เข้าพบ ตร.แล้ว คู่กรณีโต้เถียงกันต่อหน้านักท่องเที่ยว ต่างฝ่ายต่างแจ้งความ ขนส่งเตรียมเรียกประชุมยุติปัญหาทั้งจังหวัด
โพสเมื่อ : Sunday, September 4th, 2022 : 5.26 pm
คนขับรถตู้ – แท็กซี่ คู่กรณีโต้ถึยงกันต่อหน้านักท่องเที่ยว เข้าพบ ตร.ต่างฝ่ายต่างแจ้งความดำเนินคดีกัน ด้านขนส่งเตรียมเรียกประชุมทั้งจังหวัด แก้ปัญหาทะเลาะวิวาท ขณะที่ ตร.ท่องเที่ยวเร่งตามหา 4 นทท.เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ
จากกรณีมีการแชร์คลิป มีการโต้เถียงกัยของคนขับรถตู้รับนักท่องเที่ยว และแท็กซี่ บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากนั้นคนขับรถตู้ได้ไปเปิดประตูให้นักท่องเที่ยวทั้ง 4 คนลงจากรถและอธิบายให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ โดยมีการแชร์คลิปดังกล่าวไปเป็นจำนวนมากซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ตได้
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ก.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งคมคาย ผกก.2 บก.ทท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.สาธิต หนูฤทธิ์ รองผกก.จราจรสภ.เมืองภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มภายในท่าเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง โดยมี ตัวแทนของท่าเรือ และ ตัวแทนของบริษัทแห่งหนึ่ง ร่วมให้ข้อมูล พร้อมสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
และเวลาเดียวกัน ที่สภ.เมืองภูเก็ต นายฉัตร (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี คนขับรถตู้บริการที่เข้าไปรับนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ 4 คนภายในท่าเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง หลังจากนักท่องเที่ยวได้ใช้เรียกใช้บริการผ่านแอปพิเคชั่น แต่สุดท้ายมีปากเสียงกับคนดูแลคิวรถตู้บริการหน้าท่าเรือรัษฎาได้เข้าให้ปากคำกับ ร.ต.อ.วิชิต นกแก้ว รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต โดยมี นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ขนส่งรับฟังการสอบสวนปากคำเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนชายเสื้อดำซึ่งเป็นคนดูแลคิวอยู่ระหว่างการเข้าให้ปากคำเช่นกัน
นายอัดชา บัวจันทร์ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต หลังปรากฎคลิปดังกล่าวผ่านโซเชียลและมีการกล่าวหาว่าผู้ให้บริการรถป้ายเขียวภายในท่าเรือรัษฎาเป็นมาเฟีย ในการรับส่งผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยว ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาให้ปากคำและตรวจสอบข้อมูล โดยอาจจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เสียหาย ในส่วนของขนส่งจังหวัดได้เข้ามาดูว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในข้อกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือว่าด้วยขนส่งทางบกหรือไม่ อย่างไร และหากเป็นความผิดจะมีการเรียกตัวไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
“ทั้งนี้สำหรับตัวผู้ขับรถ ถ้าเข้าข่ายความผิดในการให้ข้อมูลที่ทำให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหาย รวมไปถึงภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตและประเทศนั้น คงต้องไปพิจารณาความผิดในการพักใช้ใบอนุญาตหรือไม่ ส่วนรถตู้ที่นำมารับนักท่องเที่ยวนั้น มีการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย”
นายอัดชา กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กรมขนส่งทางบก ได้รับรองแอพพลิเคชั่นในการให้บริการรถรับจ้างแล้วในส่วนของภูเก็ตเบื้องต้น 3 บริษัท ประกอบด้วย เฮลโลภูเก็ต, BonKU และ Asia CABB ส่วนของบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และกรณีบริษัทที่ยังไม่มีการรับรอง และ มีการนำมาให้บริการจะประสานไปยังกระทรวงไอซีทีเพื่อดำเนินการปิดแอปพิเคชั่นต่อไป
