เครือข่าย “ภูเก็ตไม่ทน” รวมตัวเรียกร้องรัฐบาล แก้ปัญหาความเดือดร้อนคนในพื้นที่

โพสเมื่อ : Saturday, October 10th, 2020 : 6.21 pm

เครือข่าย “ภูเก็ตไม่ทน” รวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาล “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ ระบุภูเก็ตกำลังอยู่ในห่วงเวลาเลวร้ายที่สุด

วันนี้ (10 ต.ต.63) ที่บริเวณศาลาริมขุมน้ำสะพานหินภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต กลุ่ม “ภูเก็ตไม่ทน” ประกอบด้วยผู้เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากโควิด-19,นักเรียนนักศึกษา, ทนายความ, แรงงานภาคบริการ, และ ผู้ประกอบการรายย่อย ในจังหวัดภูเก็ตได้รวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการรวมตัวครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ฝ่ายปกครอง, กอ.รมน.และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้ามาดูแลความเรียบร้อย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายทัชชกร (สงวนนามสกุล) หนึ่งในเครือข่ายภูเก็ตไม่ทน ที่เข้าร่วม ได้กล่าวว่า การรวมตัวกันในครั้งนี้เพื่อแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจาก ภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติที่สวยงามและมีวัฒนธรรมโดดเด่นมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยแลต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวปีละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน สร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า  4 แสนล้านบาท

แต่ภายหลังจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเป็นหัวหน้าทำการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจปกครองประเทศแบบเผด็จการ ใช้ชื่อว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557  และมีการบริหารประเทศแบบเอื้อนายทุน เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม การบังคับใช้กฎหมายมีหลายมาตรฐาน ช่วยเหลือพวกพ้องตัวเองให้พ้นผิดแต่จ้องจะลงโทษกับคนเห็นต่าง ออกแบบเขียนรัฐธรรมนูญกติกาสูงสุดของประเทศให้มีการสืบทอดอำนาจ โดยกำหนดให้ สว. 250 คน ที่ตนเองคัดเลือกเข้ามามีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารประเทศล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ขาดความรู้ความสามารถ ปราศจากภาวะผู้นำไร้ ซึ่งวิสัยทัศน์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตที่ลดต่ำลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตอย่างรุนแรง เศรษฐกิจหยุดชะงัก ต่างชาติไม่กล้าเข้ามาลงทุน นักท่องเที่ยวเริ่มน้อยลง รายได้ของคนภูเก็ตเหือดหาย บางธุรกิจต้องปิดตัวลง เจ้าของธุรกิจมีการผูกคอตายหนีปัญหาหนี้สิน

โรงแรมนับ 100 แห่งต้องปิดตัว บางแห่งต้องขึ้นป้ายขายราคาถูก รถตู้รถแท็กซี่จอดนิ่งไม่เคลื่อนไหวรอไฟแนนซ์มายึด กับรอขายออกในราคาถูกให้กับเต็นท์รถยนต์มือสอง เจ้าของบ้านเช่าต้องปล่อยทิ้งร้างไม่มีคนมาเช่า ร้านอาหารผับบาร์ถูกปิดเงียบ จากเคยมีรายได้ทุกวัน ไม่มีแม้แต่เงินค่าขนมให้ลูกไปโรงเรียน แรงงานหาเช้ากินข้ามต้องอดมื้อกินมื้อรอวันตายบางรายผูกคอตายหนีปัญหาหนี้สินไปแล้ว

เป็นวิกฤตร้ายแรงของคนภูเก็ตอย่างแท้จริง การบริหารประเทศล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นต้นตอของปัญหาที่ทำให้คนภูเก็ตถึงจุดตกต่ำเลวร้ายที่สุดในขณะนี้ ดังนั้นนับแต่วันนี้คนภูเก็ตจะไม่ทนอดอยากปากแห้งรอวันตายได้อีกต่อไป และจะไม่ทนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในอำนาจบริหารประเทศซ้ำเติมความเลวร้ายให้คนภูเก็ตต่อไป เพราะที่ผ่านมาเคยส่งเสียงบอกกล่าวสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบแล้ว แต่ไม่แยแส เพิกเฉยไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาให้คนภูเก็ต

จากปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น จึงมีการรวมตัวกันของเครือข่ายต่างๆ ภายใต้ชื่อกลุ่มว่า “ภูเก็ตไม่ทน” มีวัตถุประสงค์ เพื่อรวมตัวกันของคนภูเก็ตที่ได้รับความเดือดร้อนและมีผลกระทบจากการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล, ผลักดันรณรงค์ให้มีการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนภูเก็ต, สนับสนุนหลักการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย โดยขอเรียกร้อง เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของคนภูเก็ต ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

โดยเฉพาะช่วงวิกฤตที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19, ให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดจัดการตนเองโดยผู้ว่าฯ ภูเก็ตต้องมาจากการเลือกตั้ง ตลอดจนสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและประชาชนปลดแอก กล่าวคือ หยุดคุกคามสิทธิเสรีภาพของนักศึกษาและประชาชน จัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 อย่างเร่งด่วน รวมทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและ สว.250 คนต้องลาออก