เด้ง 3 เสือโรงพักเมืองภูเก็ต เซ่นบ่อนดังซอยท่าจีน จ.ภูเก็ต หลังทหารบุกทลาย

เด้ง 3 เสือโรงพักเมืองภูเก็ต เซ่นบ่อนดังซอยท่าจีน จ.ภูเก็ต หลังทหารบุกทลาย ผู้การภูเก็ต เซ็นคำสั่งย้าย พ้นหน้าที่ ตั้งรองผู้การ รักษาราชการแทน จนกว่าจะมีการสอบสวนเสร็จสิ้น ขณะที่ผู้ต้องหานำตัวส่งฟ้องศาลแล้ว

จากกรณี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยกองพลทหารราบที่ 5 ซึ่งรับผิดชอบอยู่ในพื้นที่ โดยใช้กำลังของกองพลทหารราบที่ 5 เข้ากองพลทหารราบที่ 5 ร่วมกับ กรมทหารราบที่ 25 นำกำลังเจ้าหน้าที่บุกทลายบ่อนการพนันดัง ซึ่งตั้งอยู่ในซอยท่าจีน ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากกองรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต ว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวมีการลักลอบเล่นการพนันมาอย่างยาวนาน ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้ ได้ผู้ต้องหา 63 คน ในจำนวนนั้นมีอดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จังหวัด ภูเก็ตอยู่ด้วย นอกนั้นยังมีเงินสดเกือบ 2 ล้าน และ ยึดรถยนต์ จักรยานยนต์ ไว้ตรวจสอบอีก 56 คัน รวมทั้งอาวุธปืน อีก 4 กระบอก ล่าสุด วันนี้ ( 29 พ.ค.) พนักสอบสวนได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งฟ้องศาลในข้อหาลักลอบเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต และรับเป็นเจ้ามือจัดให้มีการเล่นพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งข้อหารับเป็นเจ้ามือ ให้การปฎิเสธ

อย่างไรก็ตามหลังจากทหารนำกำลังเข้าทลายบ่อนดังกล่าว ก็เกิดคลื่นสึนามิตามมา เมื่อ พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.ท.กมล โอศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต กับพวก หลังจากนั้นก็ได้มีคำสั่งย้าย ด่วน ให้ 3 เสือ สภ.เมืองภูเก็ต ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ทันที โดยหนังสือดังกล่าวมีใจความส่วนหนึ่ง ว่า ตามที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.ท.กมล โอศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต กับพวก กรณีไม่สามารถ ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอบายมุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปล่อยปละละเลย ไม่สนใจในการสืบสวนปราบปรามจับกุม หรืออาจมีส่วนรู้เห็นเป็นใจหรือเกี่ยวข้องกับแหล่งอบายมุข ที่กระทำผิดกฎหมาย

และเพื่อให้การบริหารงานในภาพรวม ตลอดจนการปฏิบัติตามนโยบายของตำรวจตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพไม่เกิดความเสียหายต่อราชการ และเพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรม จึงมีคำสั่งให้ ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ ณ ศูนย์ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยขาดจากการบังคับบัญชาทางตำแหน่งเดิมจำนวน 3 นาย ประกอบด้วย พ.ต.อ.โกมล โอศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และ พ.ต.ท.ณัฐ พรหมเทพ รองผู้กำกับสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมแต่งตั้งให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน จำนวน 3 นาย คือ พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย รักษาราชการแทนรองผู้กำกับการป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และ พ.ต.ท.ปทักข์ ขวัญนา รองผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการแทน รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ ( 29 พ.ค.)เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต. ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในครั้งนี้ จะมีการสืบสวนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยจะต้องสืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ส่วนปัญหาเรื่องของบ่อนการพนัน หรืออบายมุข ต่างๆที่ผ่านมาได้มีการสั่งการและเน้นย้ำมาโดยตลอด ทุก สภ.จะต้องดูและป้องกันปราบปราม รวมไปถึงเรื่องของการค้าประเวณีเด็ก ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนของบ่อนการพนันมีการจับกุมมาโดยตลอด