นายอัดชา กล่าวต่อไปอีกว่า สำนักงานขนส่งภูเก็ตจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบถึงการใช้บริการรถโดยสารต่าง ๆ นอกจากนั้นจะมีการเรียกประชุมชี้แจงกับผู้ที่ขับรถรับจ้างสาธารณะ เพื่อที่จะซักซ้อมในเรื่องของการนำรถมาใช้ผ่านแอปพลิเคชั่น ทุกคนจะได้ประกอบอาชีพร่วมกัน และจะได้ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน และทุกคนก็จะอยู่ตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบกกำหนดอยู่ ปัจจุบันมีรถจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบด้วย รถป้ายเขียวจำนวนกว่า 3,000 คัน ส่วนรถแท็กซี่ประมาณ 300 คัน ส่วนรถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง รวมรถทุกประเภทประมาณ 10,000 คัน ซึ่งเพียงพอต่อการให้บริการกับนักท่องเที่ยว
ด้าน พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งคมคาย ผกก.2 บก.ทท.3 กล่าวภายหลังลงพื้นที่ท่าเทียบเรือรัษฎา และมีการหารือร่วมกับทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตและตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ว่า การให้บริการรถรับส่งผู้โดยสายจากท่าเทียบเรือไปยังจุดต่าง ๆ นั้น ทางบริษัทที่รับสัมปทานท่าเรือ ได้อนุญาตให้บริษัท รัษฎาวีไอพี จำกัด เป็นผู้ให้บริการรับจ้าง โดยมีกระบวนการดำเนินการเป็นขั้นตอน ส่วนรถรับจ้างสาธารณะจากภายนอกที่จะเข้ามารับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีการติดต่อกันไว้แล้ว สามารถมารับได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนตัวที่เห็นในเบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด
“ส่วนทางคดีนั้น ทราบว่าทางบริษัทรัษฎาฯ ได้มอบอำนาจให้ตัวแทนมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต กรณีที่มีการเผยแพร่คลิปกล่าวหาว่า เป็นแท็กซี่มาเฟีย ซึ่งทำให้เสียชื่อเสีย ขณะเดียวกันทราบว่าในฝ่ายของรถตู้ที่ไปรับนักท่องเที่ยวเองได้เข้าพบพนักงานสอบสวน และมีการแจ้งความร้องทุกข์เช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ก็คงต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย และสรุปเรื่องอีกทีว่าเป็นอย่างไร
เบื้องต้นจากการตรวจสอบของขนส่งภูเก็ต พบว่า ในส่วนของคิวรถ และรถตู้ที่นำมาให้บริการนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนนักท่องเที่ยวทั้ง 4 คน นั้น ขณะนี้ตำรวจท่องเที่ยวอยู่ระหว่างการติดตามตัว เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบว่า พักอยู่ในพื้นที่ป่าตองอ.กะทู้”
พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ กล่าวถึงการทำความเข้าใจกับผู้ให้บริการรถรับจ้างในภาพรวม ว่า ได้มีการหารือกับทางขนส่งจังหวัดภูเก็ต จะมีการเรียกประชุมคิวรถรับจ้างที่มีอยู่ประมาณ 40 คิวทั่วจังหวัดภูเก็ต มาพูดคุยทำความใจ ร่วมกับทางตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจภูธรภูเก็ต ด้วย แต่ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งทางขนส่งมีการวางระบบไว้แล้ว แต่จะต้องมาสื่อสารทำความเข้าใจให้ตรงกัน เพื่อไม่ให้เกิดภาพลักษณ์หรือผลกระทบที่สร้างเสียหายขึ้นอีก นอกจากนี้อยากฝากไปถึงผู้ประกอบการที่ให้บริการรถรับส่งผู้โดยสาร ซึ่งเข้าใจว่าทุกคนได้รับผลกระทบมาเป็นเวลา 2 ปี และขณะนี้การท่องเที่ยวต้องกลับมาแล้วก็อยากฝากเรื่องของการสื่อสารหรือคำพูด ตลอดจนการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง รวมถึงการใช้สื่อโซเซียลด้วย
- สิ้นสุดการรอคอย! ต้นปี 68 นี้ คนภูเก็ต-นักท่องเที่ยว ได้นั่งแน่รถโดยสาร EV Bus อ...
