เปิดคลิปนาทีหนุ่มแท็กซี่ลั่นไกสังหารเพื่อนร่วมคิวกลางเมืองป่าตอง

โพสเมื่อ : Thursday, March 7th, 2019 : 2.45 pm

ตำรวจเปิดภาพนาทีคนร้ายใช้อาวุธปืนลั่นไกใส่คนขับแท็กซี่ป่าตอง ท่ามกลางนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน หลังมีปากเสียงและชกต่อย กับเพื่อนร่วมคิว ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดจับกุมคนร้ายแล้ว

จากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. วันนี้ (7 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันได้รับบาดเจ็บบริเวณ คิวเเท็กซี่หน้า โรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนพระเมตตา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.เจษฏา แสงสุรีย์ รองผกก.(สอบสวน)สภ.ป่าตอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักศาสน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.ป่าตอง ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ

ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายทรงพล สุวรรณสะอาด อายุ 46 ปี ชาว ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีบาดแผลที่ลำตัวหลายจุด เจ้าหน้าที่พยายามช่วยชีวิต แต่ยื้อไม่ไหวเสียชีวิตในขณะนำส่งโรงพยาบาลป่าตอง ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นาย ภราดร ภูชยันตร์ อายุ 48 ปี ชาว ต.ท่าทอง  อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฏร์ธานี ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการหลบหนี

พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 2 จุด ซึ่งคลิปแรกเป็นภาพขณะที่ นายภราดร คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิง นายทรงพล ซึ่งขณะนั้นมีนักท่องเที่ยว เดินอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย เมื่อได้ยินเสียงปืนนักท่องเที่ยวต่างก็รีบวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด เนื่องจากตกใจเสียงปืน

ส่วนร่างของนายทรงพล ล้มลง และนายภราดร เดินเข้าไปจ่อยิงใกล้ๆ อีก 1 นัด ส่วนอีก 1 คลิป เป็นภาพขณะที่นายภราดร ผู้ก่อเหตุกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ โดย สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ และ รองเท้าสีขาว

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนในเบื้องต้น ซึ่งผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงระบุ ว่า ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด และ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวตื่นตกใจ วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ก่อนรีบวิ่งกลับมาดูพบว่า นายทรงพลนอนแน่นิ่งจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต มักมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง จนเพื่อนร่วมคิวต้องห้ามอยู่เป็นประจำ ทำให้เลิกรากันไป ก่อนจะมาเกิดเหตุอีกครั้งในวันนี้ ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นความขัดแย้งส่วนตัว หรือความขัดแย้งภายในคิวรถ