เปิดใจ “สุทา ประทีป ณ ถลาง” ส.ส.ป้ายแดงภูเก็ต ฝาก “ เลือกแล้วอย่าลอยแพ”
โพสเมื่อ : Monday, March 25th, 2019 : 6.31 pm
เปิดใจ“ สุทา ประทีป ณ ถลาง” ว่าที่ ส.ส. ป้ายแดงภูเก็ตเขต 1 พร้อมเดินหน้า พัฒนาภูเก็ตไปสู่ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ฝากคนภูเก็ต “เลือกแล้วอย่าลอยแพ” เตรียมเอาคืนชายหาดสาธารณะให้ทำมาหากินได้เหมือนเดิม
นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ว่า ส.ส.ภุเก็ตเขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ผ่านเพจส่วนตัว ว่า “ผม สุทา ประทีป ณ ถลาง โก้ตุ๋ย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่สนับสนุน จะร่วมกับพี่น้องชาวภูเก็ต พัฒนาภูเก็ตของเราไปสู่ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยมี ชาวโซเชียล ร่วมแสดงความยินดี และฝากพัฒนาภูเก็ตในหลายๆด้าน
สำหรับ “นายสุทา ประทีป ณ ถลาง” เป็นคนภูเก็ตโดยกำเนิด ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักต่อสู้เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากกลุ่มนายทุนที่ใช้อำนาจเงินบุกรุกครอบครอง รวมทั้งออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทั้งบกและป่าชายเลนในหลายๆแปลง โดยเข้าไปทำงานร่วมกับชาวบ้านและชุมชน ทำให้ภาพของ “สุทา ประทีป ณ ถลาง” หลายคนมองว่าเป็น NGO
นายสุทา ประทีม ณ ถลาง กล่าวภายหลังทราบผลการเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไม่ทางการ ว่า ขอขอบคุณชาวภูเก็ตที่เลือกตนและพรรคพลังประชารัฐ ทุกคะแนนเสียให้เข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาจังหวัดภูเก็ต และ เมื่อเลือกตนเข้ามาแล้วขออย่าลอยแพ เพราะตนไม่สามารถทำงานในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆของจังหวัดภูเก็ตได้เพียงลำพัง แต่การพัฒนาภูเก็ตทุกๆด้านจะต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนชาวภูเก็ต ทุกๆคน ทุกๆกลุ่ม ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน ที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม
สำหรับแนวคิดในการทำงาน เพื่อพัฒนาจังหวัดภูเก็ตไปสู่ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จะต้องเกิดจากการระดมความคิดของทุกภาคส่วน ซึ่งเร็วๆหลังได้รับการรับรองการเป็น ส.ส.อย่างเป็นทางการ ตนจะเชิญทุกภาคส่วนมาร่วมหารือระดมความคิดเห็น กำหนดแนวทางการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตไปด้วยกัน เพื่อเสนอคณะรัฐบาลต่อไปและผลักดันให้แนวทางการพัฒนาเห็นเป็นรูปธรรม รวมทั้งโครงการต่างๆที่มีการดำเนินการก่อนหน้านี้ถ้าเป็นโครงการที่ดี เป็นประโยชน์กับชาวภูเก็ตตนก็พร้อมที่จะสานต่อโดยไม่เลือกว่าเป็นโครงการที่เกิดจากแนวคิดของใคร
นายสุทา ยังได้กล่าวต่อไปว่า การพัฒนาภูเก็ตต้องคิดอยู่บนความยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติและการเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยหน้ากันทั้งเรื่องของการจัดการทรัพยากร และ การท่องเที่ยวเพราะภูเก็ตเป็นเมืองที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพที่หลากหลาย และที่สำคัญการท่องเที่ยวก็ขึ้นอยู่กับเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติอย่างหลีกเลี้ยงไม่ได้ หากทรัพยากรถูกทำลาย การท่องเที่ยวก็ย่อมเสียหายไปด้วย
สำหรับปัญหาเร่งด่วนที่ตนมอบว่าจะต้องรีบแก้ไข ในส่วนของภูเก็ตจากการทำงานร่วมกับหลายภาคส่วน พบว่ามีสารพัดปัญหาที่จะต้องเร่งจัดการ เช่น ปัญหาน้ำเสีย ซึ่งทุกวันนี้ก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่า มีน้ำเสียจากทั้งสถานประกอบการ ร้านอาหาร โรงแรม บ้านเรือนของประชาชนไหลลงทะเลรอบเกาะภูเก็ต นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องน้ำกินน้ำใช้ ปัญหาเรื่องการจราจร ปัญหาเรื่องของทรัพยากรถูกทำลาย ปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดิน และอื่นๆ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก็จะได้มาจากการร่วมหารือร่วมกันทุกฝ่าย ซึ่งจะมีการกำหนดความสำคัญของการแก้ไขปัญหาไปแต่ละเรื่อง เพียงแต่ทุกคนในภูเก็ตจะต้องร่วมมือกัน
