เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว! สาวเจ้าของโพส์ตข่าวปลอม ไวรัสโควิด-19

สาวเจ้าของโพสต์ข่าวปลอม “ไวรัสโควิด-19” ว่ามีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ที่สนามบินภูเก็ต เข้าพบตำรวจ สภ.สาคู เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์”

วันนี้ (15 ก.พ.) ที่สถานีตำรวจภูธรสาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.กะเกณฑ์ นิกรหัสชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสาคู นายนิรุต กระบวนรัตน์ ผู้อำนวยการส่วนกฎหมายและทรัพยากรบุคคลท่าอากาศยานภูเก็ต และ ร.ต.อ.สุระ เลิศไธสง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สาคู ร่วมกันสอบสวนหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่ข่าวปลอมผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2563 โดยมีการเผยแพร่คลิปภาพนักท่องเที่ยวชาวจีนขณะรถโรงพยาบาลมารับ ว่า เสียชีวิต 1 ศพ ที่สนามบินภูเก็ต เนื่องจากป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ซึ่งทางท่าอากาศยานภูเก็ตตรวจสอบแล้วข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่คลิปข่าวดังกล่าว

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ทางตำรวจ สภ.สาคูได้มีการออกหมายเรียกบุคคลที่เผยแพร่ข่าวตามโซเชียลให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้มีการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

“การจะเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ผ่านโซเชียลต้องมีการตรวจสอบก่อนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ และเผยแพร่ไปแล้วจะมีผลกระทบต่อจังหวัดหรือประเทศอย่างไร ซึ่งในกรณีนี้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีมูลค่าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ทำรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี จึงขอให้ผู้ที่คิดจะเผยแพร่ข่าวหรือเหตุการณ์ใดก็ตาม ให้มีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเสียก่อน ซึ่งทางจังหวัดจะดำเนินการกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายในเรื่องนี้อย่างเข้มงวด” นายสุพจน์ กล่าว

ด้าน หญิงสาวรายดังกล่าว ได้กล่าวขอโทษชาวจังหวัดภูเก็ต ที่ได้เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ โดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหลังมีการเผยแพร่ออกไปแล้วก็ได้มีการลบออก แต่ถึงอย่างไรก็มีผลกระทบต่อตนเองเป็นอย่างมากและขอให้ผู้ที่คิดจะเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารใดๆ ก็ตาม จะต้องมีการตรวจสอบหรือหาข้อเท็จจริงให้ชัวร์ก่อนแชร์ข้อมูลข่าวสารนั้นออกไป ซึ่งหลังจากตนได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ก็เดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ในทันทีเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และต่อไปตนจะไม่ทำแบบนี้อีกเด็ดขาด จะนำเอาความผิดพลาดครั้งนี้เป็นบทเรียน

ทั้งนี้ภายหลังสอบปากคำ พนักงานสอบสวน สภ.สาคู ได้แจ้งข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดรายนี้ต่อไป