เป็นเรื่องคนในคลิปเถียงเรื่องที่จอดรถแจ้งความดำเนินคดีคนโพสต์

แชร์ว่อน ! คลิปพร้อมข้อความ หนุ่มใหญ่เถียงกับกับสาวทอม เรื่องที่จอดรถ ขณะที่หนุ่มใหญ่ คนในคลิป ซึ่งเป็นเจ้าของเต็นท์ขายรถมือสอง เผยถูกสาวทอมถ่ายคลิป สาเหตุเพียงแค่บอกให้ถอยรถที่ขวางประตูหน้าบ้าน พร้อมยืนยันไม่ได้บอกว่าเป็นตำรวจ รุดแจ้งความดำเนินคดีคนโพสต์ทำให้เกิดความเสียหาย 

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ @ทอม’ นี่ เขียนโพสต์ ว่า “นี้หรอตำรวจภูเก็ต นี้หรอคนเรียนจบสูง เเต่วาจาไม่เหมาะสมกับเรียนมาสูงเลย ขณะที่หนูเรียนจบเเค่มัธยม.3 ยังวาจาสุภาพกว่า เเล้ว จะมาต่อยพี่ผมอีก เเละ อีกอย่างตำรวจคนนี้เมาสุราด้วยครับ ผมพึ่งเคยพบเห็นนี้” พร้อมโพสต์คลิปวีดีโอ และมีการแชร์กันและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งคลิปดังกล่าวมีการโพสต์ขึ้นในยูไลค์ คลิปเด็ดด้วย

ความคืบหน้าของเรื่องนี้ พ.ต.ท.สุธรรม รัตนสว่างวงศ์ สว.สส.สภ.ฉลอง หลังมีการโพสต์คลิปดังกล่าวจนมีการแชร์กันออกไปจำนวนมาก เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (16 พ.ย.) นายอเนก วัฒกียานนท์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/59 ม.4 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ธาดา โสดารักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พร้อมให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) เวลาประมาณ 14.45 น. ขณะที่นายเอนกได้ถอยรถออกจากบ้านพัก ได้มีชายไทย ขับรถมาขวางที่ประตูบ้านพัก จากนั้นได้สั่งให้คนขับถอยรถออกจากหน้าบ้าน จากนั้นได้มีผู้หญิงเหมือนทอม 2 คน ได้มาต่อว่าและถ่ายรูปรถของตน และทราบว่าผู้ที่จอดรถขวางประตูบ้านได้โพสต์ลงในเฟสบุ๊คทำให้ผู้แจ้งเกิดความเสียหาย จึงเดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 62/59 ม.4 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ทางตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถาม นายเอนก วัฒกียานนท์ อายุ 52 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือ 2 ในพื้นที่ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนขับรถขวางประตูหน้าบ้าน ตกได้บอกว่า “น้องถอยรถออกก่อน พี่ต้องรีบไป” ซึ่งในการพูดจาครั้งนั้นก็ไม่ได้บอกว่าว่าเป็นตำรวจ เพียงบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ล่ามแปลภาษา และ เป็นเจ้าของเต็นท์รถ เค้าเอาไปเขียนเอง เอาไปขยายความเองว่าผมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมไม่เคยพูดสักคำว่าเป็นตำรวจ หากเขาเลื่อนรถให้ก็ไม่มีปัญหาอะไร คนขับเค้าจะเลื่อนรถออกจากหน้าบ้านแล้ว แต่ทอม คู่กรณี บอกว่าไม่ต้องถอย ก็บอกว่าหากเป็นแบบนี้ไปคุยกันที่โรงพักดีกว่าว่าใครผิดใครถูก

สำหรับตนเป็นคนที่ไม่ค่อยเล่นโซเชี่ยล ลูกน้องก็ก็อปลิงค์มาให้ดู และเห็นว่าตนเสียหายจึงเดินทางไปแจ้งความเพื่อเอาผิดกับคู่กรณีจนถึงที่สุด “ข้อหาหมิ่นประมาท ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์”