นายสุทา ยังได้กล่าวต่อไปว่า สิ่งหนึ่งที่คิดว่าจะมีการนำเสนอเพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ปัญหาการบุกรุก คือการศึกษาเรื่องของโครงสร้างที่ดิน ทั้งที่ดินเอกชน ที่ดินประชาชน และที่ดินสาธารณะ เพราะการจะทำโครงการอะไรเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ไม่ทราบว่าที่ดินแต่ละแปลงเป็นของใครก็จะทำให้การแก้ไขปัญหาติดขัด ตนจึงอยากผลักดันให้ภูเก็ตมีการออกโฉนดทั้งตำบลในครั้งเดียว ไม่ใช่ออกเป็นรายๆ ซึ่งจะทำให้ทราบว่าที่ดินของใครอยู่จุดไหน ที่ดินสาธารณะเป็นอย่างไร ซึ่งจะทำให้การวางผังเมือง การแก้ไขปัญหาต่างก็สามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้น
นอกจากนั้นยังมองไปถึงเรื่องของการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่ม เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่หลากหลาย บางครั้งนักท่องเที่ยวเองไม่สามารถที่จะอยู่ในสถานที่เดียวกันได้ เช่นนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาเที่ยวจุดนี้ นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มก็จะไม่เข้ามาทำให้เราสูญเสียนักท่องเที่ยวบางกลุ่มไป จึงอยากให้มีการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มไป ซึ่งจะทำให้เราสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม แต่จะต้องคำนึงถึงคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ
นายสุทา ยังได้กล่าวต่อไปถึงแนวความคิดในการจัดระเบียบชายหาดต่างของจังหวัดภูเก็ต ว่า ถึงเวลาที่จะต้องเอาชายหาดกลับมา เพื่อคืนร่ม เตียง ให้คนได้ทำมาหากินเหมือนเดิม เพราะหลังจากมีการจัดระเบียบชายหาดทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตสูญเสียไปประมาณ 3 แสนล้านบาทต่อปี โดยจำนวนร่มเตียงที่จะเอาคืนมาจะต้องมีจำนวนเท่ากับก่อนที่จะมีการจัดระเบียบ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีการใช้ชายหาดเพื่อตั้งร่มเตียงอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 % ของแต่ละหาด
แต่หลังจากมีการจัดระเบียบทำให้ร่มเตรียงที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการจากนักท่องเที่ยว ซึ่งหัวใจการท่องเที่ยวของภูเก็ตคือชายหาด หัวใจของชายหาดคือร่มเตียง แต่เมื่อเราเอาร่มเตียงออกก็เหมือนกับเอาหัวใจของชายหาดออกก็จะทำให้ชายหาดตาย การวางร่มเตียงเพื่อการท่องเที่ยวไม่ได้ทำให้ชายหาดเสียหาย ถ้ามองว่าการนอนบนชายหาดของนักท่องเที่ยวทำให้เกะกะหูเกะกะตาไม่น่าจะจริงเพราะเป็นวิถีของนักท่องเที่ยวจึงอยากจะให้คืนร่มเตียงให้กับชายหาดเพื่อบริการนักท่องเที่ยว แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่จะต้องมาคุยกัน
- อบจ.ภูเก็ต ผุด “ศูนย์ฟอกเลือดด้วยไตเทียม” ขนาด 37 เตียง รองรับผู้ป่วย ไม่ต้องรอค...
- ได้นั่งแน่ รถบัส EV ของอบจ.ภูเก็ต ทดแทน รถโพถ้อง สีชมพู...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดประติมากรรม ศิลปะร่วมสมัย “ไอ้จุด” Lovel...
- นายก อบจ.ภูเก็ต ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “สมุดภาพภูเก็ต”...
- อบจ.ภูเก็ต นำเครื่องจักรปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสะพานหิน (ภัตตาคารวังปลาเดิม)...
- กระแสแรงเกินคาด! SUPALAI SENSE เขารัง ภูเก็ต ยอดขายทะลักวัน Pre-Sales กว่า 200 ล...
- November 2024 (18)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)