- เปิดใช้แล้ว! อาคารศูนย์อบรมจริยธรรมอิสลามประจำจังหวัดภูเก็ต...
- อาณา ดีเวลอปเมนท์ เปิดตัว “SERRANA” วิลล่าพรีเมี่ยมย่าน “ม่าหนิก” เฟสแรก 20 ยูน...
- กสิกรไทย เปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้าแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ “FX EV Car” ที่ภูเก็ต...
- โชว์เรื่องราวความรักแบบฟินๆที่เดียวในโลก ที่อควาเรียภูเก็ต...
- อบจ.ภูเก็ต ร่วมกับ ทต.ศรีสุนทร สำรวจพื้นที่เพื่อปรับปรุงถนน ซ.บ้านม่าหนิก-กะทู้ ...
- December 2024 (2)
- November 2024 (25)
- October 2024 (24)
- September 2024 (39)
- August 2024 (33)
- July 2024 (36)
- June 2024 (34)
- May 2024 (38)
- April 2024 (38)
- March 2024 (46)
- February 2024 (37)
- January 2024 (37)
- December 2023 (41)
- November 2023 (33)
- October 2023 (30)
- September 2023 (53)
- August 2023 (53)
- July 2023 (41)
- June 2023 (46)
- May 2023 (48)
- April 2023 (50)
- March 2023 (59)
- February 2023 (61)
- January 2023 (59)
- December 2022 (63)
- November 2022 (64)
- October 2022 (69)
- September 2022 (56)
- August 2022 (59)
- July 2022 (41)
- June 2022 (49)
- May 2022 (60)
- April 2022 (50)
- March 2022 (49)
- February 2022 (40)
- January 2022 (39)
- December 2021 (56)
- November 2021 (51)
- October 2021 (44)
- September 2021 (26)
- August 2021 (31)
- July 2021 (20)
- June 2021 (20)
- May 2021 (17)
- April 2021 (4)
- March 2021 (16)
- February 2021 (20)
- January 2021 (5)
- December 2020 (16)
- November 2020 (18)
- October 2020 (20)
- September 2020 (21)
- August 2020 (15)
- July 2020 (23)
- June 2020 (14)
- May 2020 (8)
- April 2020 (64)
- March 2020 (97)
- February 2020 (48)
- January 2020 (74)
- December 2019 (54)
- November 2019 (49)
- October 2019 (41)
- September 2019 (51)
- August 2019 (61)
- July 2019 (70)
- June 2019 (73)
- May 2019 (81)
- April 2019 (72)
- March 2019 (63)
- February 2019 (70)
- January 2019 (77)
- December 2018 (71)
- November 2018 (84)
- October 2018 (82)
- September 2018 (60)
- August 2018 (88)
- July 2018 (136)
- June 2018 (95)
- May 2018 (99)
- April 2018 (89)
- March 2018 (70)
- February 2018 (83)
- January 2018 (79)
- December 2017 (77)
- November 2017 (87)
- October 2017 (90)
- September 2017 (79)
- August 2017 (111)
- July 2017 (106)
- June 2017 (97)
- May 2017 (77)
- April 2017 (64)
- March 2017 (74)
- February 2017 (62)
- January 2017 (104)
- December 2016 (103)
- November 2016 (106)
- October 2016 (103)
- September 2016 (110)
- August 2016 (132)
- July 2016 (153)
- June 2016 (95)
- May 2016 (124)
- April 2016 (57)
- August 2015 (1)
- June 2015 (2)
- May 2015 (9)
- April 2015 (1)
- March 2015 (2)
- February 2015 (1)