เจ้าเลพัง ! ได้บ้านใหม่แล้ว เห็นชอบให้ย้ายไปอยู่ในสวนสัตว์ภูเก็ต
โพสเมื่อ : Friday, November 17th, 2017 : 5.05 pm
กรมประมงได้ข้อสรุปหาบ้านหลังใหม่ให้ “เลพัง” จระเข้ลูกผสม ที่หลุดมาแหวกว่ายอยู่กลางทะเล หน้าหาดเลพังได้แล้ว เตรียมย้ายเข้าไปอยู่ใน “สวนสัตว์ภูเก็ต” กลางเดือนธันวาคมนี้ เพื่อความเหมาะสมที่สุดทั้งจระเข้และคน ระบุลูกผสมไม่สามารถปล่อยสู่ธรรมชาติตามกฎหมายของกรมประมง
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (17 พ.ย.) ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจังหวัดภูเก็ต นายไวยพจน์ เครือเสน่ห์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เขต 5 ภูเก็ต สพ.ญ.นรีรัตน์ สังขะไชย คณะสัตว์แพทย์ มหาวิทยลัยมหิดล ตัวแทนจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายพิชัย สกุลสอน ผู้จัดการ สวนสัตว์ภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าว การบริหารจัดการจระเข้ “เลพัง” ที่จับกุมได้บริเวณขุมน้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่งใกล้ๆกับหาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา และนำมาเลี้ยงไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง บ้านพารา อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากนักท่องเที่ยวต่างชาติรายหนึ่งถ่ายภาพมุมสูงจระเข้กำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเลหน้าหาดเลพัง ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องค้นหาและสามารถจับกุมตัวได้
ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้นำจระเข้ “เลพัง” มาเลี้ยงไว้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงชายฝั่ง เพื่อรอการบริหารจัดการจระเข้ตัวดังกล่าวให้เหมาะสมที่สุด ทางมหาวิทยาลัยมหิดลจึงได้ตรวจดีเอ็นเอและพบว่าจระเข้ “เลพัง” เป็นจระเข้ลูกผสมระหว่างจระเข้น้ำจืดกับจระเข้น้ำเค็ม ซึ่งสัณนิฐานว่าน่าจะมาจากฟาร์มและเข้าสู่แหล่งธรรมชาติโดยไม่ทราบสาเหตุและแหล่งที่มา ซึ่งจระเข้ลูกผสมนั้นไม่มีคุณค่าในเชิงอนุรักษ์และตามระเบียบของกรมประมงไม่สามารถที่จะปล่อยสู่ธรรมชาติหรือนำไปใช้เป็นแหล่งพันธุ์กรรมจระเข้พันธุ์แท้ได้อีกต่อไป
ดังนั้นจำเป็นต้องจะต้องหาที่อยู่ที่เหมาะสมที่สุดให้กับจระเข้ตัวดังกล่าว จากการหารือร่วมกันของจังหวัดภูเก็ต กรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติฯ คณะสัตว์แพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมถึงภาคเอกชน คือ สวนสัตว์ภูเก็ต ในวันนี้ ได้ข้อสรุปว่า เมื่อจระเข้ตัวดังกล่าวเป็นลูกผสมไม่สามารถปล่อยสู่ธรรมชาติได้ จำเป็นที่จะต้องหาที่อยู่ที่เหมาะสมซึ่งอาจจะไม่ใช่ภูเก็ต ถ้าไม่ใช่ภูเก็ตแล้วคนภูเก็ตจะรู้สึกอย่างไร จึงได้ข้อสรุปว่าจระเข้ตัวนี้จะต้องอยู่ในภูเก็ตเท่านั้น เพราะเป็นจระเข้ที่จับได้ในภูเก็ตและมีความผูกพันกับคนภูเก็ต จึงได้พิจารณาสถานที่ที่จะสามารถเลี้ยงจระเข้ได้ ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ มีเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว ไม่มีสถานที่และเจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงจระเข้ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงชายฝั่ง ที่จระเข้อยู่ในขณะนี้ มีแต่บ่อเพาะเลี้ยงปลาที่เป็นบ่อซิเมนต์สี่เหลี่ยมไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงจระเข้ อยู่ห่างไกลจากชุมชน ไม่เหมาะในการที่จะทำเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวสำหรับเยาวชนในการเรียนรู้ชีวิตสัตว์เลื่อยคลานได้
