เผยนาทีชีวิต ฝูงสุนัข 4 ตัว รุมกัด “น้องดีแม็กซ์”

เผยนาทีชีวิต ฝูงสุนัข 4 ตัว รุมกัดพี่ชาย “ดีแม็กซ์” ดึงเสื้อขณะวิ่งหนีจนล้ม ก่อนรุมขย้ำ ขณะที่ตัวเองพร้อมเพื่อนวิ่งหนีขึ้นต้นไม้ได้ทัน แต่จำภาพได้ฝังใจ นอนผวา ร้องให้พี่ชายหนี

จากกรณีเกิดเหตุสุนัข จำนวน 4 ตัว รุมกัด เด็กชาย ยืนยง ชัยราบ หรือ ดีแม็กซ์ อายุ 7 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา  ขณะ น้องดีแม็กซ์ รวมทั้งน้องชาย คือ น้องไทเกอร์ วัย 6 ขวบ และเพื่อนอีก 1 คน ออกไปจับหอยและปุบริเวณหลังบ้านซึ่งเป็นป่าชายเลย ในช่วงที่น้ำกำลังลง เป็นเหตุให้สุนัขซึ่งอยู่อีกฝั่งเดินมุ่งหน้าเข้ามายังจุดที่เด็กๆ กำลัง หาหอยกันอยู่ และเข้ากัดทำร้ายน้องดีแม็กซ์จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น้องไทเกอร์ อายุ 6 ขวบ ซึ่งเป็นน้องชาย ของน้องดีแม็กซ์ และเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เล่าให้ผู้เป็นแม่ฟังว่า ขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาหอยกันอยู่ สุนัขที่อยู่อีกฝั่งได้เห่าไล่เด็กและวิ่งเข้ามาเหมือนจะกัด ทั้ง 3 คนจึงพยายามวิ่งหนี โดยตนเองและเพื่อนพี่ชายวิ่งนำหน้าและปีนขึ้นต้นไม้โกงกาง ทำให้รอดจากคมเขี้ยวมาได้ ส่วนพี่ชาย คือดีแม็กซ์พยายามที่จะวิ่งขึ้นต้นไม้ต้นเดียวกันแต่มีเจ้าสุนัขตัวหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นจ่าฝูง กิ่งมากัดชายเสื้อที่พี่ชายสวมอยู่จนล้มลงกับพื้นโคลนบริเวณป่าชายเลน

และกัดพี่ชายทันทีในขณะที่พี่ก็พยายามปกป้อง เพื่อหนีเอาตัวรอด โดยตนกับเพื่อนตะโกนให้พี่ชายหนี แต่หลังจากนั้นมีสุนัขอีก 3 ตัววิ่งเข้ามารุมขย้ำพี่ชายจนเลือดแดงไปหมด และมีเพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงเอาไม้มาช่วยไล่สุนัขที่รุมกัดพี่ชายจนล่าถอยออกไป ตนจึงลงจากต้นไม้และวิ่งไปบอกพี่สาวที่บ้านให้มาช่วยและตามพ่อแม่มาช่วยด้วย ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพที่จำได้ฝังใจ และรู้สึกกลัวมาก จนเก็บไปฝันและละเมอให้พี่ชายวิ่งหนีด้วย

ขณะที่แม่ของเด็กชายไทเกอร์ และดีแม็กซ์ กล่าวว่า ลูกชายที่ไปด้วยกันยังอยู่ในอาการผวา และเวลานอนหลักก็หลับไม่สนิท มีการละเมอร้องให้พี่ชายวิ่งหนีเอาตัวรอด ส่วนน้องดีแม็กซ์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ รู้สึกตัวแล้ว แต่ตนรู่สึกว่าลูกยังรู้สึกผวาและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคงจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจิตใจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

แม้แต่ตนก็ไม่คิดว่า การที่ลูกถูกสุนัขกัดจะมีอาการร้ายแรงขนาดนี้ ตอนที่มีคนไปบอกว่าลูกถูกสุนัขกัดก็คิดว่าจะมีบ้านแผลที่ขาเล็กน้อย เหมือนเหตุการณ์สุนัขกัดคนทั่วๆไป แต่เมื่อเห็นลูกของตนถูกกัดพบว่ามีแผลทั้งตัวไม่มีจุดไหนที่ไม่มีแผลรอยเขี้ยวสุนัขเลย  จนถึงตอนนี้ตนยังทำใจ ไม่ได้กับบาดแผลที่เห็นก่อนที่หมอจะทำการรักษา ลูกมีแผลทั้งตัว เลือดท่วมตัวไปหมด ซึ่งตอนนี้ตนก็ทำได้เพียงเฝ้าดูอาการของลูกอยากให้ลูกหายเร็วๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนทั้งบาดแผลตามร่างกายและแผลในใจ