เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ยืนยันพร้อมดูแลลูกค้าหลังศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอน น.ส.3 ก.
โพสเมื่อ : Tuesday, February 2nd, 2021 : 7.29 pm
ผู้บริหารเดอะ พีค เรสซิเดนซ์ ยืนยันพร้อมดูแลลูกค้า ย้ายไปลงทุนโครงการใหม่ที่หาดสุรินทร์ หลังศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอน น.ส.3 ก. ระบุมีลูกค้าย้ายแล้วส่วนหนึ่ง ยันไม่ทิ้งลูกค้าแน่นอน พร้อมอุทธรณ์คำสั่งรื้อทิ้งโครงการ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (2 ก.พ.) ที่โครงการ เดอะ พีค เรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมหรูหาดกะตะน้อย ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายมนัสนันท์ นรารัตน์วันชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กะตะบีช จำกัด เจ้าของโครงการเดอะ พีค เรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียมหรูมูลค่า 2,100 ล้านบาท เปิดแถลงข่าวภายหลังศาลปกครองสูงสุดได้สั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3 ก.เลขที่ 1863 หมู่ที่ 2 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการเดอะ พีคฯ ออกไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ว่า
ในส่วนของตนและบริษัทกะตะบีช น้อมรับคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ในการสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3 ก.ที่เป็นที่ตั้งโครงการเดอะพีคฯ และ พร้อมที่จะปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด และ บริษัทไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาดำเนินการในที่ดินแปลงดังกล่าวอีกนับจากวันที่ศาลปกครองสูงสุดได้สั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน แต่ในส่วนของการดูแลลูกค้า นั้นทางบริษัทขอสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้า กลุ่มเอเยนต์ และ คนภูเก็ต รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ว่า หลังจากนี้ทางบริษัทจะดำเนินการอย่างไรกับโครงการเดอะพีคฯ
โดยแบ่งเป็นเรื่องหลัก ๆ อยู่ 2-3 เรื่อง คือ การดูแลลูกค้าที่ซื้อห้องพักของโครงการนี้ไปแล้ว คำสั่งยกเลิกใบอนุญาตก่อสร้างและคำสั่งรื้อโครงการของเทศบาลตำบลกะรน รวมไปถึงเจ้าของที่ดินยืนเรื่องให้ศาลปกครองรับพิจารณาคดีใหม่อีกรอบ โดยในส่วนของการดูแลลูกค้านั้น ทางบริษัทได้ดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี ตั้งแต่ที่ศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราชได้สั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินแปลงที่ตั้งของโครงการ จนมาถึงศาลปกครองสูงสุด ซึ่งทางบริษัทยืนยันว่าจะดูแลเงินลงทุนของลูกค้าให้ดีที่สุด โดยแบ่งการดูแลลูกค้าออกเป็น 3 ส่วน คือ กลุ่มลูกค้าที่ยินยอมที่จะโอนเงินลงทุนไปลงทุนในโครงการอื่นของบริษัทที่มีความปลอดภัยกว่า ที่หาดสุรินทร์ เอกสารสิทธิเป็นโฉนด ผ่าน EIA เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นโครงการในลักษณะเดียวกัน ตอนนี้มีลูกค้ายินยอมโอนและทำสัญญาแล้วประมาณ 180 ราย และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 170 ห้อง และยังไม่แจ้งความประสงค์ที่จะย้ายกว่า 40 ราย
