เปิดใช้พรุ่งนี้แล้ว โรงพยาบาลสนามภูเก็ต เตียงในโรงพยาบาลรับไม่ไหวแล้ว ยอดผู้ป่วยพุ่งเกือบ100คน
โพสเมื่อ : Thursday, March 26th, 2020 : 5.18 pm
จังหวัดภูเก็ตทดสอบเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 มาโรงพยาบาลสนาม ก่อนเปิดรับผู้ป่วยวันพรุ่งนี้ ถือเป็นแห่งแรกในภูมิภาค หลังยอดผู้ป่วยที่ติดเชื้อและรอผลยืนยันผล รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลพุ่งเกือบ 100 คนแล้ว เกินจากเตียงที่มีอยู่ 80 เตียงแล้ว พร้อมสำรองโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ที่ หอประชุม มอ.ภูเก็ต
วันนี้ (26 มี.ค.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายแพย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต แพทย์หญิงบุษยา สันติศานติ์ แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าว ถึงความพร้อมของโรงพยาบาลสนามภูเก็ต ที่ตั้งอยู่ภายในหอประชุมจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต หลังใหม่ ที่ทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ภาคเอกชน ร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง สามารถช่วยตัวเองได้ มารักษาอีก 7- 14 วัน เพื่อรอให้แน่ใจว่าผู้ป่วยหายสนิท ไม่มีเชื้อโควิด-19 อีกแล้ว ก่อนที่อนุญาตให้กลับบ้าน เพื่อไม่ไปแพร่เชื้ออีกต่อไป โดยหน่วยงานต่างๆ ได้เข้ามาทำการปรับปรุงชั้น 1 เป็นโรงพยาบาล จำนวน 40 เตียง ตั้งแต่วัน 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
โดยในวันนี้ ทางโรงพยาบาลสนามได้ทำการฝึกซ้อมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสนาม เพื่อให้เห็นถึงขั้นตอนการดำเนินการ รวมถึงการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หากผู้ป่วยที่รักษาตัวที่อยู่ที่นี้เกิดอาการฉุกเฉิน และหลังจากวันนี้โรงพยาบาลสนามจะเป็นโรงพยาบาลปลอดเชื้อ ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาโดยเด็ดขาด
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้เตรียมความพร้อมการควบคุมโรคโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนมกราคม ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบการป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคในระบบสาธารณสุขของจังหวัดภูเก็ตที่ได้มาตรฐาน ตามที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกประการ แต่จากการจำลองและคาดการณ์แนวโน้มการติดเชื้อของนักระบาดวิทยาระบุว่า แนวโน้มผู้ติดเชื้อในภูเก็ตน่าจะเข้าสู่ระดับอันตราย คาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง จากความเสี่ยงที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวมีผู้สัญจรไป-มา เป็นจำนวนมาก และสามารถเข้าภูเก็ตได้หลายทาง ทั้งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก จำเป็นที่ทางจังหวัดภูเก็ตจะต้องบริหารจัดการโดยใช้โรงพยาบาลของรัฐ เอกชน มีอยู่ในพื้นที่ สำหรับรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการหนัก จึงได้เกิดโรงพยาบาลสนามขึ้นมาเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่อาการดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงได้เสนอคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต มีมติเลือกหอประชุมจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต หลังใหม่ เป็นโรงพยาบาลสนาม ชั้นที่ 1 ดำเนินการในเฟสแรก จำนวน 40 เตียง และเฟส 2 ชั้น 2 อีก 70 เตียง สามารถรองรับได้ทั้งหมด 110 เตียง
อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางจังหวัดได้พิจารณาหาสถานที่เพื่อจัดทำเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 แล้ว โดยได้พิจารณาหอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ในเฟสแรกอีก 100 เตียง และในส่วนของหอประชุม มอ.ภูเก็ต นั้น สามารถรองรับได้ถึง 210 เตียง เชื่อว่าเพียงพออย่างแน่นอน การจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นอยู่กับประชาชนชาวภูเก็ตที่จะช่วยกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ โดยการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลกำหนด และปฏบัติตามคำแนะของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด การแพร่ระบาดก็เข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ ภูเก็ตเราได้มีการทดลองระบบของโรงพยาบาลสนาม เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติจริงที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมายังโรงพยาบาลสนาม และหลังจากนี้ โรงพยาบาลสนามจะกลายเป็นสถานที่ปลอดเชื้อห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าโดยเด็ดขาด ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่ม PUI หรือกลุ่มที่เฝ้าระวังและรอผลการนั้น จะกักตัวไว้ที่โรงแรมแกรนด์สุพิชฌาย์ ในตัวเมืองภูเก็ต อีก 70 เตียง โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งในส่วนของโรงพยาบาลสนามและโรงแรมแกรนด์สุพิชฌาย์นั้น เป็นงบของ อบจ.ภูเก็ต ที่ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยให้ อบจ.ภูเก็ต สามารถนำงบประมาณมาสนับสนุนการป้องกัน ควบคุม และรักษา โควิด-19 ได้แล้ว
