อีกแล้ว! รถบัสเบรคแตก แหกโค้งเขาป่าตองชนเก๋ง บาดเจ็บรวม 5 คน

โพสเมื่อ : Wednesday, February 14th, 2018 : 10.44 am

รถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียหลักหลุดโค้งปลาร้า ต.ป่าตองก่อนพุ่งชนรถ จยย.และรถยนต์ที่ขับสวนขึ้นมาจากป่าตอง ทำให้มีคนขับรถจยย.บาดเจ็บ 1 ราย และ นทท.เจ็บเล็กน้อย 4 ราย

วันนี้(14ก.พ.) เจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถบัสรับส่งนักท่องเที่ยวเบรคแตกแล้วหลุดโค้งไปชนกับกำแพงดิน ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บริเวณทางโค้งปลาร้า ช่วงขาลงเขาป่าตอง ก่อนถึงวัดสุวรรณคีรีวงค์ ถ.พระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้งพ.ต.ต.เอกรัตน์ พลายด้วง สว.จราจรสภ.ป่าตอง จึงรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลป่าตอง และอาสาสมัครฯ

ที่เกิดเหตุเป็นโค้งช่วงขาลงเขาป่าตองที่ช่องจราจรเดินรถช่องซ้ายของขาขึ้นป่าตอง พบรถบัสสีขาวข้างรถและท้ารถเขียนคำว่า อุเทน กลัดนาขา หมายเลขทะเบียน 31-0687 ภูเก็ต สภาพด้านของรถฝั่งคนขับชนติดกับกำแพงดินริมถนนพระบารมี ได้รับความเสียหาย มี นายอุเทน กลัดนาขาแสดงตัวเป็นผู้ขับขี่และเห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนกำลังปีนลงจากรถที่ทางประตูฉุกเฉินของรถบัส เห็นเจ้าหน้าที่ฯกำลังให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้บาดเจ็บประกอบด้วย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 ราย และนักท่องเที่ยวชาวจีนบาดเล็กน้อย 4 คน ทางเจ้าหน้าที่ฯจึงนำส่งโรงพยาบาลป่าตอง เพื่อให้แพทย์ช่วยอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้น รถบัสคันดังกล่าวได้พุ่งชน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม 125 สีดำ ทะเบียน ขคจ-848 ภูเก็ตและรถยนต์เก๋ง ทะเบียน 3กฬ-7879 กทม. ได้รับความเสียหาย

จากการสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอุเทนฯ ได้ขับรถบัสคันดังกล่าวมาจากพื้นที่เมืองภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวชาวจีน จำนวน 35คน เพื่อนำมาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ป่าตอง ขณะ ขับขึ้นเขาป่าตอง ผ่านโรงแรมซีเพิร์ลเขาป่าตองแล้วเป็นช่วงขาลงเขาซึ่งเป็นโค้ง ทำให้คนเบรคไม่อยู่ส่งผลให้รถเสียหลักพุ่งข้ามเลนไปชนกับรถจักรยานยนต์และรถยนต์เก๋งที่ขับสวนขึ้นมาจากป่าตอง ก่อนที่คนขับรถบัสบังคับรถไปชนกับกำแพงดินข้างทาง จึงทำให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนสภ.ป่าตอง ได้เชิญตัวคนขับบัสไปตรวจสอบแอลกอฮอร์ และ จะสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง รวมทั้งจะประสานสถานกงสุลจีนประจำประเทศไทยให้ทราบต่อไป