า ประมาณ 6 ล้านบาท เบื้องต้นควบคุมตัวคนเร่ร่อนสอบ อ้างไปอยู่อาศัยจริงแต่ไม่รู้ไม่เห็นขณะเกิดเพลิงไหม้

จากกรณี เมื่อเวลา 18.40 น. พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย ฉุ้นย่อง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ท่อขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นของบริษัท สยามภัณฑ์วัฒนา ซึ่งเก็บไว้ที่บริเวณลานดินหลังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหาย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ นายอำเภอเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ รองผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้อย่างหนัก มีท่อน้ำได้รับความเสียหายจำนวน 30 ท่อ ขนาดกว้าง 1.2 เมตร ยาว 30 เมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมง มูลค่าความเสียหายประมาณ 6 ล้านบาท อย่างไรก็ตามขณะเกิดเหตุมีคนเห็นนายสุรพิศ ทิพย์ประสงค์ อายุ 35 ปี ซึ่ง เป็นคนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชอบมานอน ดื่มสุราและก่อกองไฟ บริเวณท่อน้ำ กำลังเดินออกมาจากจุดที่เกิดเหตุ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวน

ในเบื้องต้น นายสุรพิศ ทิพย์ประสงค์ กล่าวว่า ตนได้เข้าไปพักอยู่ที่บริเวณดังกล่าวจริง และไม่ทราบว่าเกิดเพลิงไหม้ได้อย่างไร เมื่อเห็นไฟไหม้อย่างรุนแรงจึงได้วิ่งหนีออกมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาเมาสุราประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ขณะที่นายรพีพงษ์ ทรงทวี อายุ 52 ปี  พนักงานบริษัท สยามภัณฑ์วัฒนา กล่าวว่า บริษัทได้รับจ้างงานวางท่อจากเทศบาลนครภูเก็ต บริเวณถนนสุรินทร์-ถนนพังงา-ซอยวีระพงษ์หงส์หยก โดยได้เช่าพื้นที่วางท่อเสาเข็ม ในพื้นที่ดังกล่าวมาระยะ 1 ปี แต่ไม่มีพนักงานเฝ้าหรือดูแลทรัพย์สินของบริษัทแต่อย่างใด และพื้นที่เช่าก็เป็นพื้นที่โล่งไม่มีรั้วกำแพงบุคคลภายนอกสามารถเข้าได้ ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ในบริเวณดังกล่าว

ส่วนนายคงคา แสงม่วง หัวหน้าแคมป์คนงานใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์ไฟลุกไหม้ กล่าวว่าตน เห็นไฟไหม้จึงเรียกคนงานให้ช่วยกันดับไฟ และได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า มีนายสุรพิศ ทิพย์ประสงค์ อายุ 35 ปี เป็นคนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชอบมานอน ดื่มสุราและก่อกองไฟในท่อที่เกิดเพลิงไหม้เป็นประจำ และก่อนเกิดเพลิงไหม้ นายสุรพิศ ทิพย์ประสงค์ ก็ได้มาดื่มสุรา ในบริเวณจุดที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว เมื่อไฟลุกไหม้ก็วิ่งหนีออกมา มีท่าทีน่าสงสัย จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจะได้ประสานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้