ด้าน นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ระบุว่า ในปัจจุบันนี้ตัวผู้ป่วยในกลุ่มเฝ้าสังเกตอาการและรอผลยืนยันการติดเชื้อโควิด-19 ในภูเก็ต เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยตัวเลขล่าสุด ภูเก็ตมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 5 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 34 ราย รอผลยืนยัน 64 ราย ทำให้มีผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลทั้งหมดในวันนี้ 96 ราย ในขณะที่โรงพยาบาลของรัฐ เอกชน และ อบจ. สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้ 80 เตียงเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อจำนวนคนป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องมีโรงพยาบาลสนาม เพื่อสำรองเตียงในโรงพยาบาลไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักเท่านั้น ซึ่งในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะมีทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งจังหวัดภูเก็ตหมุนเวียนกันมาดูแลผู้ป่วย และขอยืนยันว่าโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ได้มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแห่งแรกในภูมิภาคหลังเกิดการระบาดของโควิด-19 และดำเนินการในรูปแบบเดียวกับโรงพยาบาลสนามในจีนและอิตาลี
ขณะที่แพทย์หญิงบุษยา สันติศานติ์ แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามภูเก็ต กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามภูเก็ตแห่งนี้ มีทั้งหมด 2 ชั้น ขณะนี้เปิดใช้ชั้นแรกจำนวน 40 เตียง แบ่งเป็นวอร์ดชาย 20 เตียง หญิง 20 เตียง แยกห้องน้ำชายหญิง มีห้องปฏิบัติการทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ เป็นห้องปลอดเชื้อ เจ้าหน้าที่ทุกคนแต่งกายด้วยชุดในห้องผ่าตัด โดยจะเปิดรับคนไข้ในวันพรุ่งนี้ จำนวน 5 คนแรก เพื่อทดสอบระบบทั้งหมด
โดยเมื่อผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่เคลื่อนย้ายมาจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตมาถึงจะนำเข้ามาทางประตูด้านข้าง มาสอบสวนโรคผ่านทางระบบอินเตอร์คอม เพื่อให้แพทย์และพยาบาลได้สอบสวนโรคและแนะนำการปฏิบัติตัวในการเข้ารับการรักษา ก่อนที่จะให้คนป่วยไปประจำที่เตียงคนไข้ ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆ ไว้พร้อม
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม จะเป็นคนไข้ที่อาการดีขึ้นมากๆ สามารถกินข้าว อาบน้ำ และช่วยเหลือตัวเองได้ในทุกๆเรื่อง มีทีวีไว้ให้ผู้ป่วยได้สันทนาการ wifi มือถือ สามารถคุยกับญาติผ่านทางวีดีคอล เดินเล่นภายในอาคารได้ และมี CCTV ในการเฝ้าติดตามอาการของผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ที่แพทย์และพยาบาลจะมอนิเตอร์เห็นคนไข้ตลอด และเมื่อคนไข้เกิดอาการฉุกเฉินสามารถโพกมือเรียกแพทย์และพยาบาลได้ แพทย์และพยาบาลจะเข้าพบผู้ป่วยทันทีเพื่อประเมินอาการ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต หากอาการน่าเป็นห่วง
“ตามแผนที่ว่างไว้ โรงพยาบาลแห่งนี้จะเปิดรับผู้ป่วยในช่วงต้นเดือนเมษายนเพื่อให้พร้อม 100% ทั้งในเรื่องของการนำหุ่นยนต์ดินสอ มาวัดไข้ จ่ายยา พูดคุยหลอกล้อกับผู้ป่วยเพื่อลดความเครียด แต่เนื่องจากขณะนี้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่รักษาตัวในโรงพยาบาลล้น เตียงที่มีไม่เพียงพอในการรองรับ จึงต้องเปิดรับผู้ป่วยล๊อตแรกในวันพรุ่งนี้ จำนวน 5 คนก่อน” ผอ.โรงพยาบาลสนามภูเก็ต กล่าวและว่า
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จะมารักษาตัวที่นี้ 14 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยหายสนิท ไม่มีเชื้อในร่างกายอีกแล้ว ก่อนให้กลับบ้าน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่อีกต่อไป และหลังจากกลับบ้านแล้วจะมีการกักตัวติดตามอาการอีก 14 วัน และขอให้ประชาชนที่อยู่รอบๆ โรงพยาบาลสนามขอให้มั่นใจจะไม่มีผลกระทบหรือแพร่เชื้อจากโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด โดยขยะติดเชื้อที่เกิดขึ้นนั้นทางเทศบาลนครภูเก็ตจะจัดเก็บและนำไปกำจัดในระบบของขยะติดเชื้อ ส่วนเสื้อผ้าผู้ป่วยจะนำไปซักทำความสะอาดที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ส่วนน้ำเสียจะผ่านการบำบัดด้วยการใส่คลอรีนฆ่าเชื้อก่อนปล่อยออไป การติดเชื้อเกิดจากละอองฝอยไม่ลอยไปบ้านข้างๆ อย่างแน่นอน ขอให้มั่นใจในการดำเนินงานของทางโรงพยาบาล
- อบจ.ภูเก็ต เปิดโครงการอบรมส่งเสริมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเมืองยั่งยืน...
- เลือกนายกเทศมนตรี ใน จ.ภูเก็ต โผไม่พลิก แม้จะมีการแข่งขันกันดุเดือด...
- รพ.สต. สังกัด อบจ.ภูเก็ต ร่วมรับมอบรถวีลแชร์จากมูลนิธิกุศลธรรม สนับสนุนดูแลผู้ป่...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา “เทพกระษัตรีสัมพันธ์ ครั้งที่ 4”...
- นายก อบจ.ภูเก็ต เปิดโครงการอบรมพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรท้องถิ่น สังกัด ...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานสวดกลางบ้าน ชุมชนน้ำตกกะทู้...
- May 2025 (9)
- April 2025 (21)
- March 2025 (35)
- February 2025 (23)
- January 2025 (23)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)