“อุโมงค์กะทู้-ป่าตอง”  ปี 2570 เปิดให้ใช้ได้  ขณะถนน “เมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้” ยังต้องทนรอต่อ ศึกษาใหม่อีก 1 ปี

โพสเมื่อ : Friday, June 25th, 2021 : 8.41 am

อุโมงค์กะทู้ – ป่าตอง มั่นใจปี 2570 เปิดให้ใช้ได้ ส่วนถนน “เมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กะทู้” คนภูเก็ตยังต้องทนรอต่อ การทางพิเศษขอศึกษาใหม่หลังรับช่วงต่อจากกรมทางหลวง  คาดใช้เวลาศึกษาอีก 1 ปี ขณะที่

วันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ว่าที่ร้อยตรีวิกรมจากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม คณะอนุกรรมการจัดการระบบจราจรจังหวัดภูเก็ต โดยมีนางวิไลรัตน์ ศิริโสภณศิลป์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย( กทพ.) รวมทั้งรองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการโครงข่ายคมนาคมในภาพรวมของจังหวัดภูเก็ตทั้งระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร

ว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าการประชุมในครั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ตทั้งระบบ ซึ่งวันนี้มีการพูดถึงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการ ถนนเมืองใหม่ สายสาคู – เกาะแก้ว ซึ่งเดิมเป็นหน้าที่ของกรมทางหลวง แต่วันนี้รัฐบาลได้เห็นว่าโครงการโครงข่ายคมนาคมของจังหวัดภูเก็ต มีเส้นทางของเมืองใหม่ – กะทู้ และเส้นทางอุโมงค์ป่าตอง เลยเอาทั้ง 3 โครงการมาเชื่อมให้เป็นโครงการเดียวกัน และ ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมีแผนในการปฏิบัติงานค่อนข้างชัดเจน แต่เนื่องจากแผนทั้งหมดมีการดำเนินการมาจากหลายหน่วยงานเมื่อมารวมอยู่ที่เดียวก็ต้องมีการศึกษาใหม่ว่าจะสามารถเดินต่อได้เลย หรือตั้งปรับแก้ใหม่ ซึ่งที่ประชุมได้เสนอให้ทางหน่วยงานรับผิดชอบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้บอกกับประชาชนว่าแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรทั้งระบบของจังหวัดภูเก็ตจะเป็นอย่างไร

วาที่ร้อยตรีวิกรม กล่าวต่อไปว่า ณ วันนี้ที่ค่อนข้างชัดเจน คือโครงการ ก่อสร้างอุโมงค์ กะทู้ – ป่าตอง ซึ่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยรองผู้ว่าการฯ ได้แจ้งให้เราทราบว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะใช้ระยะเวลาไม่นานภายในปี 2564 หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของการดำเนินการก่อสร้าง ในส่วนอื่นๆ นั้น หลังจากที่วันนี้ ที่ประชุมไม่ว่าภาคราชการ ภาคเอกชนได้เสนอ ทางส่วนกลางที่เดินทางมาแล้วก็จะมีการปรับแก้กันอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็หลังจากนั้น ก็จะได้มีการประชุมร่วมกับจังหวัดเพื่อที่จะเดินหน้าต่อให้เร็วที่สุด” รองผวจ.ภูเก็ต กล่าว

ด้านนายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ.) กล่าวว่า วันนี้โครงการแรกที่มีความพร้อม มีความคืบหน้ามากที่สุดแล้ว คือโครงการทางพิเศษ กะทู้-ป่าตอง หรือโครงการขุดอุโมงค์ ซึ่งมีความคืบที่สุดแล้ว เนื่องจากผ่านนโยบายกองทุนเกี่ยวกับเรื่องของการร่วมลงทุนแล้ว เหลือขั้นตอนเดียวคือทางกระทรวงการคลังจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะนำเข้าได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ เมื่อผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว การทางพิเศษจะทำ 2 เรื่อง คู่ขนานกัน คือการจัดการกรรมสิทธิ์ที่ดิน และการจัดหาคนมาดำเนินการก่อสร้าง บริหารจัดการซึ่งจะเป็นในรูปแบบของการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยขณะนี้มีเอกชนทั้งที่เป็นทุนไทย และทุนต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนจำนวนหลายรายด้วยกัน