นายมนัสนันท์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่บริษัททำได้ในขณะนี้ คือ ดูแลเงินลงทุนของลูกค้าให้ดีที่สุด ให้ลูกค้าเกิดความเสียหายน้อยที่สุด โดยลูกค้ากลุ่มหลักๆ จะเป็นจีน รัสเซีย และยุโรป และคนไทยบ้างเล็กน้อย สำหรับลูกค้าที่ไม่ประสงค์จะย้ายการลงทุนไปโครงการอื่นเพราะต้องการที่จะซื้อโครงการนี้เท่านั้น ก็คงต้องรอต่อไป ซึ่งไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่ที่คดีจะสิ้นสุด จึงอยากที่จะให้ลูกค้าย้ายไปลงทุนในโครงการที่หาดสุรินทร์แทน และลูกค้าที่ยังไม่มีการติดต่อเข้ามายังบริษัทขอให้ติดต่อเข้ามาและอยากจะให้ย้ายการลงทุนไปโครงการที่ปลอดภัยกว่าเพราะขณะนี้ยังมีลูกค้าบางส่วนที่ยังรอลงทุนในโครงการ เดอะ พีคฯ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะสิ้นสุดคดีเมื่อไหร่ แต่หากเป็นโครงการที่หาดสุรินทร์อีกประมาณ 3-4 ปี จะก่อสร้างแล้วเสร็จ ส่วนลูกค้าที่ไม่ยอมย้ายและไม่ยอมที่จะลงทุนต่อก้มีสิทธิที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับทางบริษัท ซึ่งในส่วนนี้มีเพียง 2-3 รายเท่านั้น
นายมนัสนันท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางเทศบาลตำบลกะรน ยกเลิกใบอนุญาตก่อสร้างและมีคำสั่งให้บริษัททำการรื้อทิ้งอาคารทั้งหมด 435 ห้อง ภายใน 30 วัน เพื่อคืนสภาพพื้นที่หลังศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธินั้น ทางบริษัทได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไปแล้ว ตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ เนื่องจากทางโครงการทราบมาว่า เจ้าของที่ดินจะยื่นเรื่องขอให้ศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง และขอคุ้มครองชั่วคราวในที่ดินแปลงนี้ ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทยังไม่ทราบว่าศาลจะรับพิจารณาคดีใหม่หรือไม่ แต่ทางเจ้าของที่ดินมั่นใจในเอกสารหลักฐานที่มีอยู่ว่าการออกเอกสารสิทธิถูกต้อง รวมไปถึงทางบริษัทจะต้องให้ทางบริษัทประเมินสินทรัพย์ลงมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นว่ามูลค่าเท่าไร เพื่อใช้ในการเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้ที่มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัท จึงต้องอุทธรณ์คำสั่งของเทศบาลตำบลกะรน
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทในขณะนี้จากการคำนวณในเบื้องต้น พบว่ามีไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท จากการที่ได้ลงทุนไปแล้ว แต่เทียบไม่ได้กับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 1-2 หมื่นล้านบาท ที่ดินแปลงนี้ทำให้เกิดข่าวใหญ่โตมาหลายระลอก มีคนหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง เอกสารหลักฐานที่ออกโดยหน่วยงานราชการไม่สามารถยืนยันการได้มาที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ ทำให้เกิดความเสียหายกับภาพลักษณ์การลงทุนด้านอสังหาฯ ในภูเก็ต ทำให้นักลงทุนจากต่างชาติเกิดความไม่มั่นใจในการที่จะตัดสินใจมาลงทุนที่ภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนในเกาะภูเก็ตแห่งนี้ ที่มีไม่ต่ำกว่า 30 โครงการ มูลค่าการลงทุนปีละ 1-2 หมื่นล้านบาท จึงอยากจะฝากถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้ยอมถอยคนละก้าวเพื่อภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทถอยมาตลอดตั้งแต่ที่ศาลปกครองสั่งเพิกถอน หยุดการก่อสร้างและดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี เพื่อนำภาพลักษณ์ด้านการลงทุนของภูเก็ตคืนมา
- สิ้นสุดการรอคอย! ต้นปี 68 นี้ คนภูเก็ต-นักท่องเที่ยว ได้นั่งแน่รถโดยสาร EV Bus อ...
- เปิดใช้แล้ว! อาคารศูนย์อบรมจริยธรรมอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต...
- อาณา ดีเวลอปเมนท์ เปิดตัว “SERRANA” วิลล่าพรีเมี่ยมย่าน “ม่าหนิก” เฟสแรก 20 ยูน...
- กสิกรไทย เปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ “FX EV Car” ที่ภูเก็ต...
- โชว์เรื่องราวความรักแบบฟินๆที่เดียวในโลก ที่อควาเรียภูเก็ต...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ ทต.ศรีสุนทร สำรวจพื้นที่เพื่อปรับปรุงถนน ซ.บ้านม่าหนิก-กะทู้ ...
- December 2024 (2)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)