ที่ประชุมจึงได้ข้อสรุปว่า ทางกรมประมงจะร่วมกับภาคเอกชนในการดูแลจระเข้เลพัง โดยการร่วมกับทางสวนสัตว์ภูเก็ต ในการนำจระเข้ เลพังไปเลี้ยง ในลักษณะของการมอบให้สวนสัตว์ภูเก็ตเป็นผู้ดูแล แต่กรรมสิทธิ์ในตัวจระเข้ยังคงเป็นของรัฐเหมือนเดิม และต่อไปหากเอกชนรายใดสนใจที่จะขอจระเข้ตัวดังกล่าวไม่ดูแลก็สามารถดำเนินการแจ้งความประสงค์กับทางกรมประมงได้ แต่จะต้องเป็นพื้นที่ในภูเก็ตเท่านั้น การมอบจระเข้ตัวดังกล่าวให้สวนสัตว์ภูเก็ตดูแล เนื่องจากทางกรมประมงมองว่า สวนสัตว์ภูเก็ตมีศักยภาพในการดูแลได้เป็นอย่างดี เพราะมีประสบการณ์ในการทำสวนสัตว์และเลี้ยงจระเข้มานานกว่า 30 ปี ซึ่งขณะนี้มีจระเข้ที่อยู่ในการดูแลกว่า 200 ตัว และ จระเข้เลพังจะเป็นจระเข้ที่จะไว้โชว์ให้เด็กๆ ผู้ที่สนใจ ได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ แต่จะไม่อนุญาตให้นำไปแสดงโชว์เหมือนตัวอื่นๆ
“ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำเอกสารข้อตกลงในการมอบจระเข้ให้ทางสวนสัตว์ภูเก็ตเป็นผู้ดูแล ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งมอบจระเข้ให้ทางสวนสัตว์ภูเก็ตได้ประมาณกลางเดือน ธ.ค.นี้ หลังจากนั้นชาวภูเก็ตสามารถที่จะเข้าไปชมจระเข้ตัวดังกล่าวได้ที่สวนสัตว์ภูเก็ต”
ดร.อดิศร กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการพิจารณาถึงที่อยู่ใหม่ของจระเข้เลพังที่เป็นในส่วนของธรรมชาติ ทั้งพรุขนาดไหนอย่างละเอียดแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะตามระเบียบไม่สามารถนำสัตว์ลูกผสมไปปล่อยตามธรรมชาติได้ และที่สำคัญการนำจระเข้ไปปล่อยในธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัย เพราะจระเข้สามารถที่จะว่ายน้ำและเดินไปยังจุดต่างๆ ได้ ทำให้เป็นอันตรายกับตัวจระเข้และคนได้ จึงจำเป็นที่จะต้องหาสถานที่ที่เหมาะสมทั้งจระเข้และคน และอยากจะฝากชาวภูเก็ตทุกท่านช่วยกันดูแล จระเข้เลพัง ตัวนี้ด้วย
ด้านนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตสนับสนุนที่จะให้จระเข้ตัวดังกล่าวไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมที่สุด โดยไม่ขัดกับกฎหมายและข้อระเบียบต่างๆ ของกรมประมง
ขณะที่นายพิชัย สกุลสอน ผู้จัดการ สวนสัตว์ภูเก็ต กล่าวว่า ทางสวนสัตว์ภูเก็ตรู้สึกภูมิใจมากที่ได้รับความไว้วางใจจากจังหวัดภูเก็ตและกรมประมงให้เป็นผู้ดูแล “เลพัง” ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถดูแลเจ้าเลพังได้เป็นอย่างดี จากประสบการณ์การเพาะเลี้ยงจระเข้มานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่เปิดสวนสัตว์มาจนถึงขณะนี้เราไม่เคยซื้อจระเข้มาในสวนสัตว์จระเข้ทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนี้กว่า 200 ตัว เป็นจระเข้ที่เพาะพันธุ์เองทั้งหมด และทางเราจะดูแลเจ้าเลพังให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยขณะนี้ทางสวนสัตว์ได้มีการปรับปรุงบ่อจระเข้เพื่อรองรับเจ้าเลพังแล้ว เป็นบ่อที่เลี้ยงเพียงตัวเดียวเท่านั้น เป็นบ่อทรงกลมขนาด 20-24 เมตร ชาวภูเก็ตทุกท่านสามารถที่จะเข้าไปเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธีเปิดงานตรุษจีนภูเก็ต (เดือนสามบ้านเรา) ประจำปี 2568...
- ผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.ภูเก็ต “เรวัต อารีรอบ” ชนะ “หมอโอ” นั่งเก้าอี้นายกต่ออี...
- ผลคะแนนเลือกตั้ง ส.อบจ.ภูเก็ต ทีมภูเก็ตหยัดได้เข้า 21 ที่นั่ง ที่เหลือเป็นผู้สมั...
- คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ อบจ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย...
- ผอ.กกต.อบจ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเลือกตั้ง บรรยากาศคึกคัก ผู้สูงอายุทยอยใ...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ กกต.ภูเก็ต จัดกิจกรรมโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งนายกและส.อบจ....
- February 2025 (5)
- January 2025 (21)
- December 2024 (21)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)