ส่วนการลงทุนจะเป็นรูปแบบของเอกชนร่วมลงทุน รัฐจะลงทุนในส่วนที่เป็นค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน ส่วนที่เป็นงานหลักคือค่าก่อสร้างแล้วก็ค่างานเรื่องด่าน ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางแล้วก็ตัวบริหารจัดการอีก 30 กว่าปี เป็นในส่วนเอกชนลงทุนทั้งหมด รัฐไม่ได้ช่วยเหลือ

สำหรับรูปแบบของตัวโครงการ เป็นอุโมงค์คู่ ทิศทางขาไป กับทิศทางขาออก ทั้งขาไป ขาออก จะมีช่องจราจรของรถยนต์ทั้งขาไปและขากลับเหมือนกัน ก็จะมีช่องกั้นระหว่างช่องทางรถจักรยานยนต์กับรถยนต์เพื่อไม่ให้ข้ามกันมาได้ เพื่อระวังป้องกันเรื่องอุบัติเหตุ คาดการจำนวนรถที่จะใช้อุโมงค์ ปีแรกที่เปิดใช้เส้นทางประมาณ 6-7 หมื่นคันต่อวัน รวมกันทั้งไปและกลับ ซึ่งจะเป็นรถยนต์ครึ่งหนึ่ง รถจักรยานยนต์ครึ่งหนึ่ง  โดยจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างเจาะอุโมงค์ ประมาณ 4 ปี ซึ่งก็จะพยายามเร่งให้เร็วกว่านั้นแต่ในเบื้องต้นกำหนดไว้ 4 ปีก่อน และ คาดว่าจะเปิดใช้เส้นทางได้ในปี 2570  ในส่วนของการเก็บค่าผ่านทางกรณีที่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จะเก็บคันละ 40 บาท จะเก็บคันละ 15 บาท ส่วนกรณีของรถ 6 ล้อ 10 ล้อ ก็จะมีอัตราที่สูงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลเล็กน้อย การปรับอัตราการจัดเก็บค่าผ่านทางเบื้องต้น จะปรับประมาณ 5 ปี ครั้ง ซึ่งจะปรับขึ้นไม่มาก ขึ้นอยู่กับดัชนีผู้บริโภคของภูเก็ตเองว่าเป็นยังไง

รองผู้ว่าการ กทพ. กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนถนนโครงการทางพิเศษที่ก่อนหน้านี้ทางกรมทางหลวงได้ศึกษาไว้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางสาคู – เกาะแก้ว และเส้นทางเมืองใหม่กะทู้ หลังจากกรมทางหลวง หลังจากการทางพิเศษได้รับมอบให้ดำเนินการทั้ง 2 เส้นทาง ก็ได้ทำทั้ง 2 เส้นทางมาผนวกรวมกัน  ก็จะได้เส้นทางใหม่ เรียกว่าเส้นทาง “เมืองใหม่ -เกาะแก้ว -กะทู้” ซึ่งจะเป็นทางด่วน โดยจุดเริ่มต้นจะอยู่ที่ทางหลวงแผ่นดิน 4026 ตรงทางเข้าเส้นสนามบิน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษา ซึ่งจะต้องมีการศึกษาใหม่ ลงมาพบปะพี่น้องประชาชนใหม่ เนื่องจากการทางพิเศษเพิ่งได้รับมอบมาจากกรมทางหลวงเมื่อประมาณช่วงต้นปีนี้เอง

ในเส้นทางนี้จะสร้างทางคู่ขนานเพิ่มทั้ง 2 ข้าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ทำให้เขตทางเพิ่มขึ้นจากเดิม 80 เมตร ก็จะกลายเป็น 100-120 เมตร ขึ้นอยู่กับว่าจะออกแบบมาเป็นยังไง ทำให้ต้องมาศึกษาและรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนใหม่ เพราะผลกระทบมีการเปลี่ยนแปลง การใช้พื้นที่ป่าไม้ก็เปลี่ยนด้วย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีเศษๆ ในการประมวลผล สรุปโครงการ ส่วนงบในการก่อสร้างคาดว่าจะใช้งบก่อสร้างเบื้องต้น 20,000 กว่าล้านบาท ซึ่งรวมในส่วนของค่าเวนคืนด้วย