เจ้าหน้าที่ย้ายไข่เต่า จำนวน 87 ฟองที่เกาะราชาไปไว้ที่ปลอดภัย แล้ว

โพสเมื่อ : Saturday, July 15th, 2017 : 6.31 pm

 

จนท.ย้ายไข่เต่าทะเลออกจากหลุมหาดปะตก เกาะราชา จ.ภูเก็ต หลังแม่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ติดกำแพงกันคลื่นโรงแรมดัง พบในหลุมมีไข่เต่า 94 ฟอง แต่แตกไป 7 ฟอง

                                          ขอบคุณภาพจากกลุ่มไลน์บนเกาะราฃา

เมื่อเวลา 14.10 น. วันนี้ (15 ก.ค.60 ) เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ศวทม.) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สบทช.6 ชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเอง เกาะราชาใหญ่ และ พนักงานโรงแรมเดอะราชา ได้ช่วยกันทำการขุดหลุมทรายที่บริเวณกำแพงกันคลื่น หาดปะตก เกาะราชา จ.ภูเก็ต หลังจากเมื่อวาน ( 14 ก.ค.) ที่ผ่านมา พนักงานโรงแรมเกาะราชา รีสอร์ท พบรอยแม่เต่าขึ้นมาขุดหลุมซึ่งคาดว่าจะมีการวางไข่ไว้

จากการขุดหลุมตรวจสอบพบว่า ภายในหลุมมีไข่เต่าทะเลจริงๆ จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายไปไว้ในจุดปลอดภัย เพื่อทำการเพาะฟักต่อไป จากการตรวจสอบพบว่า มีไข่เต่าทะเลจำนวน 94 ฟอง แต่พบว่าไข่เต่าแตกไป 7 ฟอง คงเหลือ 87 ฟอง เบื้องต้นคาดว่าเป็นเต่าตนุซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ที่ขึ้นมาวางไข่ทิ้งไว้

จากการสอบถามไปยังนายสฤษดิ์ จันทร์ดี ประธานชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเอง เกาะราชาใหญ่ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการพบรอยเท้าของเต่าทะเลและร่องรอยของหลุมวางไข่ เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (14ก.ค.) และได้แจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ โดยช่วงเย็นวันเดียวกันได้มีการขุดดูแล้วแต่ปรากฏว่าไม่เจอ

กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ (15ก.ค.60) เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯ และเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลฯ ได้มาตรวจสอบบริเวณดังกล่าวอีกครั้ง และ ขยายพื้นที่ในการขุดออกไปกระทั่งพบไข่เต่าทะเลถูกฝังอยู่ใต้พื้นทราย นับได้ 94 ฟอง แต่น่าเสียดายในระหว่างขุด พลั่วไปโดนไข่เต่าแตกไป 7 ฟอง จึงเหลืออยู่เพียง 87 ฟอง จึงได้เคลื่อนย้ายไปอยู่ในจุดที่เหมาะสมและปลอดภัย เพื่อทำการเพาะฟัก คาดใช้เวลา 45 -60 วัน สอบถามเจ้าหน้าที่ฯ ทราบว่า เต่าตัวนี้น่าจะเป็นเต่าตนุ และมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี

“สาเหตุที่ต้องขุดและนำไปเพาะฟักยังจุดอื่น เนื่องจากบริเวณที่เต่าวางไข่ หากฝนตกจะมีน้ำท่วมขัง และในหน้ามรสุมน้ำทะเลจะพัดมาถึงบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับไข่เต่าและไม่สามารถฟักเป็นตัวได้ จึงต้องเคลื่อนย้ายไปไว้ในจุดปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯ และเจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลฯ เป็นผู้ดำเนินการตามหลักวิชาการทุกประการ

แต่ทางชมรมฯ ได้ ขอให้เพาะฟักไว้บนเกาะ เนื่องจากโดยสัญชาตญาณของเต่า หากไข่เต่าฟักออกมาที่ไหน เมื่อโตขึ้นเขาก็จะกลับมาที่นั้นอีก และเมื่อฟักเป็นตัวแล้วก็ให้เจ้าหน้าที่นำไปอนุบาลต่อที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯ จนถึงอายุที่เหมาะสม สามารถปล่อยกลับคืนทะเลได้ก็ขอให้นำมาปล่อยที่เกาะราชาด้วย” นายสฤษดิ์กล่าว